เปิดตัว Windows 11 ยกเครื่องหน้าตาใหม่ พร้อมรองรับแอปฯ Android

Windows 11

Windows 11 ถือเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดของ Microsoft ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่

ที่เรียกได้ว่าออกจากกรอบเดิม ๆ ของ Windows มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และที่สำคัญก็คือ มันสามารถดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชั่น Android ผ่านทาง Amazon Appstore ได้อีกด้วย 

Windows 11 เน้น UI โปร่งโล่ง ให้ผู้ใช้ออกแบบการใช้งานได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง

Windows 11มาพร้อมกับการยกเครื่องหน้าตาครั้งใหญ่ ไล่ตั้งแต่หน้าจอล็อก, Task Bar, Start Menu, ไอคอนต่าง ๆ รวมถึงธีม UI ที่มีความโมเดิร์นมากขึ้น หน้าต่างการแจ้งเตือนและปุ่มต่าง ๆ บน Task Bar มีการดีไซน์ใหม่ ย้ายมาอยู่ไว้ตรงกลางด้านล่างหน้าจอเพื่อง่ายต่อการเข้าถึง

Windows 11

เมื่อกดปุ่ม Start ที่เป็นรูปโลโก้ Microsoft จะปรากฎเมนูดีไซน์ใหม่ที่ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงไฟล์เอกสารใน Microsoft 365 ที่เพิ่งเปิดดูได้ทันที  โดยผู้ใช้สามารถลากหน้าต่างเพื่อแบ่งหน้าจอด้วยฟีเจอร์ Snap Layouts

ที่มีรูปแบบให้เลือกมากกว่า 4 หน้าจอคล้ายกับใน Windows 10 นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถออกแบบหน้าเดสก์ทอปเพื่อใช้ในบริบทต่างกันได้ด้วย เช่น การเรียน, การทำงาน หรือส่วนตัว ซึ่งโปรแกรมหรือแอปฯ ต่าง ๆ บนหน้าจอจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามการตั้งค่าหน้าเดสก์ทอปนั้น ๆ 

Windows 11

นอกจากนี้ ฟีเจอร์เด็ดที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดสำหรับWindows 11 ก็คือ Microsoft Store ที่สามารถที่จะทำการดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน เช่น Win32, PWA, UWP, Canvas, Microsoft Teams, Visual Studio, Disney+, Adobe Creative Cloud, Zoom  ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯ Android ผ่าน Amazon Appstore ที่สามารถปรับหน้าตาให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย 

ส่วนเรื่องการใช้งานด้าน Gaming ของWindows 11 ก็ค่อนข้างหลากหลาย ไล่ตั้งแต่โหมด Auto HDR ช่วยให้ภาพของเกมมีความคมชัดยิ่งขึ้นกว่าใน Windows เวอร์ชั่นก่อน

Windows 11

รองรับขุมพลังทั้ง AMD, Intel หรือแม้แต่ Qualcomm ที่สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการนี้ได้ ในส่วนของ XBox Game Pass มีการจัดระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น และยังมีเกมให้เล่นมากขึ้น พร้อมภาพระดับ Auto HDR

สำหรับสเปกคอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่รองรับWindows 11 ประกอบด้วย CPU Dual Core 1GHz แบบ 64Bit และ RAM 4GB ขึ้นไป มี HDD หรือ SSD ขนาด 64GB ขึ้นไป รองรับการ์ดจอที่เข้าถึง DirectX 12 และต้องรองรับ Microsoft Account ต่อเชื่อมกับอินเทอร์เน็ต และ slot333 เกมเดิมพันรูปแบบใหม่ ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด เดิมพันสนุก เข้าใจง่าย มีเกมให้เดิมพันหลากหลาก มีโบนัสและรางวัลใหญ่มากมาย ฝากถอนรวดเร็ว

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Nvidia ประกาศหยุดซัพพอร์ตไดร์เวอร์ใน Windows 7 ถึง 8.1 สิ้นปี 2021

Nvidia

Nvidia บริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟฟิก หรือ “การ์ดจอ” รายใหญ่ของโลก ประกาศหยุดสนับสนุนไดร์เวอร์การ์ดจอ Game Ready บนระบบปฏิบัติการ Windows เวอร์ชั่นเก่าอย่าง Windows 7 และ Windows 8 / 8.1 ภายในเดือนสิงหาคม ปี 2021

ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะทำให้การ์ดจอที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการเหล่านี้ ไม่ได้รับการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ หรือการแก้ไขบัคต่าง ๆ อีกต่อไป โดยทางNvidia จะเน้นไปที่การพัฒนาไดร์เวอร์สำหรับ Windows 10 ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันแทน 

Nvidia ยังขยายเวลาอัพเดตความปลอดภัยไปถึงจนเดือนกันยายน 2021

Nvidiaตัดสินใจที่จะเลิกสนับสนุนการอัพเดตไดร์เวอร์การ์ดจอให้กับผู้ใช้งานบนระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าอย่าง Windows 7 และ Windows 8 / 8.1 ภายในเดือนสิงหาคม ปี 2021 ที่จะถึงนี้ แต่จะมีการขยายเวลาอัพเดตด้านความปลอดภัยออกไปอีก 3 ปี

Nvidia

จนถึงเดือนกันยายน 2024  แต่สำหรับการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่ หรือการแก้ไขบัคต่าง ๆ จะยุติลงอย่างถาวรภายในเดือนสิงหาคมนี้ โดยทางNvidia จะเน้นไปที่การพัฒนาไดร์เวอร์ใหม่ ๆ สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่เป็นระบบหลักในปัจจุบันแทน 

Nvidia

ทั้งนี้ เชื่อกันว่า เหตุผลที่Nvidia ตัดสินใจเลิกซัพพอร์ตไดร์เวอร์สำหรับ Windows 7 และ Windows 8 ก็มีสาเหตุมาจากการที่ Microsoft เลิกสนับสนุนระบบปฏิบัติการสองเวอร์ชั่นนี้มานานแล้ว โดย Windows 7 เลิกสนับสนุนมาตั้งแต่ วันที่ 14 มกราคม 2020เช่นเดียวกับ Windows 8.1 ที่กำลังจะยุติการสนับสนุนอย่างถาวรในเดือนมกราคม ปี 2023 ทำให้ทางNvidia จะต้องเจอปัญหาด้านซอฟต์แวร์พอสมควร ทำให้บริษัทตัดสินใจที่ทุ่มทรัพยากรและเวลาไปพัฒนาไดร์เวอร์สำหรับ Windows 10 แทนนอกจากนี้ ข้อมูลจาก Statcounter ยังแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 ราว ๆ 1.3 พันล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 78.89% ของผู้ใช้ทั้งหมดเลยทีเดียว ขณะที่ Windows 7 เหลือผู้ใช้งานอยู่ราว ๆ 15.52% เท่านั้น ซึ่งก็คาดว่า หากมีการเปิดตัว Windows 11 ที่มีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 24 มิถุนายน จริงตามข่าวลือ

Nvidia

ก็อาจจะทำให้ตัวเลขผู้ใช้งาน Windows รุ่นเก่าลดลงไปอีก  ส่วนการซัพพอร์ต Windows 10 จะยังคงมีต่อไปอีกหลายปี แม้ก่อนหน้านี้ทาง Microsoft ออกมาประกาศว่าจะหยุดสนับสนุน Windows ภายในปี 2025 นี้ก็ตาม

และ slot99 เกมการเดิมพันออนไลน์ที่หลายคนเลือกเล่น มาพร้อมกับ รูปแบบการเดิมพันที่สุดมันส์ เล่นง่าย ได้เงินจริง ปลอดภัย ได้เงิน 100% สมัครง่าย ฝากถอนรวดเร็ว ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Windows 10 อัปเดตใหม่พร้อมรองรับระบบเสียง AAC ผ่าน Bluetooth

Windows 10

Windows 10 ถือเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ้คของค่าย Microsoft ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดในปี 2021 มีมากกว่า 1,300 ล้านยูสเซอร์

แถมล่าสุด Microsoft ยังได้แง้มรายละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟแวร์เวอร์ชั่นต่อไปที่จะมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้Windows 10รองรับระบบเสียง AAC ผ่าน Bluetooth ช่วยให้สาวก Apple ที่ใช้ AirPods ได้สัมผัสกับเสียงที่คุ้นเคยมากขึ้น

Windows 10 รองรับระบบเสียง AAC เหมือนกับใน Airpods 

Windows 10ถือเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ้คที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่ก็เป็นระบบปฏิบัติการที่มีข้อด้อยในหลายด้านหากเทียบกับระบบปฏิบัติการของค่ายคู่แข่งอย่าง Apple ซึ่งหนึ่งในข้อด้อยที่ว่านี้ก็คือ ระบบเสียงของWindows 10

Windows 10

ที่รองรับเฉพาะระบบเสียง SBC และ aptX หาผู้ใช้งานต้องการเล่นเพลงโดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindows ไปยังเครื่องเล่น AirPods หรือหูฟังที่รองรับ SBC กับ AAC  เสียงที่ส่งผ่าน Bluetooth ก็จะส่งผ่าน SBC Codec

ซึ่งเป็นเพียง Codec พื้นฐานที่คุณภาพเสียงแย่ที่สุดในโลกของ Bluetooth เลยก็ว่าได้  แต่ทว่าล่าสุดทาง Microsoft ได้ปรับปรุงข้อจำกัดที่ว่านี้ด้วยการเตรียมปล่อยอัปเดตWindows 10ที่จะรองรับระบบเสียง AAC (Advanced Audio Coding) โดยใช้ AAC Codec ในการส่งสัญญาณเสียงผ่าน Bluetooth 

Windows 10

ทั้งนี้ ระบบเสียง AAC เป็นรูปแบบการบีบอัดเสียงที่ Apple เป็นผู้ผลักดันจนกลายเป็นระบบเสียงมาตรฐานที่ใช้กับไฟล์เสียงใน iTunes Store และเสียงที่สตรีมผ่าน Apple Music รวมถึงระบบ Bluetooth ของ iPhone และ iPod ที่ใช้งานกับ AirPods ด้วยเช่นกัน

ทำให้ระบบเสียงของอุปกรณ์ฝั่ง Apple โดดเด่นและเหนือกว่าฝั่งWindows 10มาตลอดนั่นเอง  ฉะนั้น การที่ Microsoft จะอัฟเดตให้ Windows 10รองรับระบบเสียง AAC จึงจะช่วยให้เหล่าสาวกของ Apple ที่ชอบฟังเพลงผ่าน AirPods รวมถึงและหูฟังอื่น ๆ ที่รองรับ AAC จะได้สัมผัสกับประสบการณ์เสียงขั้นสูงที่คุ้นเคยแม้จะเชื่อมต่อผ่านWindows 10ก็ตาม 

Windows 10

นอกจากนี้ Microsoft ยังจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อ unified audio endpoint ที่จะช่วยให้ Windows สามารถเลือกไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมกับอุปกรณ์ เช่น การพูดคุยผ่านไมค์ หรือการฟังเพลง เป็นต้น โดยคาดว่า ฟีเจอร์ทั้งหมดที่ว่ามานี้น่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ และห้ามพลาด betclic88 คือเว็บคาสิโนออนไลน์ ที่มีดีครบสมบูรณ์ไปทุกด้าน เล่นง่าย รวยไว ฝากถอนไว มีทุนน้อยก็เดิมพันได้ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เกมเมอร์เซ็ง! Update Windows 10 ล่าสุดเจอปัญหา FPS ตก/จอฟ้า

Update Windows 10

Update Windows 10 เวอร์ชั่น KB5001330 ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ถือเป็นตัวอัปเดตของWindows ที่มุ่งเน้นการแก้ไขช่องโหว่และปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการอัปเดตครั้งก่อน

โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ แต่ทว่าผู้ใช้งานบางรายกลับเจอว่าการอัปเดตเวอร์ชั่นนี้เต็มไปด้วยข้อผิดพลาดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจอฟ้า, ค่า FPS ตกขณะเล่นเกม ขณะที่บางส่วนไม่สามารถติดตั้งอัปเดตดังกล่าวได้ด้วยซ้ำ 

Update Windows 10 ทำให้ Drivers อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับ Windows เวอร์ชั่นนี้

ผู้ใช้งานสื่อโซเชียลใน Reddit บางส่วนออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่พวกเขาได้รับการUpdate Windows 10 เวอร์ชั่น KB5001330 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ที่ใช้อุปกรณ์ Surface พบว่าไม่สามารถติดตั้งอัปเดตดังกล่าวได้

Update Windows 10

โดยขึ้นข้อความแสดงข้อผิดพลาด 0x800f081f , 0x800f0984 , 0x800f0922 ขณะที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ PC และแล็ปท็อปบางส่วนก็รายงานว่าการUpdate Windows 10 เวอร์ชั่นดังกล่าวทำให้การเล่นเกมทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นค่า FPS ตกจนเกมอืด-ช้า หรือเกิดอาการหน้าจอฟ้า (Blue Screen of Death) และผู้ใช้งานบางคนก็พบว่า Drivers อุปกรณ์บางอย่างไม่รองรับ Windows เวอร์ชั่นนี้เลยก็มี 

Update Windows 10

อย่างไรก็ตาม หากใครที่ได้รับUpdate Windows 10 เวอร์ชั่น KB5001330 แล้วพบปัญหาเหล่านี้ ก็ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยการถอนการติดตั้งแพทซ์เวอร์ชั่นดังกล่าวออกไปก่อนจนกว่าทาง Windows จะปล่อยตัวอัปเดตเวอร์ชั่นแก้ไขข้อผิดพลาดออกมา ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอน

Update Windows 10

ทั้งนี้Update Windows 10 เคยเกิดปัญหาคล้ายกันนี้มาแล้วหลังการอัปเดตเมื่อช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2021 ที่ผ่านมา โดยปัญาหลักในตอนนั้นเกิดขึ้นกับเวอร์ชั่น KB4598299 และ KB4598301 ก่อนที่ Windows จะปล่อยแพตซ์อัปเดตใหม่พร้อมปรับปรุง .NET Framework 3.5 และ 4.8 เพื่อแก้ปัญหาการเลื่อนภาพ DPI ของ TreeView ได้ไม่เต็มสเกล, แก้ไข ASP.Net ล้มเหลว และเพิ่มคุณภาพงาน Native Image อัตโนมัติ และห้ามพลาด 356bet  เว็บเด็ด เว็บที่คุณต้องไม่พลาดที่จะมาร่วมสนุก เดิมพันง่าย ได้เงินจริง มีเกมให้เดิมพันหลากหลาย ฝากถอนไว ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่