Tag Motorola

moto G13 ว่าที่มือถือมิดเรนจ์รุ่นใหม่ของ Motorola ที่ล่าสุดได้มีการปล่อยภาพเรนเดอร์ตัวเครื่องและข้อมูลสเปคบางส่วนออกมาเป็นที่เรียบร้อย โดยมันจะมากับหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 732G ที่ให้ความเร็วสูงสุด 2.3GHz และมีกล้องหลังแบบเลนส์คู่ ความละเอียดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 20W 

moto G13 อาจมากับชิปเซ็ต Snapdragon 732G และ RAM ขนาด 4GB

moto G13ได้มีการปล่อยภาพเรนเดอร์และข้อมูลสเปคบางส่วนออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมันจะมากับดีไซน์ขอบตัวเครื่องแบบเหลี่ยม ด้านหลังมีผิวสัมผัสแบบด้าน ด้านหน้าติดตั้งหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด FHD+

มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 393 ppi รีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ใช้ชิปประมวลผลของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 732G ขนาด 8 นาโนเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 2.3GHz

ทำงานร่วมกับจีพียู Adreno 618 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุดสูงสุด 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ที่รองรับการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวัน แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 20W อีกด้วย 

ในด้านการถ่ายภาพคาดว่าmoto G13 จะมากับกล้องหลังเลนส์คู่ ความละเอียด 50MP+2MP พ่วงไฟแฟลช LED รองรับโหมดการถ่ายภาพ HDR และสามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps

พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 16MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps เช่นเดียวกัน รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 4G, Bluetooth 5.3, NFC, USB Type-C 2.0 และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องอีกด้วย สำหรับmoto G13 คาดว่าจะเปิดตัวช่วงต้นปี 2023 แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับราคาวางจำหน่าย แต่ที่แน่นอนแล้วก็คือจะมีการส่งเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย

เพราะมีข้อมูลว่ามันผ่านการรับรองจากทาง กสทช. ของบ้านเราไปตั้งแต่เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่รอเปิดตัวในบ้านเราเท่านั้น และไม่ควรพลาด star5566 เว็บเดิมพันออนไลน์ เว็บตรง ทางเข้า หลากหลาย ปลอดภัย พร้อม เครดิตฟรี 24ชม.

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola Edge+ ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวในต่างประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยสเปกของมือถือรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าแรงระดับเรือธงเลยทีเดียว โดยมันจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผแบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+

รีเฟรชเรทถึง 144Hz  ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen1 และมีชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,800mAh

Motorola Edge+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen1 และ RAM 8GB/12GB

Motorola Edge+มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 144Hz รองรับการแสดลผลแบบ HDR10+ และมีอัตราส่วนหน้าจอตัวต่อเครื่องมากถึง 95.8% ครอบด้วยกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 ตัวหน้าจอด้านบนใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า

ติดตั้งลำโพงสเตอริโอและระบบเสียง Dolby Atmos ตัวมือถือทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen1 ของ Qualcomm ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร

ความเร็ว 3.0GHz ประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB/12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 3.1 ที่มีความจุถึง 3 ขนาด ได้แก่ 128GB/256GB/512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,800 ที่มีเทคโนโลยีชาร์จไว 15W  

ด้ายการถ่ายภาพMotorola Edge+ มาพร้อมชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP+50MP+2MP รองรับการถ่ายภาพ HDR และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที

ส่วนกล้องหน้าก็ให้มาที่ความละเอียดถึง 60MP  นอกจากนี้มือถือรุ่นนี้จะรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G, Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 6E  รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB Type-C 3.1 ด้วย

สำหรับMotorola Edge+ ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา ไปตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33,xxx บาท  ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่นั้น อาจจะต้องลุ้นหนักสักหน่อย

เพราะบ้านเราเพิ่งนำเจ้าMotorola Edge 30 Pro ที่มีสเปกใกล้เคียงกันเข้ามาวางขายได้ไม่นาน หากนำ Edge+ เข้ามาขายอีกรุ่นก็อาจจะทับไลน์กันได้นั่นเอง และห้ามพลาด ufabet xyz เว็บแทงบอลออนไลน์น้องใหม่ ให้บริการอย่างครบวงจร เว็บตรง เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola บริษัทไอทีสัญชาติอเมริกัน-จีน ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำด้านสมาร์ทโฟนมาอย่างยาวนาน แต่ที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือบริษัทแห่งนี้เริ่มหันมาให้ความสนใจเทคโนโลยีประเภท VR/AR มากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

และล่าสุดก็ได้ออกมาเผยโฉมแว่น VR และหน่วยประมวลผลแบบห้อยคอสุดล้ำ สำหรับใช้งานกับแว่น VR ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ PC ให้ยุ่งยาก เพราะมีหน่วยประมวลผลต่าง ๆ อยู่ในตัว แถมยังมีน้ำหนักเบา ไม่ทำให้เกิดอาการเมื่อยคอเวลาใช้งานนาน ๆ เหมือนแว่น VR ส่วนใหญ่ในปัจจุบันอีกด้วย

Motorola เผยคอนเซ็ปหน่วยประมวลผลแบบห้อยคอชิป Snapdragon 8 Gen 1

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี VR ถูกพัฒนาไปอีกขั้นด้วยแว่น VR ประเภท Oculus Quest ที่สามารถเล่นเกมได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับเครื่อง PC เพราะมีหน่วยประมวลผลต่าง ๆ ในตัวอยู่แล้ว

แต่ข้อเสียของแว่น VR ประเภทนี้คือมีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้ไม่สะดวกเวลาใช้งานนาน ๆ เพราะจะเกิดอาการล้า/เมื่อยคอได้ ล่าสุดทางMotorola จึงได้พัฒนาแว่น VR พร้อมหน่วยประมวลผลแบบห้อยคอ ซึ่งเชื่อมต่อกันผ่านสายเคเบิ้ลอีกที แก้ปัญหาแว่น VR มีน้ำหนักมากเกิน

แม้ว่าข้อมูลในตอนนี้จะแทบไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าอุปกรณ์ที่ว่านี้ออกมาเลย แต่ทางMotorola ก็ได้ปล่อยภาพเรนเดอร์ดีไซน์พร้อมข้อมูลหยาบ ๆ ออกมามาส่วน โดยอุปกรณ์ VR ตัวนี้จะมีหน่วยประมวลผลที่มีรูปร่างและขนาดคล้ายมือถือเอามาห้อยคอเป็น Neckband ภายใช้ประกอบด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1, แบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh, ลำโพง, เซนเซอร์ Gyroscope รวมถึงทัชแพด ซึ่งเจ้าหน่วยประมวลผลแบบห้อยคอนี้

จะทำหน้าที่เป็นเหมือนสมองในการประมวลผลกราฟฟิกและยังเป็นแหล่งพลังงานให้แว่น VR โดยเชื่อมต่อผ่านสาย USB-C ทำให้แว่น VR มีน้ำหนักที่เบาลงกว่าแว่นประเภท Oculus Quest ในปัจจุบันที่หนักราว 2 กิโลกรัม  อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงไอเดียของทางMotorola เท่านั้น ยังไม่ได้มีการผลิตสำหรับการตลาดแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าอุปกรณ์พวกนี้จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบของอุปกรณ์ VR ในอนาคตมากน้อยแค่ไหน และขอแนะนำ Slot333 เว็บรวมเกมคาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย และยังฟรีเครดิตอีกด้วย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติอเมริกัน-จีน ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนจอพับเจ้าแรกของโลกตั้งแต่ปี 2020 แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาอีกเลย จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า บริษัททำการจดสิทธิบัตรใหม่เป็นดีไซน์สมาร์ทโฟนพับได้ทรงตลับแป้งที่มาพร้อมความแปลกใหม่ เนื่องจากมีหน้าจออยู่ด้านนอกแทนที่จะอยู่ด้านในเหมือนมือถือจอพับได้ทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการสมาร์ทโฟน ช่วยให้ตัวเครื่องพับเข้าหากันได้สนิท ไม่ทิ้งรอยย่นบนหน้าจอ

Motorola จดสิทธิบัตรมือถือจอพับดีไซน์ใหม่กับองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 Motorola ถือเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนจอพับได้ด้วยการเปิดตัว Moto Razr และ Razr 5G ซึ่งสามารถเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา เราก็ได้เห็นค่ายมือถือต่าง ๆ ทั้ง Samsung, OPPO และ HUAWEI ต่างเปิดตัวมือถือจอพับของตัวเองออกมาแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผิดกับฝั่ง Moto ที่ไม่มีรุ่นใหม่ออกมาอีกเลย  จนกระทั่งล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า บริษัททำการจดสิทธิบัตรฉบับใหม่ที่บอกใบ้ว่า พวกเขากำลังซุ่มพัฒนาสมาร์ทโฟนพับได้รุ่นใหม่อยู่

ทั้งนี้ สิทธิบัตรดังกล่าวเป็นผารจดทะเบียนกับ “องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก” หรือ “ดับเบิ้ลยูไอพีโอ” (WIPO) โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนพับได้รูปทรงตลับแป้ง แต่มีหน้าจออยู่ด้านนอกแทนที่จะเป็นด้านใน เมื่อพับเข้าหากันก็จะได้มือถือทรงตลับแป้งที่มีหน้าจออยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยที่ด่านหนึ่งของตัวเครื่องมีโมดูลยื่นออกมา

ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตำแหน่งของกล้องหลัง (คล้ายกับ Moto Razr)  ส่วนกลไกบันพับของมือถือรุ่นนี้คาดว่าจะเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการมือถือจอพับ ซึ่งจะช่วยให้ตัวเครื่องพับเข้าหากันได้สนิทมากขึ้น และไม่ทิ้งรอยพับไว้บนหน้าจอ  อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า

Motorola จะนำสิทธิบัตรดังกล่าวมาใช้ผลิตเพื่อการตลาดจริงหรือไม่ เพราะหลายครั้งที่คอนเซ็ปต์ตามสิทธิบัตรไม่ได้ถูกนำมาใช้ เพราะไม่คุ้มค่าต้นทุนการผลิต และห้ามพลาด boss369  แทงบอลออนไลน์ คาสิโนออนไลน์ เดิมพันง่าย รวยไว ฝาก-ถอน รวดเร็วตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola G71 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่ในซีรีส์ G ของค่าย Motorola มาพร้อมจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G ได้มากถึง 13 Bands ไปจนถึงรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย Wi-Fi 6  พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว

ความละเอียดระดับ Full HD+ ที่สามารถปรับความสว่างสูงสุดได้ถึง 700 nits ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Snapdragon 695 ของ Qualcomm ให้ความเร็วประมวลผลสูงสุดถึง 2.2GHz และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สะใจที่ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W 

Motorola G71 5G ใช้ชิป Snapdragon 695 และ RAM ขนาด 6GB

Motorola G71 5G มาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ (2400 x 1080 พิกเซล)

รองรับอัตรารีเฟรชเรท 60Hz และการแสดงสีสันแบบ DCI-P3 สามารถเร่งความสว่างสูงสุดได้ถึง 700 nits หน้าจอด้านบนใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 รันบนชิปเซ็ต Snapdragon 695 ของ Qualcomm ความเร็ว 2.2GHz จับคู่กับหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 619  

ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB และ ROM ความจุ 128GB (รองรับ microSD สูงสุด 512 GB)  ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นให้มาที่ขนาด 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W

นอกจากนี้Motorola G71 5G ยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP52 รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G แบบ Dual-Sim ได้มากถึง 13 Bands หรือเชื่อต่อผ่านเครือข่าย Wi-Fi 6 รวมถึงเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ต USB-C 2.0 

ในส่วนกล้องโมดูลกล้องนั้น มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP มุมกว้าง 118 องศา และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP สามารถถ่ายภาพได้ขนาดภาพสูงสุด 8,000 x 6,000 พิกเซล

และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดของภาพสูงสุด 1920 x 1080 พิกเซล ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 16MP สามารถบันทึกวีดีโอระดับ HD ที่ 30 เฟรมต่อวินาที

สำหรับMotorola G71 5G จะเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศอินเดียเป็นที่แรก โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีเขียว (Neptune Green) และสีฟ้า (Arctic Blue) สนนราคาอยู่ที่ 18,999 รูปี หรือประมาณ 8,500 บาท

ส่วนจะมีการนำเข้าไปวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทยด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องติดตามกันต่อไป และขอแนะนำ sa gaming เว็บตรง เว็บตรง คาสิโนออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศ เดิมพันง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย เล่นได้ทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

motorola razr สมาร์ทโฟนจอพับแบบ Clamshell รุ่นแรกของแบรนด์motorola ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 แถมหลังจากนั้ยยังมีรุ่น 5G ตามมาอีก แต่ครั้งนั้นกลับไม่ได้รับเสียงตอบรับจากผู้ใช้ทั้งหลายเท่าที่ควร

เพราะมีราคาสูงลิบเมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มาระดับกลาง ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น  ซึ่งก็ดูเหมือนทางMotorola จะต้องการแก้ตัวใหม่ เพราะล่าสุดได้มีข้อมูลสเปกบางส่วนของ razr รุ่นใหม่หลุดออกมาบ้างแล้ว บอกได้คำเดียวว่าระดับไฮเอนด์เลยทีเดียว 

motorola razr อาจมาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 1 ของ Qualcomm

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ทางmotorola เคยเปิดตัวmotorola razr มือถือจอพับแบบ Clamshell รุ่นแรกของค่ายออกมาเป็นครั้งแรก แต่กลับไม่ปังเท่าที่ควร เนื่องจากผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ามีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสเปกที่ให้มาระดับกลาง ๆ เท่านั้น  ล่าสุดmotorola เตรียมแก้มืออีกครั้งด้วยการพัฒนา razr รุ่นใหม่ที่มาพร้อมสเปกระดับไฮเอนด์  โดยมีการยืนยันออกมาจากทางผู้บริหารของ Lenovo ที่เป็นบริษัทแม่ของmotorola ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า ตอนนี้ทางบริษัทกำลังพัฒนามือถือจอพับรุ่นใหม่และเตรียมเปิดตัวในเร็วนี้

โดยจากข้อมูลที่หลุดออกมาชี้ว่าmotorola razr รุ่นใหม่จะมาพร้อมชิปเซ็ตเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ของ Qualcomm ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร หลังจากที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในรุ่นก่อนว่ากั๊กสเปกเอาไว้ด้วยชิป Snapdragon 710 ที่เป็นชิประดับกลาง  ส่วนสเปกอื่น ๆ ก็มีทั้งหน่วยความจำ RAM ขนาด 6GB/8GB/12GB และ ROM ความจุ 128GB/256GB/512GB  ส่วนหน้าจอยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่คาดกันว่ามันน่าจะใช้พาเนลแบบ AMOLED ความละเอียดไม่น้อยกว่า Full HD

รองรับอัตรารีเฟรชเรทไม่น้อยกว่า 120Hz ซึ่งถือเป็นสเปกขั้นต่ำของมือถือไฮเอนด์ในปัจจุบัน (หากน้อยกว่านี้อาจโดนวิจารณ์เหมือนรุ่นก่อน) และอาจจะใช้ดีไซน์หน้าจอแบบเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า

ซึ่งก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่าmotorola razr รุ่นใหม่นี้ จะกลายเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งของเจ้าตลาดอย่าง Samsung Galaxy Z Flip ได้หรือเปล่า และอย่าพลาด ufa99999 สมัครยูฟ่าเบท เล่นคาสิโน กับเว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่น ทางเข้าฟรีเครดิต ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

moto edge X30 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของค่าย Motorola ที่มาพร้อมชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์ตัวใหม่อย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ของ Qualcomm ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARMv9 ขนาด 4 นาโนเมตร

ซึ่งประกาศศักดาด้วยการทำคะแนนทดสอบบน AnTuTu ทะลุ 1 ล้านคะแนน มาพร้อมหน้าจอ AMOLED แบบ 10-bit ความละเอียด Full HD+ ที่รองรับอัตรารีเฟรชเรทถึง 144Hz 

moto edge X30 ใช้เซนเซอร์กล้องหลัก OV50A ความละเอียด 50MP

moto edge X30มาพร้อมจอแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว แบบ 10-bit ความละเอียด Full HD+ รองรับอัตรารีเฟรชเรทถึง 144Hz และปรับความสว่างสูงสุดได้ถึง 1024 nits  

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่ออกจากโรงงาน ครอบด้วยยูสเซอร์อินเตอร์เฟส MYUI 3.0 ใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ของ Qualcomm

ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARMv9 ขนาด 4 นาโนเมตร ซึ่งประกาศศักดาด้วยการทำคะแนนทดสอบบน AnTuTu ทะลุ 1 ล้านคะแนน ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB/12GB แบบ LPDDR5

และ ROM ความจุ 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 ในส่วนของแบตเตอรี่ก็อัดมาให้ถึง 5000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 68W ที่ Motorola เคลมว่า สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 – 50% ภายในเวลาแค่ 13 นาทีเท่านั้น 

นอกจากนี้ทางด้านของmoto edge X30 ยังได้มีการมาพร้อมกับตัวกล้องหลังที่มีจำนวน 3 ตัว ประกอบกันไปด้วยในส่วนของกล้องหลังใช้ทำการเซนเซอร์ของทาง OV50A ความที่มันนั้นละเอียดกันแบบ 50MP ของ OmniVision พร้อม ระบบโฟกัส Quad Phase Detection ระบบโฟกัส Quad Phase Detection, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 50MP เซนเซอร์ ISOCELL S5KGM1 มุมกว้าง 117 องศา มีระยะโฟกัสที่ 2.5 เซนติเมตร ใช้เป็นเลนส์ Macro ได้

และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K  ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 60MP  ส่วนระบบเสียงติดตั้งโพงคู่สเตอริโอ รองรับระบบเสียง Dolby Surround  ความน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติมคือ ฟีเจอร์ ready for ที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือเข้ากับหน้าจอภายนอกในโหมดเดสก์ท็อปได้ 

สำหรับ moto edge X30 เป็นตัวอย่างเป็นทางการในประเทศจีนไปแล้ว และคาดว่าจะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ โดยมีราคาในรุ่น RAM 8+128GB ที่ 3,199 หยวน หรือประมาณ 16,900 บาท,

RAM 8+256GB ราคา 3,399 หยวน หรือประมาณ 17,900 บาท และ RAM 12+256GB ราคา 3,599 หยวน หรือประมาณ 18,900 บาท

และขอแนะนำ ufa24h เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่รวมเอาความสนุกและความบันเทิง มีครบจบที่เดียว เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

moto edge X30 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ของค่าย Motorola ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ โดยล่าสุดทาง Motorola ได้มีการออกมาปล่อยในส่วนของภาพโปสเตอร์และทางด้านของข้อมูลเกี่ยวกับสเปคที่ถือว่าเป็นคร่าว ๆ ของมือถือรุ่นนี้บ้างแล้ว

โดยมมันจะมาพร้อมกับจอแบบ AMOLED รองรับรีเฟรชเรทสูงถึง 144Hz และ HDR 10+ ที่สำคัญคือมันอาจกลายเป็นมือถือรุ่นแรกในโลกที่ได้ใช้ชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ของ Qualcomm อีกด้วย

moto edge X30 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP

Motorola ได้ออกมาภาพโปสเตอร์และสเปคบางส่วนของmoto edge X30 มือถือเรือธงรุ่นใหม่ โดยมันจะมาพร้อมในส่วนของหน้าจอที่เป็น AMOLED ที่ถือว่าขนาดจำนวน 6.67 นิ้ว ความที่มันนั้นละเอียดกันแบบ Full HD+ รองรับในส่วนของทางด้านอัตราที่ทำการรีเฟรชเรท 144Hz รองรับการแสดงผลสีแบบ 10-bit และ HDR10+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย My UI 3.0 

ใช้ขุมพลังชิปเซ็ตสุดล้ำอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 Snapdragon 8 Gen 1 ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุดถึง 3.0GHz ซึ่งจะทำให้มันกลายเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่เปิดตัวพร้อมชิปรุ่นนี้ ส่วน RAM คาดว่าจะมีขนาด 16GB 

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลจากโปสเตอร์ยังระบุด้วยว่า edge X30 จะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 68W แม้จะไม่ได้หวือหวาเหมือนสมาร์ทโฟนเรือธงของค่ายอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่พุ่งไปถึง 100W+ แล้ว แต่ก็ถือว่าชาร์จได้เร็วกว่าปกติหลายเท่า และเหลือเฟือสำหรับการใช้งานจริง 

นอกจากนี้moto edge X30 ยังจะมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลังความละเอียด 50MP, กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มไม่แพ้กันด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียดถึง 60MP ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอสำหรับวางกล้องหน้า 

ทั้งนี้ Motorola มีกำหนดการเปิดตัวmoto edge X30 ในประเทศจีนเป็นแห่งแรก ในวันที่ 9 ธันวาคม และมีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการวันที่ 15 ธันวาคม ส่วนการวางจำหน่ายทั่วโลกจะใช้ชื่อว่า Motorola Edge 30 Ultra และมีกำหนดวางจำหน่ายภายในกลางเดือนมกราคม 2022 นี้

และห้ามพลาด Slot333 รวมเกมคาสิโนออนไลน์ที่นี้เล่นตรงไม่เสียค่าคอม ที่ดีที่สุด และยังฟรีเครดิต เล่นง่าย รวยไว ได้เงินจริงแน่นอน

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola Edge 20 Fusion สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยมันมาพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ OLED ขนาดยักษ์ถึง 6.7 นิ้ว

ความละเอียด Full HD+ กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 108MP พร้อมแบตเตอรี่ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่กันเลยแบบสะใจจำนวน 5000 mAh ที่ได้มีการรองรับในส่วนของเทคโนโลยีที่ได้ทำการชาร์จไวกันไปเลยถึงจำนวน 30W ในราคาเพียงแค่หมื่นต้น ๆ เท่านั้น

Motorola Edge 20 Fusion ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U และ RAM 8GB

Motorola Edge 20 Fusionมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080 x 2400 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz ความลึกสี 10-bit และรองรับมาตรฐาน HDR10+ หน้าจอใช้ดีไซน์แบบเจาะรูด้านบนสำหรับวางกล้องหน้า  ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 รันบนชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 800U

ที่เป็นชิปที่ได้ทำการรองรับในส่วนของ 5G ด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตร ที่ถือว่ามีความเร็วแบบว่า 2.4GHz ทำงานร่วมกับทางด้านหน่วยที่ได้ทำการประมวลผลในเรื่องของกราฟฟิก Mali-G57 MC3

ใช้หน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และ ROM ความจุ 128GB (สามารถเพิ่ม microSD card ได้สูงสุด 512GB) ในส่วนของแบตเตอรี่ก็ให้มาขนาดใหญ่จุใจที่ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 30W สามารถชาร์จจาก 0 – 100% ภายในระยะเวลาแค่ 1 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น

หรือชาร์จ 20 – 30 นาที ก็ได้แบตเพิ่ม 30 – 40%  นอกจากนี้Motorola Edge 20 Fusion ยังมาพร้อมกับในส่วนของตัวกล้องหลังที่ถือว่าจำนวน 3 ตัว ประกอบกันไปด้วยตัวกล้องหลักจำนวน 108MP ใช้ในส่วนของเซ็นเซอร์ที่มีอยู่ขนาด 1/1.52 นิ้ว ขนาดพิกเซล 0.7µm ค่ารูรับแสง f/1.9, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 8MP

รูรับแสง f/2.2 มุมกว้าง 118 องศา และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4 สามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพครบครัน

ทั้งส่วนของโหมดที่ได้ทำการปรับหน้าสวยกันได้เลยแบบว่าอัตโนมัติ (AI Face Beauty), ตั้งเวลาในการที่จะถ่ายภาพกันนั้นแบบอัตโนมัติ (Self-Timer), ระบบที่ทำการโฟกัสในส่วนของตัวภาพ Phase Detection Auto Focus (PDAF) ฯลฯ 

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ขนาดพิกเซล 0.7µm รูรับแสดง f/2.3 สามารถที่จะทำการบันทึกในส่วนของตัววิดีโอที่ได้มความละเอียดกันแบบ HD ได้ที่จำนวน 30 เฟรมกันเลยจริง ๆ ต่อวินาที 

โดยตัวเครื่องเองนั้นสามารถที่จะทำการรองรับในเรื่องของการเชื่อมต่อรุ่นใหม่ทั้ง Bluetooth 5.1, USB Type-C 2.0 และรองรับในส่วนของการถ่ายโอนเกี่ยวกับทางด้านข้อมูลกับ Flash Drive โดยตรง (USB On-The-Go) สำหรับMotorola Edge 20 Fusion วางจำหน่ายแล้วในบ้านเราที่ราคา 10,xxx บาท

และห้ามพลาด AE Gaming คาสิโนออนไลน์ เล่นได้ทุกที่ สะดวกสบาย เล่นง่าย ได้เงินไวมาก มีรางวัลมากมาย ให้บริการการลงทุนตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

moto g power สมาร์ทโฟนที่ถือว่าเป็นระดับกลางกันเลยจริง ๆ ของตัวรุ่นใหม่ในส่วน Motorola ที่มาพร้อมสเปคซึ่งได้รัยการอัพเกรดจากรุ่นก่อนเมื่อช่วงต้นปีแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ใหม่ที่ยกแผงกล้องหลังไปไว้ด้านซ้าย

แล้วย้ายเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไปไว้ตรงกลางแทน ส่วนหน้าจอใช้พาเนลแบบ IPS LCD ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio G37 พร้อมกล้องหลังความละเอียด 50MP ที่มีเทคโนโลยี Quad Pixel รวม 4 พิกเซลเล็กเป็น 1 พิกเซลใหญ่ ช่วยเพิ่มคุณภาพของรูปถ่าย

moto g power ใช้ชิป Helio G37 และ RAM ขนาด 4GB

moto g power มาพร้อมในส่วนของทางด้านหน้าจอกันนั้นแบบที่เป็น IPS LCD ขนาดที่ได้จำนวน 6.5 นิ้ว ความที่มันนั้นละเอียดแบบ HD+ (720 x 1600 พิกเซล)

รองรับในส่วนของอัตราที่ทำการรีเฟรชเรทจำนวน 90Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 รันบนชิปเซ็ต MediaTek Helio G37 ที่ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และ

ROM ความจุ 64GB/128GB (เพิ่ม microSD Card ได้) ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น ก็ให้มาแบบอึด ๆ ที่ 5000 mAh พร้อมรองรับการชาร์จไว 10W ซึ่งตรงนี้ถือว่าน้อยกว่ารุ่นก่อนเมื่อช่วงต้นปีที่รองรับถึง 15W แต่ในเรื่องขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่องไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่นัก

นอกจากนี้moto g power ยังมาพร้อมกับทางด้านตัวของกล้องหลังที่มีถึงจำนวน 3 ตัว ประกอบกันไปด้วยในส่วนของกล้องหลักที่ได้มีความละเอียด 50MP รอบรับเทคโนโลยี Quad Pixel รวม 4 พิกเซลเล็ก เป็น 1 พิกเซลใหญ่ เพื่อความไวแสงที่สูงขึ้น ช่วยเพิ่มคุณภาพของรูปถ่าย

โดยเอาต์พุตปกติจะอยู่ที่ 12.5MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4 และกล้อง Depth ความละเอียด 2 MP รูรับแสง f/2.4  ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ขนาด 8MP รูรับแสง f/2.0  โดยตัวเครื่องรองรับการเชื่อมต่อทั้งรุ่นใหม่ทั้ง Bluetooth 5 และ USB Type-C

ทั้งนี้ Motorola มีแผนจะเริ่มวางจำหน่ายmoto g power ในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรก ต่อด้วยแคนาดา ก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่งยังไม่มีกำหนดการที่แน่ชัด

บอกเพียงแค่ว่าจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งกว่าจะขายจริงคงต้องรอถึงช่วงต้นปี 2022 นู่นเลย โดยคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,600 บาท

 และอย่าพลาด slot game 666 สล็อตออนไลน์ 666 สล็อตออนไลน์มือถือ ฝากถอนขั้นต่ำ 1 บาท เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่