รีวิวที่ห้ามพลาดเด็ดขาด Microsoft Windows 11 สุดทันสมัย

Microsoft Windows 11

Microsoft Windows 11 เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าทุกท่านต้องรอคอยอย่างแน่นอนในตอนนี้ ที่ได้มีการได้ยินประกาศมาแล้วว่าทางไมโครซอฟท์ ได้มีการอัปเกรดจากระบบเดิม มาเป็นระบบใหม่ตามที่หลายท่านได้เรียกร้องกัน ที่จะเพิ่มความน่าสนใจในการใช้งานได้ดีกว่าเก่าหรือไม่ เราต้องมารุ่นกันให้ได้ แล้วยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เรียกว่ามีความครบครันตามต้องการมากที่สุด ถ้าหากว่าท่านใดที่อยากลองใช้งานใหม่ๆ ที่จะมารู้ถึงข้อมูลที่น่าสนใจนั้น เรามาติดตามกันถึงข้อดีและข้อเสีย ที่จะมีประสิทธิภาพในการใช้งานแค่ไหนกัน

ความน่าสนใจใน Microsoft Windows 11

 Microsoft Windows 11

ความน่าสนใจ ที่จะทำให้คุณนั้นได้อัปเดตในระบบใหม่กันแล้ว ที่มีเงื่อนไขในส่วนของฮาร์ดแวร์ด้วย ที่นับว่ามีความสำคัญเช่น พื้นที่ในการเก็บข้อมูลเยอะ แล้วยังมีแรมเปลี่ยนใหม่ และอื่นๆ ที่ทำให้ตัวเครื่องได้มีการเชื่อมต่อระบบต่างๆได้ไวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากว่าใครที่มีการตรวจสอบผ่านเสร็จแล้ว จะสามารถใช้งานใหม่ได้

เมื่อเราเปิดหน้าจอใช้งาน เราจะพบว่ามีการปรับในส่วนของแถบเมนู ที่จะมีเปลี่ยนมาตรงที่กลางจอ ซึ่งต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในการกดคำสั่งต่างๆได้ง่าย มีการเพิ่มทางเลือกให้ทุกคน ที่ปรับแถบงานได้เหมือนเดิม โดยถ้าหากว่าใครไม่ชินตรงที่อยู่กลางเครื่อง แล้วยังสามารถที่จะรองรับการใช้งานในระบบใหม่ๆได้ง่าย แนะนำให้คุณตัดสินใจมาอัปเกรดกันได้เลย แล้วจะไม่ผิดหวัง

 Microsoft Windows 11

Microsoft Windows 11ใช้งานได้มีประสิทธิภาพจริง?

การใช้งานที่ดีกว่าเดิมแน่นอน ทั้งมีความสบายตา มีการเปลี่ยนแถบต่างๆ แล้วยังมีการจัดระบบในส่วนของหน้าต่างที่จอได้พร้อม ที่สำคัญลยคือสามารถที่จะเปิดใช้งานจากแอปพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนได้พร้อมด้วย แต่ว่าจะมีข้อจำกัดบางประการในส่วนของฮาร์ดแวร์นั่นเอง แต่มีการพัฒนาระบบได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม

 Microsoft Windows 11

Microsoft Windows 11 เป็นสิ่งที่หลายท่านได้จับตามองกันอยู่แล้ว ที่จะมาอำนวยความสะดวกให้กับทุกท่านได้ใช้งานในระบบที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และห้ามพลาด และห้ามพลาด sa gaming เว็บตรง เว็บตรง คาสิโนออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว Surface Laptop Studio ทรงพลังด้วย Intel 11th Gen Core i7 จาก Microsoft

Surface Laptop Studio

Surface Laptop Studio แล็บท็อปที่ถือว่าเป็นตัวแรงที่สุดเลยจริง ๆ ในของทางด้านไลน์อัป Surface ของ Microsoft มาพร้อมกับสิ่งที่เป็นการอัพเกรดทั้งด้านฮาร์ดแวร์และดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหลายด้าน

ไม่ว่าจะเป็นจอแบบ PixelSense Flow ขนาด 14.4 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และรองรับการแสดงผล Dolby Vision รวมถึงชิปตัวแรงอย่าง Intel 11th Gen Core i7 แถมยังแปลงร่างตามลักษณะการใช้งานกันนั้นได้ถึงแบบ 3 โหมดเลยอีกด้วย 

Surface Laptop Studio มีกำหนดที่จะเริ่มวางขายในไทยช่วงต้นปี 2022 

Surface Laptop Studio

Microsoft ได้มีการออกมาเปิดตัวกันกับSurface Laptop Studio แล็ปท็อปที่เป็นขนาดตัวแรงของรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับสิ่งที่เป้นการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นจอแบบ PixelSense Flow ขนาดของมันนั้น 14.4 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และรองรับการแสดงผล Dolby Vision

โดยตัวจอภาพมีการเปลี่ยนบานพับใหม่เป็นแบบ Dynamic Wover Hinge ที่มีความแข็งแกรงทนทานมากขึ้น  ส่วนสเปคภายในนั้นมาพร้อมกับชิป Intel 11th Gen ที่มีให้เลือกทั้งรุ่น Core i5 และ Core i7

โดยรุ่น Core i5 จะใช้ชิปประมวลผลกราฟฟิก Intel Iris Xe ส่วนรุ่น Core i7 จะอัพเกรดไปใช้ชิป Nvidia RTX 3050 Ti  พร้อมกับ VRAM 4GB  ส่วนหน่วยความจำ RAM จะมีให้เลือกระหว่างรุ่น RAM 16GB หรือ 32GB และ ROM ความจุสูงสุดถึง 2TB 

Surface Laptop Studioมาพร้อมกับสิ่งที่เป็นพอร์ตชาร์จ USB4 Thunderbolt 4 จำนวน 2 ช่อง และช่องของการที่ได้เสียบหูฟังนั้น 3.5 มม.  สามารถที่จะทำการต่อจอนอกความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ได้หลายจอพร้อมกัน

Surface Laptop Studio

 ตัวหน้าจอสามารถกางออกหรือพับเก็บเพื่อแปลงร่างตามลักษณะการใช้งานได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดแล็บท็อป, โหมดจังแสดง (Stage) และโหมดสตูดิโอ  โดยโหมดแล็บท็อปเหมือนกับการใช้งานโน้ตบุ้คทั่วไปที่สามารถพิมพ์คีย์บอร์ดและใช้แทร็กแพดแทนเมาส์ได้

ส่วนโหมดจัดแสดงเป็นการดันหน้าจอมาด้านหน้าให้มีลักษณะคล้ายกับ Surface Pro สำหรับใช้ด้านความบันเทิงหรือนำเสนองาน  ส่วนโหมดสตูดิโอจะเป็นการใช้เหมือนกับใช้แท็บเล็ต สำหรับSurface Laptop Studioมีราคาของการที่ได้เริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 1,599 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณของราคา​ 53,470 บาท

Surface Laptop Studio

ส่วนในบ้านเรานั้น ยังที่ไม่ได้มีการกล่าวประกาศออกมาเลยเรื่องของราคาที่จะทำการวางจำหน่ายหรือที่จะเป็นวันที่ได้มีการวางทำการจำหน่ายเลยอย่างที่จะเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2022 เป็นต้นไป

และอย่าพลาด มาเก๊า888 คาสิโนอันดับ 1 ส่งตรง จากมาเก๊า ประเทศจีน เดิมพันง่าย รวยไว ฝาก ถอน อัตโนมัติ  มั่นคง ปลอดภัย เชื่อถือ ได้มาตรฐาน ระดับสากล

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ลือหนัก Microsoft Surface Go 3 อาจมาพร้อมซีพียู Intel Core i3

Microsoft Surface Go 3

Microsoft Surface Go 3 โน้ตบุ๊คกึ่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่ของMicrosoft อาจมีด้วยกัน 2 รุ่น ซึ่งใช้ซีพียูแตกต่างกัน โดยผลการทดสอบประสิทธิภาพจากแอป Geekbench

พบว่า Surface Go 3 จะประกอบด้วยรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Pentium Gold 6500Y และรุ่นที่ใช้ Intel Core i3-10100Y ซึ่งถือเป็นสเปคที่อัปเกรดจาก Surface Go 2 รุ่นเก่าอยู่พอสมควร 

Microsoft Surface Go 3 ทำคะแนนบน Geekbench ได้ที่ 5643 คะแนน และ 4400 คะแนน

 Microsoft Surface Go 3

นับตั้งแต่ที่ Microsoft เปิดตัว Surface Go 2 ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2020 จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีข่าวคราวของMicrosoft Surface Go 3 ออกมาจากปากของบริษัทอย่างเป็นทางการซะที โดยล่าสุด มีข่าวลือเกี่ยวกับสเปคคร่าว ๆ ของโน้ตบุ๊คกึ่งแท็บเล็ตรุ่นใหม่นี้ออกมาจากแอปพลิเคชั่นทดสอบประสิทธิภาพชื่อดังอย่าง Geekbench

โดยจากข้อมูลเผยให้เห็นว่า Surface Go 3 มีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Pentium Gold 6500Y และรุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Core i3-10100Y

  ซึ่งถือเป็นสเปคที่ได้รับการอัปเกรดจาก Surface Go 2 รุ่นเก่าที่ใช้ซีพียู Intel Pentium Gold 4425Y และ Intel Core m3-8100Y อยู่พอสมควรเลยทีเดียว ส่วนหน่วยความจำ RAM ยังคงให้มาเท่าเดิมที่ 4GB และ 8GB ตามลำดับ 

 Microsoft Surface Go 3

ทั้งนี้ ผลการที่ได้ทำการทดสอบของประสิทธิภาพตัว Geekbench พบว่าMicrosoft Surface Go 3 รุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Pentium Gold 6500Y ทำคะแนนแบบ Single-core ไปได้ที่ 3,197 คะแนน

และได้คะแนน Multi-core ที่ 5,643 คะแนน ซึ่งสูงกว่า Surface Go 2 รุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Pentium Gold 4425Y ที่ได้คะแนน Single-core ไปเพียง 2,200 คะแนน และคะแนน Multi-core เพียง 4,400 คะแนน 

ส่วนMicrosoft Surface Go 3 รุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Core i3-10100Y ทำคะแนนแบบ Single-core ได้ถึง 4,359 คะแนน และแต้มคะแนนของ Multi-core พุ่งไปได้เลยถึง 7,643 คะแนน ซึ่งมันนั้นมากกว่า Surface Go 2 รุ่นที่ใช้ซีพียู Intel Core m3-8100Y ถึง 11% เลยทีเดียว

 Microsoft Surface Go 3

อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับ Surface Go 3 ออกมาเพิ่มเติมแม้แต่น้อย โดยเฉพาะรูปร่างหน้าตาที่จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน

แต่ก็คาดว่าคงอีกไม่นานทาง Microsoft น่าจะยอมเผยโฉมเจ้า Surface Go รุ่นใหม่นี้ให้สาวกได้เชยชมกันสักทีหลังจากที่รอมานานถึงปีกว่า ๆ  และ joker388 เว็บเล่นสล็อตออนไลน์ยอดนิยม ที่สุดของความบันเทิง เดิมพันสนุก มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

หลุดข้อมูลเกม Halo Infinite ใช้พื้นที่เกือบ 100 GB

Halo Infinite

Halo Infinite หนึ่งในเกมแอคชั่นชูตติ้งที่เหล่าตัวเกมเมอร์ทั่วโลกนั้นต่างตั้งตาการรอมากที่สุด โดยแรกเริ่มเดิมทีมีแผนที่จะลงกับ Xbox Series X ในฐานะเกมเปิดตัว แต่น่าเสียดายที่ทาง Microsoft ตัดสินใจเลื่อนกำหนดของการที่จะมีวางจำหน่าย Xbox รุ่นนี้ออกไป

เป็นช่วงเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน ปีหน้าแทน แต่ล่าสุด ได้มีภาพหลุดข้อมูลของเกม Halo ที่แสดงให้เห็นว่าตัวเกมจัดอยู่ในเรต PEGI 16 และใช้พื้นที่ทั้งหมดเกือบ 100 GB เลยทีเดียว 

Halo Infinite จัดอยู่ในเรต PEGI 16 และใช้พื้นที่รวม 97.24GB 

Halo Infinite

ภาพข้อมูลของเกมHalo Infinite ที่พัฒนาโดย 343 Industries ได้ปรากฏอยู่บนหน้า  Microsoft Store โดยจากภาพแสดงให้เห็นถึงความละเอียดต่าง ๆ เช่น เป็นเกมแนวชูตเตอร์ จัดจำหน่ายโดย Xbox Game Studios จัดอยู่ในเรต PEGI 16 และตัวเกมใช้พื้นที่รวมถึง 97.24GB โดยในรูปไม่ได้เปิดเผยวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจากรูปจะดูเหมือน Microsoft Store มาก แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Microsoft ว่าข้อมูลที่หลุดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการจัดเรตเกมให้อยู่ที่ PEGI 16 ซึ่งน่าสงสัยมาก

Halo Infinite

เพราะHalo Infinite ไม่เคยมีการจัดเรตแบบ PEGI อย่างเป็นทางการมาก่อนนั่นเอง โชคดีที่ทาง Microsoft ยังคงยืนยันว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดของเกมHalo Infinite เพิ่มเติมในงาน Gamescom ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่จะมีการเปิดเผยวันจัดจำหน่ายของเกมภายในงานนี้ด้วย

สำหรับเกมHalo Infinite คาดกันว่าจะมาพร้อมกับโหมดการเล่นใหม่ ๆ เช่น Weapon Drills ที่ผู้เล่นสามารถทดสอบทักษะการใช้อาวุธต่าง ๆ โดยมี Bot เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้เล่นได้ยิงเก็บคะแนนได้ โดยมีอาวุธประสิทธิภาพสูงในคลังอาวุธ Halo ทั้ง CQS48 Bulldog, MA40 AR, S7 Sniper ฯลฯ 

Halo Infinite

นอกจากนี้ยังมีการปรับระบบสภาพอากาศแบบไดนามิก โดยทางผู้พัฒนา 343 Industries ระบุว่า ผู้เล่นจะเจอทั้งลมและหมอก ไปจนถึงฝนและพายุหิมะที่คาดว่าจะเป็นเอฟเฟกต์สภาพอากาศเพิ่มเติมในอนาคต 

โดยคาดกันว่าตัวเกมจะมีราคาประมาณ 60 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,000 บาท  และ ufalion168  เว็บพนันบอลออนไลน์ที่ดังที่สุด ในประเทศไทยและมีคนเล่นมากที่สุด เพราะ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย สมัครง่ายฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว Windows 11 ยกเครื่องหน้าตาใหม่ พร้อมรองรับแอปฯ Android

Windows 11

Windows 11 ถือเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุดของ Microsoft ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่

ที่เรียกได้ว่าออกจากกรอบเดิม ๆ ของ Windows มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และที่สำคัญก็คือ มันสามารถดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชั่น Android ผ่านทาง Amazon Appstore ได้อีกด้วย 

Windows 11 เน้น UI โปร่งโล่ง ให้ผู้ใช้ออกแบบการใช้งานได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง

Windows 11มาพร้อมกับการยกเครื่องหน้าตาครั้งใหญ่ ไล่ตั้งแต่หน้าจอล็อก, Task Bar, Start Menu, ไอคอนต่าง ๆ รวมถึงธีม UI ที่มีความโมเดิร์นมากขึ้น หน้าต่างการแจ้งเตือนและปุ่มต่าง ๆ บน Task Bar มีการดีไซน์ใหม่ ย้ายมาอยู่ไว้ตรงกลางด้านล่างหน้าจอเพื่อง่ายต่อการเข้าถึง

Windows 11

เมื่อกดปุ่ม Start ที่เป็นรูปโลโก้ Microsoft จะปรากฎเมนูดีไซน์ใหม่ที่ตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงไฟล์เอกสารใน Microsoft 365 ที่เพิ่งเปิดดูได้ทันที  โดยผู้ใช้สามารถลากหน้าต่างเพื่อแบ่งหน้าจอด้วยฟีเจอร์ Snap Layouts

ที่มีรูปแบบให้เลือกมากกว่า 4 หน้าจอคล้ายกับใน Windows 10 นั่นเอง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถออกแบบหน้าเดสก์ทอปเพื่อใช้ในบริบทต่างกันได้ด้วย เช่น การเรียน, การทำงาน หรือส่วนตัว ซึ่งโปรแกรมหรือแอปฯ ต่าง ๆ บนหน้าจอจะถูกปรับเปลี่ยนไปตามการตั้งค่าหน้าเดสก์ทอปนั้น ๆ 

Windows 11

นอกจากนี้ ฟีเจอร์เด็ดที่สร้างเสียงฮือฮาที่สุดสำหรับWindows 11 ก็คือ Microsoft Store ที่สามารถที่จะทำการดาวน์โหลดแอปต่าง ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีต่างกัน เช่น Win32, PWA, UWP, Canvas, Microsoft Teams, Visual Studio, Disney+, Adobe Creative Cloud, Zoom  ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งแอปฯ Android ผ่าน Amazon Appstore ที่สามารถปรับหน้าตาให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย 

ส่วนเรื่องการใช้งานด้าน Gaming ของWindows 11 ก็ค่อนข้างหลากหลาย ไล่ตั้งแต่โหมด Auto HDR ช่วยให้ภาพของเกมมีความคมชัดยิ่งขึ้นกว่าใน Windows เวอร์ชั่นก่อน

Windows 11

รองรับขุมพลังทั้ง AMD, Intel หรือแม้แต่ Qualcomm ที่สามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการนี้ได้ ในส่วนของ XBox Game Pass มีการจัดระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น และยังมีเกมให้เล่นมากขึ้น พร้อมภาพระดับ Auto HDR

สำหรับสเปกคอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่รองรับWindows 11 ประกอบด้วย CPU Dual Core 1GHz แบบ 64Bit และ RAM 4GB ขึ้นไป มี HDD หรือ SSD ขนาด 64GB ขึ้นไป รองรับการ์ดจอที่เข้าถึง DirectX 12 และต้องรองรับ Microsoft Account ต่อเชื่อมกับอินเทอร์เน็ต และ slot333 เกมเดิมพันรูปแบบใหม่ ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด เดิมพันสนุก เข้าใจง่าย มีเกมให้เดิมพันหลากหลาก มีโบนัสและรางวัลใหญ่มากมาย ฝากถอนรวดเร็ว

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Windows 10 อัปเดตใหม่พร้อมรองรับระบบเสียง AAC ผ่าน Bluetooth

Windows 10

Windows 10 ถือเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ้คของค่าย Microsoft ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยจำนวนผู้ใช้งานล่าสุดในปี 2021 มีมากกว่า 1,300 ล้านยูสเซอร์

แถมล่าสุด Microsoft ยังได้แง้มรายละเอียดเกี่ยวกับการอัปเดตซอฟแวร์เวอร์ชั่นต่อไปที่จะมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้Windows 10รองรับระบบเสียง AAC ผ่าน Bluetooth ช่วยให้สาวก Apple ที่ใช้ AirPods ได้สัมผัสกับเสียงที่คุ้นเคยมากขึ้น

Windows 10 รองรับระบบเสียง AAC เหมือนกับใน Airpods 

Windows 10ถือเป็นระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งคอมพิวเตอร์พีซีและโน้ตบุ้คที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก แต่ก็เป็นระบบปฏิบัติการที่มีข้อด้อยในหลายด้านหากเทียบกับระบบปฏิบัติการของค่ายคู่แข่งอย่าง Apple ซึ่งหนึ่งในข้อด้อยที่ว่านี้ก็คือ ระบบเสียงของWindows 10

Windows 10

ที่รองรับเฉพาะระบบเสียง SBC และ aptX หาผู้ใช้งานต้องการเล่นเพลงโดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการWindows ไปยังเครื่องเล่น AirPods หรือหูฟังที่รองรับ SBC กับ AAC  เสียงที่ส่งผ่าน Bluetooth ก็จะส่งผ่าน SBC Codec

ซึ่งเป็นเพียง Codec พื้นฐานที่คุณภาพเสียงแย่ที่สุดในโลกของ Bluetooth เลยก็ว่าได้  แต่ทว่าล่าสุดทาง Microsoft ได้ปรับปรุงข้อจำกัดที่ว่านี้ด้วยการเตรียมปล่อยอัปเดตWindows 10ที่จะรองรับระบบเสียง AAC (Advanced Audio Coding) โดยใช้ AAC Codec ในการส่งสัญญาณเสียงผ่าน Bluetooth 

Windows 10

ทั้งนี้ ระบบเสียง AAC เป็นรูปแบบการบีบอัดเสียงที่ Apple เป็นผู้ผลักดันจนกลายเป็นระบบเสียงมาตรฐานที่ใช้กับไฟล์เสียงใน iTunes Store และเสียงที่สตรีมผ่าน Apple Music รวมถึงระบบ Bluetooth ของ iPhone และ iPod ที่ใช้งานกับ AirPods ด้วยเช่นกัน

ทำให้ระบบเสียงของอุปกรณ์ฝั่ง Apple โดดเด่นและเหนือกว่าฝั่งWindows 10มาตลอดนั่นเอง  ฉะนั้น การที่ Microsoft จะอัฟเดตให้ Windows 10รองรับระบบเสียง AAC จึงจะช่วยให้เหล่าสาวกของ Apple ที่ชอบฟังเพลงผ่าน AirPods รวมถึงและหูฟังอื่น ๆ ที่รองรับ AAC จะได้สัมผัสกับประสบการณ์เสียงขั้นสูงที่คุ้นเคยแม้จะเชื่อมต่อผ่านWindows 10ก็ตาม 

Windows 10

นอกจากนี้ Microsoft ยังจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อ unified audio endpoint ที่จะช่วยให้ Windows สามารถเลือกไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมกับอุปกรณ์ เช่น การพูดคุยผ่านไมค์ หรือการฟังเพลง เป็นต้น โดยคาดว่า ฟีเจอร์ทั้งหมดที่ว่ามานี้น่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ และห้ามพลาด betclic88 คือเว็บคาสิโนออนไลน์ ที่มีดีครบสมบูรณ์ไปทุกด้าน เล่นง่าย รวยไว ฝากถอนไว มีทุนน้อยก็เดิมพันได้ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่