เผยสเปคแรก Pixel Notepad สมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของ Google

Pixel Notepad

Pixel Notepad (หรือชื่อเก่า Pixel Fold) ว่าที่สมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของ Google ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมาว่า ใกล้จะได้ฤกษ์อวดโฉมต่อสายตาชาวโลกแล้ว 

ล่าสุด เริ่มมีข้อมูลสเปคบางส่วนของมือถือรุ่นนี้ถูกปล่อยออกมาบ้างแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่า ดีไซน์ค่อนไปทาง OPPO Find N มากกว่าจะเป็น Galaxy Z Fold3 และที่สำคัญคือจะใช้ชิปเซ็ต Tensor ที่ Google พัฒนาเอง

Pixel Notepad อาจมาพร้อมเซนเซอร์กล้องหลัก Sony IMX363 ขนาด 12MP

Pixel Notepad

เว็บไซต์ 9to5Google ได้ออกมารายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Google เตรียมที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับได้รุ่นแรกของค่าย ภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการว่าPixel Notepad ซึ่งต่างจากข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าชื่อ Pixel Fold  โดยเบื้องต้นคาดว่ามันจะใช้ดีไซน์คล้ายกับ OPPO Find N มากกว่า Samsung Galaxy Z Fold 3

แต่ที่แน่ ๆ คือเป็นมือถือจอพับจากด้านข้างคล้ายหนังสือ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปประมวล Tensor ที่ Google พัฒนาเอง และคาดว่าจะใช้กล้องหลัก เซนเซอร์ Sony IMX363 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 

ซึ่งต่างจากเซนเซอร์กล้อง Pixel 6 ที่มีความละเอียด 50MP และยังมีกล้อง Ultra-Wide เซนเซอร์ Sony IMX386 ความละเอียด 12MP  ส่วนกล้องหน้าเซนเซอร์ Sony IMX355 ความละเอียด 8MP จำนวน 2 ตัว

Pixel Notepad

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเดียวกันยังระบุเพิ่มเติมว่าPixel Notepad น่าจะมีราคาเปิดตัวถูกกว่า Samsung Galaxy Z Fold 3 ที่เปิดตัวถึง 1,799 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 57,900 บาท โดยคาดว่าจะอยู่ที่ราว ๆ 1,399 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 46,000 บาท ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Google จะใช้กุลยุทธ์ไหนมาทำให้ ต้นทุนการผลิตมือถือรุ่นนี้ถูกลง

เพื่อจะสามารถทำราคาของตัวเองให้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung หรือ OPPO ได้  เพราะก่อนหน้านี้ TCL ก็ถึงกับประกาศพับโปรเจกต์มือถือจอพับรุ่นแรกของตัวเองไป

Pixel Notepad

เพราะต้นทุนการวิจัยและการผลิตสูงเกินกว่าจะสู้คู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม ทาง  9to5Google ไม่ได้ระบุว่าPixel Notepad ของ Google จะมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ แค่คาดกันว่าถ้าไม่ปลายปี 2022 ก็น่าจะต้นปี 2023

และไม่ควรพลาด Slot666 หาเงินง่ายๆจากเกมคาสิโนชื่อดัง ที่นี้ที่เดียว สมัครง่าย เดิมพันง่าย ได้เงินไวฟรีเครดิต ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ไม่เหมือนที่คุยไว้! Pixel 6 เจอปัญหาจอเขียว แถม UI แสดงรูกล้องไม่ตรง!

Pixel 6

Pixel 6 มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดของ Google ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่ถึงเดือน แต่ดูเหมือนผู้ใช้หลายคนจะไม่ค่อยปลื้มหลังใช้งานไปได้เพียงไม่กี่วัน เนื่องจากได้มีการพบกันมาของปัญหาที่ถือว่าหลายอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของหน้าจอที่ได้ทำการแสดงสีเขียว, หน้าจอที่ได้มีการกระพริบที่ไม่ได้หยุด ซึ่งล้วนเป็นปัญหาคลาสสิคที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน Pixel รุ่นก่อน ๆ แต่สำหรับปัญหาใหม่ที่ทำให้หลายคนถึงกับไปไม่เป็นก็คือ UI ของ Pixel รุ่นนี้แสดงรูกล้องไม่ตรงกับตำแหน่งของกล้องหน้า ทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนมีรูกล้องอยู่ 2 ตำแหน่งเลยทีเดียว 

Pixel 6 มีปัญหาจอเขียวจากข้อบกพร่องด้านฮาร์ดแวร์ของหน้าจอ AMOLED

Pixel 6

แม้จะว่าพร้อมสเปคจัดเต็ม ไล่ตั้งแต่ หน้าจอ AMOLED ขนาด6.7 นิ้ว ความละเอียด 1,440 x 3,120 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรท 120Hz รวมถึงชิปเซ็ต TENSOR ที่ Google ซุ่มพัฒนาอยู่หลายปี

ยังไม่รวมถึงกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP  แต่ดูเหมือนรุ้่นนี้จะมีชะตากรรมไม่ต่างจากรุ่นก่อน ๆ ทั้งPixel 2,Pixel 3 และPixel 4 รวมถึงPixel 5a เพราะล่าสุด

เริ่มมีผู้ใช้หลายคนรายงานตรงกันว่าพบปัญหาหลายอย่างหลังใช้งานไปได้ไม่ถึงวัน ไม่ว่าจะเป็น อาการจอกระพริบ ติด ๆ ดับ ๆ ขณะเครื่องปิดอยู่แล้วกดปุ่มพาวเวอร์เพื่อเปิดเครื่อง ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำเครื่องตกพื้นหรือกระแทกแรง ๆ มาก่อน

Pixel 6

(หลายคนบอกซื้อมาได้ไม่ถึง 1 วันด้วยซ้ำ) รวมถึงปัญหาอาการ “จอเขียว” ที่เกิดจากข้อบกพร่องของหน้าจอ AMOLED ซึ่งเป็นปัญหาคลาสสิคของ Pixel ทุกรุ่น รวมถึงสมาร์ทโฟนบางรุ่นของยี่ห้ออื่น เช่น OnePlus 8 ของ OnePlus และ Mate 20 Pro ของ HUAWEI เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากปัญหาเดิม ๆ ที่ตามมากวนใจในPixel 6แล้ว บางคนยังเจอปัญหาใหม่ที่ไม่เคยจอมาก่อนในPixel รุ่นก่อนหน้า นั่นก็คือ UI ของมือถือรุ่นนี้แสดงกันออกมาของรูกล้องที่ไม่ได้มีการตรงกันเลยกับทางด้านของตำแหน่งของกล้องหน้า

Pixel 6

ทำให้มันนั้นดูเหมือนที่จะมีจุดขึ้นมาสีดำ 2 จุด ซ้อนทับกันบนหน้าจอ จนดูเหมือนมีกล้องหน้า 2 ตัว ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายหรือแถลงการ์ใด ๆ จาก Google และไม่ควรพลาด Sagame666  เว็บรวมคาสิโนออนไลน์ ที่ดีที่สุด ในไทย เดิมพันง่าย มีรางวัลมากมาย ฝากถอนออโต้ ใน 30 วินาที ให้บริการดีๆ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

แบรนด์Amazon ผงาดขึ้นเบอร์ 1 มูลค่าสูงที่สุดในโลกประจำปี 2021

แบรนด์Amazon

แบรนด์Amazon กลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกประจำปี 2021 เป็นที่เรียบร้อย จากการจัดอันดับโดย Kantar บริษัทวิจัยแบรนด์ระดับโลกซึ่งจัดให้แบรนด์ E-Commerce ยักษ์ใหญ่แดนมะกันนี้มีมูลค่าถึง 684,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 22 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว ขณะที่อันดับ 2 – 3 ตกเป็นของแบรนด์เพื่อนร่วมชาติอย่าง Apple และ Google นั่นเอง 

แบรนด์Amazon มีมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับปี 2020

แบรนด์Amazon

            ตามการเปิดเผยของ Kantar บริษัทวิจัยแบรนด์ระดับโลก ระบุว่า Amazon กลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกประจำปี 2021 ด้วยมูลค่าถึง 684,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 22 ล้านล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 64% เมื่อเทียบกับมูลค่าบริษัทเมื่อปี 2020

โดยปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ E-Commerce ยักษ์ใหญ่แดนมะกันมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ก็เนื่องมาจากการประกาศ Take-over บริษัท MGM ผู้ผลิตภาพยนตร์แฟรนไชส์ดังอย่าง “James Bond” หรือ “007” ด้วยเม็ดเงินมหาศาลถึง 8.45 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 2.6 แสนล้านบาท เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั่นเอง

            นอกจาก Amazon แล้ว แบรนด์เทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาอีก 2 แบรนด์ ประกอบด้วย Apple และ Google ก็เข้าวินตามมาในอันดับ 2 และ 3 ด้วยมูลค่า 612,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 19.5 ล้านล้านบาท และ 458,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 14.5 ล้านล้านบาท

ตามลำดับ ขณะที่แบรนด์อื่น ๆ ก็มาแรงประจำปีนี้ไม่แพ้กัน เช่น Nvidia ที่ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 12 และ Qualcomm ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 37 ส่วนแบรนด์เทคโนโลยียอดฮิต และเว็ปที่น่าสนใจ สล็อตโจ๊กเกอร์

แบรนด์Amazon

จากประเทศเกาหลีใต้อย่าง Samsung นั้น อยู่ในอันดับที่ 42 ตามด้วยแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำอย่าง Tesla ในอันดับที่ 47 ขณะที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Huawei อยู่ในอันดับที่ 50

            แม้ว่า Amazon จะเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ามากที่สุด แต่สำหรับแบรนด์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดประจำปี 2021 กลับตกเป็นของ Tesla ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มจากปี 2020 ถึง 275% ด้วยมูลค่ารวม 42,606 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ตามด้วยแอปฯ โซเชียลมีเดียยอดฮิตอย่าง TikTok ที่เพิ่มขึ้นถึง 158% ด้วยมูลค่ารวม 43,516 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่แบรนด์ E-Commerce จากจีนอย่าง Pinduoduo ตามมาในอันดับ 3 ที่ 131% มูลค่ารวม 21,732 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

งบน้อยก็ใช้ได้! Google Workspace เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ได้แบบไม่คิดเงิน!

Google Workspace

Google Workspace หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า “G Suite” ถือเป็นบริการชุดแอปพลิเคชั่นสำหรับการทำงานระดับองค์กร ที่รวบรวมแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ

ไว้ให้คนทำงานเลือกใช้มากมายในหน้าจอเดียว ทั้ง Gmail, ปฏิทิน, เอกสาร, ไดรฟ์, ชีต, สไลด์, Meet, Chat  แถมล่าสุด Google ได้เปิดให้ผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัด สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ได้แบบไม่ต้องเสียเงินอีกด้วย 

Google Workspace อัพเดทฟีเจอร์ใหม่ Google Meet ให้ใช้งานฟรี

Google Workspace

Google Workspaceหรือที่คุ้นกันในชื่อ “G Suite” ถือเป็นบริการหนึ่งของ Google ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนทำงานและองค์กรอย่างมาก เนื่องจากรวบรวมแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำงานไว้ในหน้าจอเดียว ที่มี Gmail, ปฏิทิน, เอกสาร, ไดรฟ์, ชีต, สไลด์, Meet, Chat  ซึ่งทุกท่านสามารถที่จะเข้าถึงได้จากเมนูด้านซ้ายมือใน Gmail โดยไม่จำเป็นต้องเปิดข้ามไปมาระหว่างแอปฯ

หรือหน้าเว็บให้วุ่นวายเหมือนเมื่อก่อน  ยิ่งไปกว่านั้นGoogle Workspace ยังเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่งบน้อยสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ต่าง ๆ ได้แบบไม่เสียเงิน ยกตัวอย่าง ห้องแชทแบบใหม่ ที่เรียกว่า ”Spaces” แถมGoogle ยังเปลี่ยนจากการใช้ระบบแชตคลาสสิคบน Hangouts เป็นGoogle Chat

Google Workspace

ที่เปิดให้ใช้งานโดยไม่จำกัดสิทธิ์เฉพาะผู้ใช้ที่จ่ายเงินเท่านั้น รวมถึงแอปฯ Google Meet ที่เป็นแอปฯ ประชุมออนไลน์ ซึ่งได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่หลายรายการ อย่าง การแชร์หน้าจอ, แชท, โพล ในระหว่างการประชุมได้, การยกมือและการถาม-ตอบระหว่างการประชุมได้ แม้แต่ฟีเจอร์สร้างคำบรรยายสด (live caption) ซึ่งฟีเจอร์ใหม่นี้จะพร้อมใช้งานอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการใช้งานGoogle Workspace ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็สามารถสมัครใช้งานแบบจ่ายค่าบริการรายเดือนที่ 9.99 เหรียญฯ หรือประมาณ 300 บาท โดยผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงบริการจองเวลาแบบอัจฉริยะ และการประชุมผ่านวิดีโอระดับมืออาชีพได้ด้วย 

Google Workspace

ทั้งนี้ คาดกันว่า สาเหตุที่Google Workspace ยอมให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ได้แบบไม่คิดเงินก็เพราะต้องการจะแข่งขันกับผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ ที่ทยอยออกโปรโมชั่นใหม่ที่มีราคาถูกกว่า หรือแม้แต่ให้บริการฟรีกับผู้ใช้ เช่น TeraBox ที่มอบพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีให้ผู้ใช้ถึง 1TB ขณะที่Google Drive ให้เพียง 15GB เท่านั้น เป็นต้น และห้ามพลาด ufabet 168 เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ เดิมพันง่าย ปลอดภัย ได้เงินจริง มีเกมเดิมพันหลากหลาย มีรางวัลใหญ่มากมาย สมัครง่าย ฝากถอนไว

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Google Pixel 6 หลุดภาพเรนเดอร์พร้อมสเปคอย่างไม่เป็นทางการ

Google Pixel 6

Google Pixel 6 ถือเป็นสมาร์ทในซีรีส์Pixel รุ่นล่าสุดประจำปี 2021 ที่สาวกระบบ Android ต่างรอคอยการเปิดตัวอย่างใจจดใจจ่อ แม้ทางทางGoogle จะไม่ได้พูดถึงเจ้าPixel 6 ภายในงานGoogle I/O ที่ผ่านมา

แต่ทว่าล่าสุด ก็มีข้อมูลหลุดออกมาอย่างไม่เป็นทางการว่า Pixel 6 นี้จะมีด้วยกัน 2 โมเดล ได้แก่ Pixel 6 และ Pixel 6 Pro แถมจากรูปเรนเดอร์ที่หลุดออกมายังแสดงให้เห็นว่าตัวเครื่องด้านหลังใช้ดีไซน์แบบทูโทนที่มีแถบสีดำโดดเด่นแปลกตาไม่เหมือนในรุ่นก่อน ๆ 

Google Pixel 6 อาจมาพร้อมหน้าจอ 6.4 นิ้ว รองรับอัตรารีเฟรชเรท 120Hz 

Google Pixel6ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดในซีรีส์Pixel ที่Google เป็นผู้พัฒนาภายใต้แบรนด์ของตัวเอง โดยที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่าGoogle อาจจะเปิดตัวเจ้าPixel 6 ในงานGoogle I/O ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ไม่มีการพูดถึงแต่อย่างใด ก่อนที่ล่าสุดจะมีภาพเรนเดอร์และสเปคอย่างไม่เป็นทางการหลุดออกมา

Google Pixel 6

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าGoogle Pixel 6 อาจมาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ที่ตัวเครื่องด้านหลังบริเวณกล้องหลังมีแถบสีดำนูนออกมา ทำให้ตัวเครื่องมีโทนสีแบบทูโทนเด่นชัด ส่วนด้านหน้าในรุ่น Pixel 6 Pro มีการปรับมาใช้จอแบบโค้ง ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Quad-HD  ส่วน Pixel 6 จะใช้จอปกติขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full-HD   โดยจอของทั้งสองรุ่นสามารถรองรับอัตรารีเพรชเรทได้ถึง 120Hz 

ส่วนทางด้านของชิปเซ็ตนั้นGoogle Pixel 6จะมาพร้อมชิปเซ็ตที่ผลิตภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง Google กับ Samsung ซึ่งจะเป็นชิปเซ็ตที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร และคาดกันว่าสเปคโดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับ Snapdragon 870 ของค่าย Qualcomm เลยทีเดียว

Google Pixel 6

ในส่วนกล้องหลังนั้น Pixel 6 ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมเลนส์ Periscope โดยเลนส์กล้องหลังจะมีความละเอียดที่ 50 MP  สำหรับแหล่งพลังงานจะใช้แบตเตอรีขนาด 45000mAh สำหรับ Pixel 6 และ 5000 mAh สำหรับ Pixel 6 Pro

นอกจากนี้ ยังคาดกันว่าGoogle Pixel 6 อาจเป็น Pixel รุ่นแรกที่มีการใช้เทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้จอแทนเซ็นเซอร์แบบติดตั้งภายนอกตัวเครื่องอีกด้วย 

Google Pixel 6

ทั้งนี้ คาดกันว่าGoogle Pixel 6 อาจจะเปิดตัวภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยราคาเริ่มต้นของ Pixel 6 น่าจะอยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐฯ ส่วน Pixel 6 Pro น่าจะอยู่ที่ 999 เหรียญสหรัฐฯ และ ufabet777 บริการเล่นคาสิโนออนไลน์ ง่ายต่อการเข้าถึง สมัครง่าย ฝากถอนไว ปลอดภัย ได้เงินไวที่นี้เลย สมัครวันนี้ฟรีเครดิตดี


ติดตาม ข่าวสารวงการไอที
 และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ลือสั่น! Pixel Passport อาจติดตั้งกล้องใต้จอภาพ หลัง Google ยื่นจดสิทธิบัตร

Pixel Passport

Pixel Passport ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดของตระกูลPixel ที่ Google เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาด้วยตัวเองเพียงซีรีส์เดียว โดยพัฒนาต่อยอดมาจากซีรีส์ Nexus ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2010

ก่อนจะยุติบทบาทไปในรุ่น Nexus 5X และ Google Nexus 6P เมื่อปี 2015 โดยเปลี่ยนมาใช้ชื่อซีรีส์ว่าPixel แทน โดยเจ้าPixel Passportก็คือรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะเปิดตัวในไม่ช้าไม่นานนี้ แถมล่าสุดยังมีข่าวลือว่า มันจะมาพร้อมกับเลนส์กล้องแบบฝังใต้จอภาพที่ Google ได้ยื่นจดสิทธิบัตรไปเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย 

Pixel Passport หน้าจอแบบพับได้ที่ติดตั้งเลนส์กล้องและเซ็นเซอร์ใต้หน้าจอ 

Pixel Passportถือเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูลPixel ที่มีข่าวหลุดออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ที่มีสื่อต่างประเทศรายงานว่า Google ได้ติดต่อไปยัง Samsung เพื่อขอซื้อหน้าจอ OLED แบบพับได้ขนาด 7.6 นิ้ว ซึ่งคาดว่าถูกนำไปใช้ในสายการผลิตเจ้าPassport นั่นเอง

Pixel Passport

โดยล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า Google ได้ยื่นเอกสารจดสิทธิบัตรจำนวนกว่า 23 หน้าโดยหนึ่งในรายการที่ยื่นจดสิทธิ์บัตรนี้ก็ประกอบด้วย “กล้องใต้หน้าจอ” ที่จะทำให้ไม่ต้องเว้นพื้นที่ขอบหน้าจอ เจาะรู หรือทำรอยบาก ให้เกะกะสายตาอีกต่อไป เพราะเลนส์กล้องและเซ็นเซอร์ทุกอย่างทุกฝังอยู่ใต้จอแสดงผลแล้วนั่นเอง ซึ่งจากเอกสารนี้แสดงให้เห็นว่า มีโอกาสสูงที่Pixel Passportจะมาพร้อมหน้าจอ OLED แบบพับได้ที่ติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ได้จอภาพ 

Pixel Passport

นอกจากนี้ เอกสารที่หลุดออกมายังแสดงให้เห็นว่าPixel Passport จะติดั้งโมดูลกล้องใต้จอภาพที่ใช้ “ปริซึม” ทำหน้าที่หักเหแสง กล่าวคือ เมื่อเปิดใช้งานกองหน้า ตัวปริซึมจะส่งผ่านแสดงจากภายนอกเข้าไปยังเซ็นเซอร์ภาพ คล้ายกับหลักการทำงานของกล้อง Periscope ของเรือดำน้ำนั่นเอง ซึ่งเทคโนโลยีลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ซะทีเดียว

Pixel Passport

เพราะกล้องเทเลโฟโต้ของสมาร์ทโฟนบางรุ่นในปัจจุบันอย่าง Xperia 1 III ของ Sony ก็ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกันนี้   ทั้งนี้ คาดว่า เราน่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งกล้องใต้จอภาพจาก Google อย่างช้าที่สุดก็คือPixel 7 ในปีหน้า หรืออย่างเร็วที่สุดก็คือPixel Passport ที่อาจเปิดตัวในปลายปีนี้ก็เป็นได้ และห้ามพลาด ufabet1688 เว็บเดิมพันเจ้าใหญ่ เดิมพันง่าย หลากหลายเงินรางวัล โบนัสเพรียบ เล่นง่าย ได้ไงไว ปลอดภัย มีบริการดีๆตลอด 24 ชั่วโมง สมัครง่าย สมัครวันนี้แถมฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Xiaomi จดสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนถอดเปลี่ยนส่วนประกอบได้ตามรอย Google

Xiaomi

Xiaomi ถือเป็นแบรนด์ไอทีจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่กำลังมาแรงสุด ๆ ถึงขนาดแซงหน้าแบรนด์รุ่นพี่อย่าง Huawei จนก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย แถมล่าสุด

เรายังได้เห็นความพยายามในการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ล้ำไปอีกขั้น หลังXiaomi ทำการจดสิทธิ์บัตรสมาร์ทโฟนถอดประกอบ หรือ “Modular Phone” คล้ายกับ Project ARA ของ Google ที่พับโครงการไปเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้นั่นเอง

 Xiaomi แยกโมดูลถอดประกอบออกเป็น 3 ส่วน

Xiaomiได้จดสิทธิบัตรสมาร์ทโฟนที่สามารถถอดเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เอง หรือ “Modular Phone” โดยเว็บไซต์กูรูด้านไอทีชื่อดังอย่าง Letsgodigital ออกมาเปิดเผยว่า

Xiaomi

สมาร์ทโฟนถอดประกอบรุ่นนี้จะแบ่งตัวเครื่องออกเป็น 3 ส่วนหลัก ประกอบด้วย ส่วนบนที่เป็นโมดูลกล้องและ Motherboard, ส่วนกลางเป็นแบตเตอรี่ และส่วนลางเป็นลำโพงกับช่องเสียบ USB แบบต่าง ๆ

Xiaomi

โดยแต่ละส่วนจะสามารถถอดเปลี่ยนไปใช้โมดูลที่มีสเปคแตกต่างกันอย่างที่เราต้องการได้ ส่วนหน้าจอจะเป็นโมดูลแบบชิ้นเดียวทำหน้าที่ยึดโมดูลอีก 3 ชิ้นเข้าด้วยกัน หรือพูดง่าย ๆ ว่า โมดูลทั้ง 3 ชิ้น จะวางอยู่บนแผงหน้าจอนั่นเอง เวลาต้องการถอดโมดูลชิ้นไหนก็เพียงแค่สไลด์ออกมาเท่านั้น  ทั้งนี้Xiaomi มีแผนที่จะผลิตโมดูลที่มีสเปคแตกต่างกันไปเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย เช่น โมดูลกล้อง 4 ตัว, กล้อง 3 ตัว และกล้อง 2 ตัว เป็นต้น หรือโมดูลกลางที่มีแบตเตอรี่ความจุขนาดต่าง ๆ กัน

Xiaomi

ให้ผู้ใช้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ  อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงคอนเซ็ปต์คร่าว ๆ ที่Xiaomi ใช้นำเสนอเพื่อจดสิทธิบัตรเท่านั้น ยังไม่มีการเริ่มพัฒนาโปรเจ็กอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด หรือต่อให้เริ่มพัฒนาแล้ว ก็คาดว่าจะยังไม่มีตัวสมาร์ทโฟนออกมาให้เราได้ยลโฉมกันในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน เพราะเทคโนโลยีมือถือถอดประกอบ หรือ Modular Phone มีมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 โดย Project ARA ของ Google แต่ก็ประสบปัญหาหลายอย่างจนต้องพับโครงการไป  หรือแม้แต่ Facebook ที่เคยจดสิทธิบัตร Modular Phone ของตัวเองเมื่อปี 2017 แต่สุดท้ายก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรจนถึงตอนนี้ และ CQ9 สล็อต แหล่งรวมเกมสล็อตออนไลน์สู่การสร้างรายได้ยุคโควิด เล่นง่าย ได้เงินไว มีโบนัสและเงินรางวัลใหญ่มากมาย สมัครวันนี้ฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ไม่ง้อค่ายดัง! Google Pixel 6 อาจใช้ชิปประมวลผล 5 นาโนเมตรที่พัฒนาขึ้นเอง

Google Pixel 6

Google Pixel 6 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่สาวก Android ต่างเฝ้ารอแบบใจจดใจจ่อ เนื่องจาก Pixel ถือเป็นสมาร์ทโฟนเพียงรุ่นเดียวที่ Google ผลิตวางขายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง

ซึ่งโดยปกติแล้วGoogle Pixel ทุกรุ่นก่อนหน้านี้จะมาพร้อมชิปประมวลผล Snapdragon ของ Qualcomm จนแทบจะกลายเป็นของคู่กันไปแล้ว แต่ทว่าล่าสุด ได้มีข้อมูลรั่วไหวออกมาว่าGoogle Pixel 6จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปประมวลผลที่ Google พัฒนาขึ้นมาเอง

Google Pixel 6 จะใช้ชิป Google Silicon รหัส Raven และ Oriole

ตามการเปิดเผยของเว็บไซต์ 9to5google แหล่ข่าวความน่าเชื่อถือสูงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Google ระบุว่าGoogle Pixel 6ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Pixel ประจำปี 2021

จะใช้ชิปประมวลผลที่ Google พัฒนาขึ้นมาเองในชื่อรหัส Raven และ Oriole ที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตรของ Samsung อยู่บนแพลตฟอร์ม Whitechapel SoC และชิปตัวนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Google Silicon”

Google Pixel 6

ซึ่งจะประกอบด้วย CPU แบบ 8 Core ได้แก่ Cortex-A78 จำนวน 2 แกน, Cortex-A76 จำนวน 2 แกน และ Cortex-A55 อีก 4 แกน ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิก (GPU) ARM Mali 

ทั้งนี้ คาดกันว่าชิปประมวลผลที่จะมากับเจ้าGoogle Pixel 6ไม่ได้มีความแรงใกล้เคียงกับชื่อตระกูลเรือธงอย่าง Snapdragon 888 ของ Qualcomm, Exynos 2100 ของ Samsung

และ A14 Bionic ของ Apple เลยแม้แต่น้อย แต่จะอยู่ในระดับกลาง ๆ ใกล้เคียงกับชิป Snapdragon 700 ของ Qualcomm เท่านั้น  อย่างไรก็ตาม นอกจากข่าวลือเกี่ยวกับGoogle Pixel 6 แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า Google ได้พัฒนา Platform Slider ที่ใช้กับเครื่อง Chromebook ในอนาคต

Google Pixel 6

โดยรหัสพัฒนาใหม่นี้มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า GS101 ซึ่งคำว่า GS น่าจะย่อมาจากGoogle Silicon นั่นเอง โดยมีการสร้างห้องแลปสำหรับพัฒนาชิปร่วมกับ Samsung ทำให้คาดได้ว่าชิปที่จะใช้ในGoogle Pixel 6

และ Chromebook ในอนาคตจะมีพื้นฐานมาจากชิป Samsung Exynos นั่นเอง และคาดว่าชิปตัวใหม่ของGoogle จะเปิดตัวภายในปีนี้ ภายในงานเปิดตัวของGoogle Pixel 6

Google Pixel 6

ตามด้วย Chromebook  ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุว่าทำไม Google ตัดสินใจเลิกใช้ชิป Snapdragon ของ Qualcomm ทั้ง ๆ ที่เป็นคู่ค้ากันมานาน แต่คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาขาดแคลนชิปนั่นเอง เเต่ candy brust เกมสล็อตออนไลน์ ไม่ขาดเเคลนเงินรางวัล และโบนัส แน่นอน เล่นง่าย รางวัลใหญ่มากมาย ลุ้นได้ทุกการเดิมพัน แถมยังฝากถอนไวไม่ต้องรอ

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่