Apple ผงาดในจีน ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟน 1 ใน 4 ของแผ่นดินใหญ่

Apple

Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนตระกูล iPhone ถือเป็นหนึ่งแบรนด์มือถือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่านับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนในจีนหดตัวลงอย่างมาก แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ส่งผลต่อยอดขาย iPhone เท่าไรหนัก เพราะข้อมูลล่าสุดระบุว่า iPhone ครองส่วนแบ่งการตลาดมือถือในประเทศจีนมากถึง 25% ซึ่งเดิมทีพื้นที่ตลาดส่วนนี้เคยเป็นของแบรนด์เจ้าถิ่นอย่าง HUAWEI ที่เสียส่วนแบ่งตลาดไปเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ นั่นเอง

Apple มียอดขาย iPhone ปี 2022 ลดลงเพียง 4% ขณะที่ตลาดมือถือในจีนหดตัวถึง 15%

Apple

อ้างอิงข้อมูลจาก Counterpoint Research พบว่าApple กลายเป็นแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศจีนมากถึง 25% หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของตลาดมือถือในประเทศจีน

เทียบกับเมื่อช่วงปี 2013 หรือเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้วซึ่งมือถือตระกูล iPhone ครอบส่วนแบ่งการตลาดในจีนเพียง 12% เท่านั้น ทั้งนี้ ส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมาเป็นเท่าตัวนี้ เดิมทีเคยเป็นของแบรนด์เจ้าถิ่นอย่าง HUAWEI แต่ต้องเสียส่วนไปเพราะได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

Apple

“อีธาน ฉี” (Ethan Qi) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยตลาดของ Counterpoint Research เผยว่า ตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศจีนเข้าสู่ภาวะซบเซาอย่างหนักนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ตามด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รวมถึงมาตรการปิดเมืองของรัฐบาลจีนเพื่อกดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเป็นเป็นศูนย์ ส่งผลให้ตลาดมือถือในจีนหดตัวลงถึง 15% ในปี 2022 แต่ยอดขาย iPhone กลับลดลงเพียง 4% เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าความนิยมมือถือตระกูล iPhone ในจีนสูงมากเพียงใด

Apple

นอกจากนี้ Counterpoint Research ยังเสริมอีกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาApple กลายเป็นแบรนด์มือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของตลาดมือถือระดับพรีเมียมในจีนอย่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนในประเทศสู้ได้เลย

โดยเฉพาะในช่วงปลายปีของทุกปีที่จะมีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ก็ยิ่งดันส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด  และอย่าพลาด ยูฟ่าสล็อต สล็อตออนไลน์ UFABET ครบทุกค่ายเกมส์ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้กำไรสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Apple ยอมจ่ายเกือบ 2 พันล้าน ยุติคดีฟ้องร้อง Butterfly Keyboard บน MacBook รุ่นเก่า

บริษัท Apple

บริษัท Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ยอมควักกระเป๋ากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อจบคดีฟ้องร้องกับผู้ใช้งาน MacBook รุ่นเก่าหลายรายที่รวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยจากบริษัทเพราะปัญหาคีย์บอร์ดรูปผีเสื้อ (Butterfly Keyboard) ที่ถูกติดตั้งใช้งานกับ MacBook รุ่นที่ผลิตในปี 2015 – 2019 ทำงานผิดเพี้ยนจนใช้งานไม่ได้ แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทางบริษัทจะพยายามแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยการออกโปรแกรมซ่อมคีบอร์ดให้ฟรี แต่สุดท้ายผู้ใช้หลายรายก็เจอปัญหาเดิมซ้ำอีกจนต้องล้มเลิกความพยายาม

บริษัท Apple ต้องจ่ายเงินชดเชยให้ผู้ใช้ที่เจอปัญหาคีย์บอร์ดพังรายละ 395 เหรียญสหรัฐฯ 

บริษัท Apple

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 Apple ได้เปิดตัว “คีย์บอร์ดรูปผีเสื้อ” (Butterfly Keyboard) ที่ใช้กลไกแบบใหม่สำหรับติดตั้งใช้งานกับ MacBook, MacBook Air, และ MacBook Pro โดยทางบริษัทอ้างว่ากลไกแบบผีเสื้อจะช่วยให้ตอบสนองดีขึ้น พิมพ์ได้สบายขึ้น แต่พอใช้งานจริงผลกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะผู้ใช้หลายรายต่างเจอปัญหาคีย์บอร์ดกดไม่ติด หรือไม่กดแล้วตัวอักษรเด้งซ้ำ

จนมีผู้ใช้ MacBook Pro รุ่นที่ผลิตในปี 2015 – 2019 ที่ใช้กดไกลผีเสื้อเจ้าปัญหานี้ได้รวมตัวกันยื่นฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยจากบริษัทในปี 2018 โดยอ้างว่า บริษัทรับรู้ปัญหาของคีย์บอร์ดแบบผีเสื้ออยู่ก่อนแล้ว แต่พยายามปกปิดปัญหาไม่ให้ลูกค้ารู้เพื่อที่จะขายสินค้าของตัวเองต่อ

บริษัท Apple

แม้ว่าทาง Apple จะพยายามประนีประนอมด้วยการออกโปรแกรมซ่อม MacBook ทุกรุ่นที่ใช้คีย์บอร์ดผีเสื้อให้แบบฟรี ๆ ในปี 2018 แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความผิดพลาดด้านการออกแบบกลไก ทำให้ถึงต่อให้ซ่อมใหม่กี่ครั้งก็ยังเจอปัญหาเดิมซ้ำ ๆ อยู่ดี จนสุดท้ายแล้วบริษัทต้องล้มเลิกความพยายายามซ่อมคีย์บอร์ดผีเสื้อ และเปลี่ยนมาใช้กลไกคีย์บอร์ดแบบกรรไกรเหมือนเดิม

ล่าสุด Apple ตัดสินใจจ่ายเงินจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,750 ล้านบาท เพื่อยุติคดีฟ้องร้อง ซึ่งประกอบด้วยค่าทนายความของโจทย์, ค่าใช้จ่ายในการสู้คดีของฝ่ายโจทย์ และค่าชดเชยที่บริษัทต้องจ่ายให้ผู้เสียหายโดยอิงจากค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนคีย์บอร์ด

บริษัท Apple

และจำนวนครั้งที่เคยเปลี่ยน ซึ่งเฉลี่ยแล้วผู้เสียหายจะได้รับเงินชดเชยคนละ 395 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 13,800 บาท และห้ามพลาด vbet24 คาสิโนออนไลน์ เกมการพนันออนไลน์และศูนย์รวมการเดิมพันที่ดีที่สุด เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว iPad Pro 2022 มาพร้อมชิปเซ็ต Apple M2 ซีพียูแรงขึ้น 15% และจีพียูแรงขึ้น 35% 

iPad Pro 2022

iPad Pro 2022 แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ของ Apple ที่คราวนี้มีการอัปเกรดชิปประมวลผลมาใช้ Apple M2 ที่มีขุมพลังซีพียู (CPU) แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 15%

พร้อมจีพียู (GPU) ที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 35% แถมยังมี Neural Engine ที่เพิ่มความสามารถด้านการประมวลผลของระบบ Machine Learning อีกถึง 40% เรียกได้ว่าแรงเหลือ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือการทำงานกราฟิก 3D 

iPad Pro 2022 มีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว

iPad Pro 2022

iPad Pro 2022มาพร้อมกับหน้าจอ 2 ขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว โดยในรุ่น 11 นิ้ว จะใช้หน้าจอแบบ Liquid Retina ความละเอียด 2388 x 1668 พิกเซล ที่มีเทคโนโลยี ProMotion รีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision ส่วนรุ่น 12.9 นิ้ว

จะใช้หน้าจอแบบ Liquid Retina XDR ความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล รีเฟรชเรท 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 1,600 nits เอาไปใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ

รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision และเช่นเคยทั้ง 2 ขนาด รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2 และ Magic Keyboard 

iPad Pro 2022

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 16 ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Apple M2 ที่ทาง Apple เคลมว่า มีขุมพลังซีพียู (CPU) ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 15%

พร้อมจีพียู (GPU) ที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 35% แถมยังมี Neural Engine ที่เพิ่มความแรงการประมวลผลของระบบ Machine Learning อีก 40% เรียกได้ว่าแรงเหลือ ๆ

สำหรับการใช้งานทั่วไปหรือการทำงานกราฟิก 3D หนัก ๆ ในส่วนของหน่วยความจำ RAM มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB/256GB/512GB/1TB/2TB 

นอกจากนี้ ยังคงมากับชุดกล้องหลัง 2 ตัว เหมือกับรุ่นปี 2021 ความละเอียด 12MP+10MP+LiDAR พร้อมกล้องหน้าขนาด 12MP รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง 122 องศา รองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi6E 

iPad Pro 2022

สำหรับiPad Pro 2022 มีราคาวางจำหน่ายสำหรับรุ่น Wi-Fi ขนาด 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 32,9xx บาท และขนาด 12.9 เริ่มต้นที่ 44,9xx บาท ส่วนรุ่น 5G ขนาด 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 38,9xx บาท และขนาด 12.9 นิ้ว เริ่มต้นที่ 50,900 บาท

แต่วันวางจำหน่ายในประเทศยังต้องรอ Apple ประกาศอีกทีหนึ่ง และขอแนะนำ สล็อต เว็บใหญ่ pg เกมสล็อต ที่ดีที่สุด ฟรีเครดิต ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ให้กำไรสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

หลุดภาพกระจกหน้าจอ iPhone 14 Series พร้อมดีไซน์กล้องหน้าแบบรอยบากและเจาะรู

iPhone 14 Series

iPhone 14 Series เริ่มมีข่าวลือข่าวหลุดออกมาเป็นระยะ โดยเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็เพิ่งมีภาพหลุดแม่พิมพ์เคสที่เผยให้เห็นดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลัง ล่าสุดก็มีภาพที่คาดกันว่าจะเป็นกระจกหน้าจอของiPhone 14 หลุดออกมาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งก็มีทั้งรุ่นที่ใช้ดีไซน์กล้องหน้าแบบเจาะรูและดีไซน์แบบรอยบาก แต่ที่น่าสนใจก็คือรุ่นที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูจะมีลักษณะเป็นรูแนวนอนยาวและมีรูวงกลมอยู่ถัดมาคล้ายตัว i หรือ ! ซึ่งถือเป็นดีไซน์แปลกใจพอสมควรสำหรับมือถือตระกูล iPhone 

iPhone 14 Series มาพร้อมจอขนาด 6.1 นิ้ว และ 6.7 นิ้ว

iPhone 14 Series

เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ได้มีภาพหลุดแม่พิมพ์เคสของiPhone 14 Series หลุดออกมา เผยให้เห็นดีไซน์ตัวเครื่องด้านหลังรวมถึงดีไซน์กล้องหลังที่ติดมากับiPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย แต่ล่าสุดได้มีภาพกระจกหน้าจอของiPhone 14 หลุดออกมาเพิ่มเติม เผยให้เห็นขนาดหน้าจอและดีไซน์กล้องหน้าอย่างชัดเจน

iPhone 14 Series

โดยในรุ่น  iPhone 14 กับ 14 Pro มีหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ส่วนรุ่น 14 Max และ 14 Pro Max มีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว แต่ในส่วนของดีไซน์กล้องหน้านั้นจะสลับกันเล็กน้อย โดย iPhone 14 กับ 14 Max จะใช้ดีไซน์แบบรอยบากเป็นแถบยาวด้านบนหน้าจอ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นดีไซน์สุดคลาสสิคของตระกูล iPhone เลยก็ว่าได้ ส่วน 14 Pro กับ 14 Pro Max จะใช้ดีไซน์แบบเจาะรูมีลักษณะเป็นรูแนวนอนยาวและมีรูวงกลมอยู่ถัดมาคล้ายตัว i หรือ ! ซึ่งถือเป็นดีไซน์แปลกใจพอสมควรสำหรับมือถือตระกูล iPhone 

iPhone 14 Series

นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกด้วยว่าiPhone 14 Series ทุกรุ่นจะมาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำอย่างการให้ผู้ใช้งานสามมารถส่งข้อความฉุกเฉินผ่านระบบดาวเทียมในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินแต่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้iPhone บางรุ่น (น่าจะเป็นรุ่นท็อป 2 รุ่น) จะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดถึง 48MP และหน้าจอที่รองรับรีเฟรชเรทระดับ 120Hz  แต่ทั้งนี้คงต้องติดตามข่าวคราวกันต่อไป เพราะอย่างที่รู้ ๆ กันว่าข่าวเกี่ยวกับiPhone 14 แทบจะเปลี่ยนแปลงกันทุกสัปดาห์เลยก็ว่าได้ และอย่าพลาด slot itp สล็อตออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย เล่นได้ทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Samsung ครองแชมป์ส่งออกสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ไตรมาส 3 ปี 2021

บริษัท Samsung

บริษัท Samsung ผู้ผลิตของทางด้านตัวมือถือที่ถือว่ายักษ์ใหญ่กันเลยจริง ๆ จากทางประเทศเกาหลีใต้กลายกันมาเป็นในส่วนของตัวแบรนด์ที่ได้ทำการครองในส่วนแบ่งทางด้านการตลาดที่เป็นสมาร์ทโฟนทั่วโลกมากที่สุดในไตรมาส 3 ปี 2021

โดยมีส่วนแบ่งถึง 20% ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง Apple ที่กินส่วนแบ่ง 14% อยู่พอสมควร

ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ Xiaomi ซึ่งตามมาติด ๆ ที่ 13% ส่วนอันดับ 4 มีถึงสองแบรนด์ ได้แก่ Vivo และ OPPO ที่ครองส่วนแบ่งเท่ากัน 10% 

บริษัท Samsung มียอดส่งออกมือถือ 69.3 ล้านเครื่อง ไตรมาส 3/2021

บริษัท Samsung

อ้างอิงจากรายงานของ Counterpoint Research ระบุว่า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2021 ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกเติบโตขึ้นถึง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่กลับหดตัวลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยทั่วโลกมียอดส่งออกสมาร์ทโฟนทั้งหมด 342 ล้านเครื่อง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มียอดส่งออกทั้งหมด 365.6 ล้านเครื่อง

โดย Samsung ยังคงครองบัลลังก์แชมป์ที่ส่งออกมือถือมากที่สุด ครองส่วนแบ่งการตลาดในไตรมาส 3 ไปถึง 20% ด้วยยอดส่งออกทั้งหมด 69.3 ล้านเครื่อง ตามด้วยอันดับ 2 อย่าง Apple ที่ได้ส่วนแบ่ง 14% ยอดส่งออก 48 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 15%

สูสีกับอันดับ 3 อย่าง Xiaomi ที่ได้ส่วนแบ่ง 13% ยอดส่งออก 44.4 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีที่แล้ว 5% ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการขาดแคลนวัสดุที่ใช้ผลิต รวมถึงปัญหาทางด้านการขนส่งนั่นเอง

บริษัท Samsung

ส่วนอันดับ 4 – 5 อย่าง Vivo และ OPPO ครองส่วนแบ่งเท่ากันที่ 10%  แต่ที่น่าตกใจก็คืออันดับ 6 อย่าง Realme แบรนด์น้องใหม่ที่เติบโตขึ้นมากในไตรมาสนี้ โดยครองส่วนแบ่ง 5% มียอดส่งออก 16.2 ล้านเครื่อง ถือเป็นสถิติส่งออกสูงสุดของบริษัทเลยทีเดียว นอกจากครองแชมป์ส่งออกทั่วโลกแล้ว

Samsung ยังครองส่วนแบ่งการตลอดเป็นอันดับ 1 มากถึง 3 ภูมิภาค จาก 5 ภูมิภาคทั่วโลก ได้แก่ ยุโรป (34%), ละตินอเมริกัน (36%) และตะวันออกกลาง-แอฟริกา (20%)

บริษัท Samsung

ส่วนอเมริกาเหนือ ตกเป็นของ Apple (48%) และเอเชียเป็นของ Vivo (17%)  ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า Samsung จะสามารถรักษาแชมป์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 ไว้ได้หรือไม่

และขอแนะนำ สล็อต666  ค่ายสล็อตออนไลน์ โบนัสแตกง่าย จ่ายจริง แจกเครดิตฟรีให้ไปเล่นกัน มีรางวัลมากมาย ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ให้บริการคุณภาพ ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G ของตัวเองแทนที่ Qualcomm

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G Apple ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกันเตรียมที่จะพัฒนาชิป 5G ของตัวเอง บนพื้นฐานสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร เพื่ออลดการพึ่งพาชิปจาก Qualcomm หลังจากที่ก่อนหน้านี้ iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา

ต่างเลือกใช้ชิป Snapdragon X60 ของ Qualcomm ทั้งหมด จนทางบริษัทมองว่าพวกเขาเสียผลประโยชน์ให้กับ Qualcomm มากเกินไปซะแล้ว ทำให้คาดกันว่าออเดอร์สั่งซื้อชิป 5G ของ Qualcomm จากค่ายผลไม้แห่งนี้จะลดลงเหลือเพียง 20% ภายในอ 2 – 3 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G ตัวใหม่ ร่วมกับ TSMC

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G

มีรายงานว่าApple ได้เข้าหารือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Co.) เพื่อพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง บนพื้นฐานสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร เพื่อลดการพึ่งพาชิป 5G ของ Qualcomm หลังจากที่ก่อนหน้านี้ iPhone 13 ทั้ง 4 รุ่น ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา

ต่างเลือกใช้ชิป Snapdragon X60 ของ Qualcomm ทั้งหมด จนทางบริษัทมองว่าพวกเขาเสียผลประโยชน์ให้กับ Qualcomm มากเกินไปซะแล้ว

ซึ่งก็มีการคาดการณ์ว่าApple น่าจะลดคำสั่งซื้อโมเด็ม 5G ของ Qualcomm เหลือเพียง 20% ภายใน 2 – 3 ปีข้างหน้า และน่าจะสามารถพึ่งพาชิป 5G ของตัวเองได้เกือบ 100% อย่างเร็วที่สุดคือช่วงหลังปี 2023 เป็นต้นไป 

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่Apple พยายามมองหาตัวเลือกอื่นนอกจาก Qualcomm เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2019 บริษัทก็เคยเข้าซื้อแผนกโมเด็ม 5G ของ Intel

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G

ซึ่ง ณ ตอนนั้น หลายฝ่ายคาดเดาว่า พวกเขาน่าจะต้องมีแผนพัฒนาโมเด็ม 5G ของตัวเอง แทนการใช้บริการของ Qualcomm อย่างแน่นอน แต่สุดท้ายก็ต้องรอเวลานานกว่า 2 ปี กว่าที่จะมีความคืบหน้าให้เห็น 

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังรายงานเพิ่มเติมอีกว่า iPhone รุ่นปี 2022 จะเปลี่ยนมาใช้ชิปเซ็ตที่ใช้สถาปัตยกรรมขนาด 4 นาโนเมตรทั้งหมด แทนที่สถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตรที่ใช้มาหลายปี

Apple เตรียมพัฒนาชิป 5G

และชิปเซ็ต iPad รุ่นปี 2023 จะมีพื้นฐานบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตร ยิ่งไปกว่านั้น iPhone ในปี 2023 อาจมาพร้อมกับชิป 3 นาโนเมตรเหมือนกับ iPad อีกด้วย

และห้ามพลาด betclic88 ทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจของการแทงบอล เดิมพันง่าย ได้เงินจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว Self Service Repair บริการให้ลูกค้าซื้ออะไหล่กลับไปซ่อม iPhone ได้เองของ Apple

Self Service Repair

Self Service Repair เป็นบริการล่าสุดของ Apple ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อเครื่องมือและอะไหล่ของแท้เพื่อเอากลับไปซ่อม iPhone 12 และ 13 ได้ด้วยตัวเองโดยไม่จำเป็นต้องส่งให้ศูนย์หรือร้านซ่อมที่ผ่านการรับรองของ Apple อีกต่อไป โดยจะเริ่มเปิดให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 เป็นต้นไป และจะขยายไปตามประเทศอื่น ๆ ภายหลัง หากได้รับการตอบรับที่ดี

Self Service Repair จะเริ่มขายอะไหล่ หน้าจอ, แบตเตอรี่ และกล้อง ให้ลูกค้าปีหน้า

 Self Service Repair

ก่อนหน้านี้ Apple มักถูกวิจารณ์เรื่องการบริการซ่อมมือถือที่ค่อนข้างยุ่งยาก แถมอะไรนิดอะไรหน่อยก็ต้องส่งซ่อมกับศูนย์หรือร้านค้าที่ผ่านการรับรองจากบริษัท ซึ่งมักจะมีราคาแพง และหากใครที่คิดจะซ่อมเองหรือซ่อมกับร้านตู้ก็มักจะเจอปัญหาจุกจิกตามมา เช่น ประกันขาด หรือระบบล็อกไม่ให้ฟีเจอร์บางอย่างใช้งานได้ 100% เป็นต้น

 Self Service Repair

แต่ล่าสุด ปัญหาเหล่านี้ใกล้จะหมดไปแล้ว เพราะ Apple ได้เปิดตัวบริการใหม่ในชื่อSelf Service Repair ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถซื้อเครื่องมือและอะไหล่แท้ต่าง ๆ กลับไปซ่อม iPhone 12 และ 13 ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องส่งศูนย์อีกต่อไป  ซึ่งในช่วงแรกจะขายเฉพาะอะไหล่สำคัญ ๆ ที่มักเกิดปัญหาบ่อย ๆ เช่น หน้าจอ, แบตเตอรี่ และกล้อง ส่วนอะไหล่อื่น ๆ จะทยอยนำออกมาขายต่อไปในอนาคตหากบริการนี้มีกระแสตอบรับที่ดี  ส่วนพวกเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อมมือถือจะขายพร้อมคู่มือการซ่อมเพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างถูกต้อง

 Self Service Repair

นอกจากนี้ บริการSelf Service Repair ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้านำอะไหล่ชิ้นเก่าที่ถูกถอดออกส่งกลับมารีไซเคิลที่บริษัทเพื่อรับเครดิตหรือส่วนลดสำหรับใช้ซื้อสินค้าของ Apple ในครั้งต่อไปได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ทาง Apple ยังแนะนำว่าการซ่อมแซมอุปกรณ์ควรจะต้องให้ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการซ่อมมือถือเป็นลงมือซ่อมเอง ส่วนลูกค้าทั่วไปควรจะไปรับบริการจากร้านซ่อมที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า 

ทั้งนี้ Apple จะเริ่มเปิดขายอะไหล่ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 เป็นต้นไปในประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน และจะขยายไปตามประเทศอื่น ๆ ภายหลัง  และขอแนะนำ 356bet เว็บเด็ด เว็บดัง เว็บที่คุณต้องไม่พลาดที่จะมาร่วมสนุก เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

อีลอน มัสก์ หนุน Epic Games ยื่นฟ้อง Apple เรื่องค่าธรรมเนียม

อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีสายปั่น เจ้าของอาณาจักร Tesla ได้ออกโรงสนับสนุนทางด้าน Epic Games ร้านค้าชื่อดังที่เพิ่งจะยื่นฟ้องบริษัท Apple

เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใน App Store โดยซีอีโอวัย 50 ปี ระบุว่า ค่าธรรมเนียม 30% ที่ Apple หักจากแอปฯ ต่าง ๆ ใน App Store เปรียบเหมือน “ภาษี” บนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่ง Apple ไม่ควรมีสิทธิ์เก็บค่าธรรมเนียมที่ว่านี้ และยืนยันว่า Epic คือฝ่ายที่ทำถูกต้องแล้ว

อีลอน มัสก์ จวก Apple และ Android กำลังผูกขาดตลาดแอปพลิเคชั่นบนมือถือ

อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ผู้บริหารของ Tesla และ SpaceX ได้ทำการทวีตเพื่อแสดงความเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องของกคดีฟ้องร้องระหว่าง Epic Games และ Apple เรื่องค่าธรรมเนียมใน Apple Store เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 

โดยเขาออกโรงสนับสนุนทางด้าน Epic ที่พยายามต่อต้านการเก็บค่าธรรมเนียมถึง 30% จากแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บน App Store โดยเจ้าตัวระบุว่า “ค่าธรรมเนียมใน App Store ของ Apple ก็เหมือนกับการเก็บภาษีบนโลกอินเตอร์เน็ต และ Epic เป็นฝ่ายถูก”

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2020 Epic Games พยายามผลักดันระบบจ่ายเงินในแอปฯ บน Apple Store ให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินให้กับเจ้าของแอปฯ ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายผ่านคนกลางอย่าง Apple Store ซึ่งแปลว่า Apple จะไม่ได้รับค่าธรรมเนียม 30%

อีลอน มัสก์

ถือเป็นการละเมิดกฎของ Apple จนทำให้แอปฯ บางส่วนถูกถอดออกจาก App Store  จากนั้นทาง Epic Games ก็ได้ยื่นฟ้อง Apple โดยกล่าวหาว่า

แพลตฟอร์ม iOS ไม่มีช่องทางอื่นให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกลงแอปฯ จาก Store แห่งอื่นได้เลย ทำให้ผู้พัฒนาหรือเจ้าของแอปฯ ทุกคน ต้องยอมจ่ายค่าธรรมเนียม 30% ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบผูกขา

  ทั้งนี้อีลอน มัสก์ ยังเสริมว่า ปัจจุบัน Apple (iOS) และ Android เป็นเพียงผู้เล่นแค่สองรายที่เป็นเจ้าตลาดมือถือ ซึ่งถือเป็นการผูกขาด ฉะนั้น การหักค่าธรรมเนียมจากแอปฯ ที่อยู่ใน Store ของตัวเอง จึงเหมือนกับการเก็บภาษีนั่นเอง  อย่างไรก็ตาม การแสดงท่าทีว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม Apple

อีลอน มัสก์

ของอีลอน มัสก์ ในครั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากการที่ Apple จะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าของตัวเองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวที่อาจจะก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของเขาในอนาคตนั่นเอง และอย่าพลาด ufabet เว็บตรง เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ ปลอดภัย และคุ้มค่า แน่นอน เล่นง่าย ได้เงินจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

บริษัทApple เตรียมลงดาบเหล่ากูรูที่ชอบโพสต์ข่าวหลุดผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท

บริษัทApple

บริษัทApple บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ออกโรงขู่ดำเนินคดีกับบรรดากูรูไอทีที่ชอบแอบนำข้อมูลลับเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ของบริษัท

ออกไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน กูรูไอทีชาวจีนที่รู้จักกันในชื่อ “Kang” โพสต์ข้อความบน Weibo ว่า ได้รับคำตอบจากApple ว่าให้เลิกโพสต์ข่าวหลุดผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ยังไม่ได้เปิดตัว ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด

บริษัทApple เคยลงดาบวิศวกรหลังลูกสาวโพสต์คลิปหลุด iPhone X

Appleพยายามอย่างหนักในการป้องกันไม่ให้ข้อมูลการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของบริษัท เล็ดรอดออกไปสู่สาธารณชนก่อนเวลาอันควร แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังคงมีข่าวหลุดทั้งรายละเอียด รูปภาพ หรือแม้แต่คลิปออกมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะสินค้ายอดฮิตอย่าง iPhone รุ่นใหม่ หรือ MacBook รุ่นใหม่ ที่มักจะมีข่าวหลุดออกมาก่อนงานเปิดตัวเป็นเวลาหลายเดือน

บริษัท Apple

ส่งผลให้ล่าสุดทางApple ประกาศยกระดับการควบคุมข่าวหลุดเหล่านี้ขึ้นไปอีกขั้น โดยขู่ใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อเอาผิดบรรดากูรูที่แอบนำข้อมูลสินค้ารุ่นใหม่ของบริษัทออกไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคนแรก ๆ ที่ได้รับคำเตือนนี้ก็คือ “Kang” กูรูชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของคะแนนความน่าเชื่อถือบนเว็บไซต์ AppleTrack ถึง 97.1% โดยเจ้าตัวออกมาโพสต์ใน Weibo ว่า ได้รับคำเตือนจาก Apple ว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมาย หากยังไม่เลิกเผยแพร่ข้อมูลสินค้ารุ่นใหม่ของบริษัท หรือทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้าใหม่ที่ยังไม่เปิดตัว

บริษัท Apple

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Apple งัดไม้แข็งออกมาใช้กำราบพวกปากโป้งที่ชอบเผยแพร่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของบริษัท เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 ได้มีลูกสาวของวิศวกรรายหนึ่งในบริษัทออกมาเผยแพร่คลิปวิดีโอแสดงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับ iPhone X แบบละเอียดยิบก่อนที่จะถึงงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

บริษัท Apple

ซึ่งApple ก็ลงโทษถึงขั้นไล่วิศวกรรายนั้นออกในทันที  ทั้งนี้ ทางApple ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่มีการยืนยันว่า มีจดหมายเตือนจำนวนเท่าไหร่ที่ถูกส่งออกไปถึงบรรดากูรูทั้งหลาย ซึ่งทาง Kang ก็ยืนยันว่า เขาจะไม่เผยแพร่เนื้อหาที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในอนาคตอีกต่อไป และ slot555  เว็บเดิมพันออนไลน์ เดิมพันง่าย ได้เงินจริง ระบบเดิมพันที่ทันสมัย มีรางวัลมากมาย ฝากถอนรวดเร็ว ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เพื่อความปลอดภัย! Apple เตรียมใช้ “Passkeys” แทนที่การใส่พาสเวิร์ดแบบเก่า

Apple

Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยในงานประชุม WWDC21 ที่จัดขั้นระหว่างวันที่ 7 – 11 มิถุนายน ที่ผ่านมาว่า บริษัทเตรียมที่จะใช้ฟีเจอร์ “Passkeys”

ที่เป็นการเข้ารหัสความปลอดภัยขั้นสูงและทำหน้าที่เก็บข้อมูลการเข้าสู่ระบบไว้ใน iCloud Keychain เพื่อเก็บไว้ใช้แทน Password อีกทีในการเข้าสู่ระบบครั้งต่อไป ซึ่งจะเข้ามาแทนที่การใส่พาสเวิร์ดที่แบบเดิมที่ผู้ใช้จะสามารถใช้ Face ID หรือ Touch ID ในการเข้าสู่ระบบได้ 

Apple เตรียมใช้ “Passkeys” กับ iOS 15 และ macOS Monterey

Apple

Appleได้มีการสาธิตฟีเจอร์ “Passkeys” ที่เป็นการเข้ารหัสความปลอดภัยขั้นสูงและทำหน้าที่เก็บข้อมูลการเข้าสู่ระบบไว้ใน iCloud Keychain เพื่อไว้ใช้แทนรหัสผ่านในการเข้าสู่ระบบครั้งต่อไป ซึ่งจะเข้ามาแทนที่การใส่พาสเวิร์ดแบบเก่าที่ผู้ใช้สามารถใช้งานร่วมกับ Face ID หรือ Touch ID ได้ โดยระบบ Passkeys ที่ว่านี้ มีขั้นตอนในการสร้างบัญชีที่ยุ่งยากน้อยกว่า

Apple

เนื่องจากผู้ใช้ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่รหัสผ่านลงไป แต่จะสามารถเข้าสู่ระบบได้อย่างง่ายดายด้วยการยืนยันตัวตนผ่าน Touch ID หรือ Face ID  ยิ่งไปกว่านั้นApple ยังยืนยันว่า Passkey มีความปลอดภัยสูงกว่าการใส่รหัสผ่านแบบเดิม เพราะเป็นการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่บุคคลที่ 2 หรือ 3 ไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะแทบจะไม่มีรหัสให้จำไปใส่ได้เลย แถมระบบยังจะซิงก์กับทุก ๆ อุปกรณ์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา 

ทั้งนี้ เป็นที่เชื่อกันว่าApple พยายามจะยกระดับด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ หลังมีการถูกร้องเรียนว่า การเข้ารหัสแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านและ OTP หรือ Security Key ยังไม่ปลอดภัยเพียงพอ ทำให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว รวมถึงการถูกโจรกรรมข้อมูลจากแฮกเกอร์ได้ง่าย

Apple

เช่น ใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อสวมรอยรับรหัส OTP  อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Passkey ยังสามารถทำงานได้เฉพาะอุปกรณ์ของApple เท่านั้น โดยทางบริษัทระบุว่า ขณะนี้กำลังหารือกับ W3C ซึ่งเป็นองค์กรกำหนดมาตรฐานที่ใช้งานบนเวิล์ดไวด์เว็บให้ฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้บนอุปกรณ์อื่น ๆ ในอนาคตได้นั่นเอง และ ufabet 168  เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ แทงบอลออนไลน์ เล่นได้หลากหลาย ปลอดภัย มีรางวัลใหญ่มากมาย สมัครง่าย ฝากถอนเร็ว สมัครตอนนี้ฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่