Tag สมาร์ทวอทช์

สมาร์ทวอทช์ Amazfit Bip 3 Pro เป็นรุ่นที่ต้องบอกเลยว่าใหม่มาแรงอย่างมาก พร้อมจะมาตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างไม่มีขีดจำกัด ในงบเพียงแค่หลักพันต้นๆเท่านั้น ทำเอาไม่มีใครอยากจะเชื่อเลยทีเดียว มากความสามารถแล้วยังราคาถูกอีก ต้องไม่พลาดกันแล้ว 

ความน่าสนใจ สมาร์ทวอทช์ Amazfit Bip 3 Pro

ในครั้งนี้ที่มาพร้อมกับการรีวิวอีกครั้ง สมาร์ทวอทช์ที่ทันสมัยเรือนนี้ แกะกล่องมาแล้วจะพบว่ามีตัวเรือน สายชาร์จไฟ และคู่มือการใช้งาน ในส่วนของการดีไซน์ หน้าปัดมีขนาดอยู่ที่ 1.69 นิ้ว มีความพอดีกับข้อมือเวลาที่สวมใส่ มีการลดขอบให้ดูบางลงขึ้นมา จะเพิ่มความหรูหราได้อย่างดี ในส่วนของหน้าจอ ที่มาพร้อมกับความคมชัด เมื่อโดนแดดแรงส่องเข้ามา สู้แดดได้ดีมาก แล้วยังเป็นกระจกที่มีความโค้งมนสวยงาม ในส่วนของรอบตัวเรือน จะมีวัสดุที่ทนทาน มีความแข็งแรง มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด  3 สี สีขาว ดำ ชมพู ในทางด้านซ้าย จะไม่มีปุ่มให้ได้กดแต่อย่างใด ส่วนทางด้านขวาแล้ว จะเป็นปุ่มที่เข้าเมนูเพื่อใช้งานได้ ทางด้านบนและทางด้านล่าง จะสามารถถอดสายเปลี่ยนได้ ซึ่งขนาดจะอยู่ที่ 20 mm. เปลี่ยนได้ตามใจต้องการ โดยทางด้านใต้ของตัวเครื่อง จะมีระบบเซนเซอร์อยู่ เป็นการใช้วัดชีพจร และยังมีขั้วชาร์จไฟได้พร้อม กันน้ำได้ดีในระดับหนึ่ง ลงน้ำได้ลึกมากที่สุดอยู่ที่ 50 เมตร ใช้งานได้สบายหายห่วง ต้องทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งสนิท แล้วจึงมาชาร์จไฟได้ 

สมาร์ทวอทช์Amazfit Bip 3 Pro ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ

ในเรื่องการใช้งาน ที่ต้องบอกเลยว่าฟีเจอร์มีความครบครันมาก เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เน้นการได้ลื่นไหล สั่งผ่านมาในระบบทัชสกรีน มีการแจ้งเตือน แสดงผลนาฬิกาได้ จับเวลา เปลี่ยนหน้าจอได้ตามความชอบ มีให้เลือกถึง 50 รูปแบบ วัดความเครียด ติดตามสภาพอากาศ วัดออกซิเจนในเลือด เป็นต้น 

สมาร์ทวอทช์Amazfit Bip 3 Pro ในรุ่นนี้ที่มาตอบสนองความต้องการได้จริง ในราคาแสนถูก เพียงแค่ 1,690บาทเท่านั้น แต่ฟีเจอร์เยอะจัดเต็ม เรียบหรูดูดีสุดทันสมัย และอย่าพลาด slot333 ค่ายเกมสล็อตออนไลน์ ที่เปิดให้บริการมายาวนาน เดิมพันง่าย ปลอดภัย รวยไว สมัครง่ายๆได้แล้วตอนนี้

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

HUAWEI Watch GT 3 Pro เป็นรุ่นที่พร้อมจะลุยได้ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหน สวมใส่ได้ดูดีมีระดับ พร้อมที่จะตอบโจทย์กับความต้องการของทุกท่าน ใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี มีคุณภาพ แล้วยังมีหน้าปัดตัวเลขที่ทันสมัย เรียบหรู มาในระดับพรีเมี่ยมที่จะมารีวิวให้กับทุกท่านได้เป็นเจ้าของกัน 

ความน่าสนใจใน HUAWEI Watch GT 3 Pro

ในด้านของการดีไซน์ เมื่อมองแล้วจะเห็นถึงความเรียบหรู มีความดูดี ที่ได้ทำขึ้นจากไทเทเนียมโดยเฉพาะ ทำให้เครื่องดูแข็งแรงมาก มีความคงทนต่อการใช้งาน โดยตัวที่จะนำเสนอนี้เป็นสายหนังแท้ ออกสีเทา เป็นสีที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป แล้วเข้ากับตัวเรือนสีโลหะด้วย เมื่อมองถึงขอบเรือนทางขวาแล้ว จะมีปุ่มให้ได้กดใช้งานกัน เพื่อที่จะเข้าไปยังเมนูได้ หมุนได้พร้อม ในส่วนของปุ่มทางด้านล่าง จะเป็นปุ่มลัดที่ไว้ใช้งาน เพื่อที่จะเข้ามาในฟีเจอร์ออกกำลังกายได้ แต่ถ้าหากว่าไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ สามารถที่จะเปลี่ยนไปยังตั้งค่า แล้วตั้งเป็นฟีเจอร์อื่นได้ตามต้องการ หน้าปัดมีขนาดอยู่ที่ 46 นิ้ว สามารถกันน้ำได้ และกันฝุ่นได้ เชื่อมต่อระบบต่างๆได้ไม่ว่าจะเป็นจีพีเอส บลูทูธ เอ็นเอฟซี มีระบบเซนเซอร์ที่ดี แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 8 วัน ไปจนถึง 14 วัน น้ำหนักเพียงแค่ 54 กรัมเท่านั้น สามารถใช้งานได้กับระบบแอนดรอยด์ และไอโอเอสได้ 

HUAWEI Watch GT 3 Proใช้งานได้มีประสิทธิภาพสุดคุ้ม

ในการใช้งานเมื่อได้ทดสอบแล้ว หน้าจอมีความชัดเจนเมื่อเจอแดดจัด สู้แดดได้ดีไม่เปลืองแบตเตอรี่ มาด้วยกระจกแซฟไฟร์มีความทนทาน สามารถกันรอยขีดข่วนได้ยอดเยี่ยมมาก ใช้งานคู่กับแอปพลิเคชั่นได้ แต่จะเป็น HUAWEI HEALTH ติดตามถึงข้อมูลต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ การตั้งค่า การออกกำลังกาย เปลี่ยนหน้าปัด ที่มีให้เลือกได้หลายแบบ และฟีเจอร์ครบครัน 

HUAWEI Watch GT 3 Proเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับความครบครันอย่างแท้จริง ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย ตอบโจทย์ได้อย่างเต็มที่ในการใช้ชีวิตประจำวัน และอย่าพลาด slot itp สล็อตไอทีพี อันดับ 1 ของประเทศ เล่นง่าย ปลอดภัย รวยไว ฝากถอนสะดวก ให้บริการทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

INSTINCT 2 SOLAR ONE PIECE สมาร์ทวอทช์รุ่นพิเศษที่ทางแบรนด์ Garmin ได้จับมือกับการ์ตูนยอดฮิตอย่าง “วันพีซ” ออกแบบนาฬิการุ่นนี้ออกมาเอาใจแฟน ๆ โจรสลัดหมวกฟาง โดยมันมาพร้อมคุณสมบัติแบบเดียวกับINSTINCT 2 SOLAR ไม่ว่าจะเป็นหน้าปัดขนาด 45 มิลลิเมตร ที่มีหน้าจอแสดงผลแบบขาว-ดำ ขนาด 0.9 นิ้ว รวมถึงความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยให้ตัวนาฬิกาใช้งานไปได้เรื่อย ๆ ชนิดแบตไม่มีวันหมดเลยทีเดียว 

INSTINCT 2 SOLAR ONE PIECE สามารถใช้งานได้นาน 51 วัน โดยไม่โดนแดดเลย 

หลังจากที่เปิดตัวสมาร์ทวอทช์INSTINCT 2 SOLAR ไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ล่าสุด Garmin ก็ได้เปิดตัวรุ่นพิเศษอย่างINSTINCT 2 SOLAR ONE PIECE ที่เป็นการจับมือกับการ์ตูนยอดฮิตอย่าง “วันพีซ” ออกแบบนาฬิการุ่นนี้ออกมายั่วกิเลสแฟน ๆ โจรสลัดหมวกฟาง โดยมันมาพร้อมหน้าปัดขนาด 45 มิลลิเมตร ใช้หน้าจอแสดงผลแบบสีขาว-ดำขนาด 0.9 นิ้ว ความละเอียด 176 x 176 พิกเซล และยังมีจุดเด่นพิเศษอย่างแผงชาร์จแบตเตอรี่ด้วยแสงอาทิตย์ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าเพียงได้รับแสงอาทิตย์ความสว่างไม่ต่ำกว่า 50,000 lux (ช่วงเที่ยง-บ่าย) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง ก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ในตัวได้เรื่อย ๆ หรือหากไม่โดนแสงแดดเลย ตัวแบตเตอรี่ก็จะอยู่นานสูงสุดถึง 51 วัน

ในส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ นั้น แม้ตัว INSTINCT 2 จะใช้หน้าจอแบบขาว-ดำ แต่ก็รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นและวิคเจ็ตสายสุขภาพต่าง ๆ ได้ โดยสามารถดาวน์โหลดผ่าน The Garmin Connect IQ  ยิ่งไปกว่านั้นในตัวสมาร์ทวอชท์ยังมาพร้อมเซนเซอร์วัดค่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เซนเซอร์วัดชีพจร, เซนเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย, เซนเซอร์วัดความดันอากาศ, เข็มทิศ, ระบบบอกตำแหน่ง GPS และ GLONASS เป็นต้น  นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับมือถือทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพื่อรับส่งข้อมูลต่าง ๆ ได้อีกด้วย 

สำหรับINSTINCT 2 SOLAR ONE PIECE จะเริ่มวางจำหน่ายผ่านร้านตัวแทนของ Garmin ทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม นี้ โดยมีราคาอยู่ที่ 16,xxx บาท และอย่าพลาด sun34444 เว็บตรง เล่นง่าย จ่ายเงินจริง รวยไว เครดิตฟรี สามารถ ทดลองเล่น 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

สมาร์ทวอทช์ Wena 3 Ultraman Edition  รุ่นนี้ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ อัดแน่นไปด้วยคุณภาพเกินคาด ที่พร้อมให้ทุกท่านได้รีบจับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว มาในสไตล์ที่เน้นความหรูหรา ความดูดี เป็นความทันสมัยที่มาจากประเทศญี่ปุ่น นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นพิเศษมาก ที่มาเอาใจทุกท่านกันเลย วันที่จะวางจำหน่ายคือวันที่ 7 พฤศจิกายน 2022 นี้ อีกไม่กี่เดือนเท่านั้น ถ้าหากว่าใครที่ต้องการรุ่นลิมิเต็ด มีจำนวนที่จำกัดต้องติดตามกัน 

ความโดดเด่นน่าสนใจ สมาร์ทวอทช์ Wena 3 Ultraman Edition

ในความน่าสนใจ ที่มีการดีไซน์ออกมาได้หรูหรา มีความเรียบหรูเหมาะกับทุกๆท่าน ที่ได้ออกแบบมาเป็นกรอบโลหะมีความเงา เป็นสีเทาเงิน ในส่วนของหน้าปัดจะมีเข็มมาให้ 3 เข็ม มีทั้งที่เป็นเข็มสั้น เข็มยาว และยังมีเข็มวินาทีด้วย ที่ถือว่าเป็นธีมอุลตร้าแมน รวมไปถึงเป็นกองกำลังที่พร้อมจะมีการป้องกันกับชิน อุลตร้าแมนให้ได้ เมื่อมาในส่วนของด้านหลังเครื่อง จะมีโลโกชัดเจน มีหมายเลขซีเรียลให้พร้อม ในรุ่นอื่นไม่มี เป็นการออกแบบได้เข้ากับสายมาก เป็นสายยางที่เน้นคุณภาพ ไม่มีรอยต่อให้เห็น ทำให้ทนทานต่อการใช้งาน โดยหน้าปัดจะเป็นเม็ดมะยม นับว่ารุ่นนี้มีกลไกในการใช้งานที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นมาก เน้นคุณสมบัติในการใช้งานหลายประการตามความต้องการ 

สมาร์ทวอทช์Wena 3 Ultraman Edition มีจำนวนจำกัด ต้องไม่พลาด

รุ่นนี้ที่ได้ออกมาวางจำหน่ายเพียงแค่ 1,000 เรือนเท่านั้นทั่วโลก ที่สามารถจองได้แล้วผ่านทางเว็บไซต์ญี่ปุ่น ในราคาประมาณ 18,000 บาทเท่านั้น ถือว่าลิมิเต็ดมาก ยังไม่พอความไฮเทคของรุ่นนี้ ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบแอนดรอยด์ได้ และไอโอเอสได้ วัดชีพจร มีการตรวจจับความเครียด คุณภาพในการนอน นับได้ว่าเดินไปกี่ก้าวแล้ว กันน้ำได้ มีการแจ้งเตือนให้ไม่ว่าจะเป็นข้อความ นาฬิกา และอีกมากมาย

สมาร์ทวอทช์Wena 3 Ultraman Edition รุ่นนี้ที่พร้อมแล้วจะมาตอบสนองต่อความต้องการของทุกท่าน ในราคาเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความไฮเทค ทันสมัย อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเกินคาด และอย่าพลาด สล็อตยูฟ่า777 สล็อตคุณภาพ เดิมพันง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Watch GT Runner สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของค่าย HUAWEI ที่มาพร้อมจุดเด่นเรื่องความทนทานด้วยตัวเรือนผลิตจากวัสดุเซรามิคและไทเทเนียมคุณภาพสูง

ออกแบบมาสำหรับสายวิ่งโดยเฉพาะด้วยตัวเรือนน้ำหนักเบาเพียง 38.5 กรัม ติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์สำหรับช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิ่งหรือออกกำลังกายประเภทต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 อีกด้วย

Watch GT Runner ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 

Watch GT Runnerสมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ของแบรนด์ดังแดนมังกรอย่าง HUAWEI ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชื่นชอบการวิ่งโดยเฉพาะ ตัวเรือนสุดแข็งแกร่งผลิตจากวัสดุเซรามิคและไทเทเนียม แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 38.5 กรัม

หน้าปัดเป็นวงกลมขนาด 46 มิลลิเมตร ติดตั้งหน้าจอระบบสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล ให้ภาพคมชัด ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ใช้หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และ ROM ความจุ 32GB

พร้อมระบบ GPS ในตัว รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1  เพียบพร้อมด้วยเซ็นเซอร์วัดค่าการทำงานต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น Heart Rate Monitor สำหรับวัดชีพจร, , SpO2 สำหรับวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือด, Calorie Count วัดแคลลอรี่, Pedometer สำหรับนับก้าว

และ Sleep Monitor สำหรับตรวจวัดคุณภาพการนอน  แถมตัวนาฬิกายังได้ผ่านการรับรองมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ และมีความสามารถที่จะป้องกันการซึมของน้ำจากการแช่ตัวอุปกรณ์ในน้ำได้แบบถาวร 

นอกจากนี้Watch GT Runner ยังมาพร้อมฟีเจอร์สำหรับช่วยให้การวิ่งและการออกกำลังกายที่ได้รับการพัฒนาด้วยผลทดสอบทางวิทยาศาสตร์การกีฬา โดยเฉพาะการเดิน, วิ่ง, วิ่งทางไกล และวิ่งมาราธอน เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยตัวเครื่องมีแบตเตอรี่ที่รองรับการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ HUAWE เริ่มเปิดให้ลูกค้าในประเทศจีนสั่งจองWatch GT Runner ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านใน

และคาดได้จัดงานเปิดตัวแบบ Global ไปแล้วเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา  โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 2,188 หยวน หรือประมาณ 11,200 บาท

และเราขอแนะนำ สล็อต wallet ทางเลือกใหม่แห่งการเล่นสล็อตผ่านทรูวอลเล็ต และเเจกฟรีเครดิต เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Mibro Lite สมาร์ทวอทช์ที่ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีการจัดเต็มกันมาแต่จำนวนของราคาน่าคบหาของแบรนด์Mibro ที่เป็นหนึ่งในแบรนด์ลูกของเจ้าพ่อวงการไอทีแดนมังกรอย่าง Xiaomi โดยมันมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว

ความละเอียดระดับ HD ครอบด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D อัดแน่นด้วยตัวของเซ็นเซอร์สำหรับทางด้านของสายที่รักษาสุขภาพ รวมถึงสิ่งที่เป็นตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับอ็อกซิเจนในเลือด พร้อมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 อีกด้วย

Mibro Lite มีโหมดออกกำลังกายให้เลือกถึง 15 โหมด

Mibro หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Xiaomi ได้เปิดตัวMibro Liteสมาร์ทวอทช์สเปคจัดเต็ม แต่ราคาประหยัดที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD ที่ให้สีสันและความสว่างมากพอสำหรับการใช้งานกลางแดด ครอบด้วยกระจกของโค้ง 2.5D แข็งแรงทนทาน ฉาบด้วยสารกันรอยนิ้วมือ ตัวเรือนมีความหนาเพียง 9.88 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักรวมเพียง 48 กรัม พร้อมแบตเตอรี่ความจุ  230mAh ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถใช้งานในโหมดปกติได้ยาวนานสูงสุด 8 – 10 วันต่อการชาร์จเพียง 1 ครั้ง 

ในส่วนของการใช้งานนั้นน่าจะถูกใจสายสุขภาพ เพราะมีตัวของโหมดที่เป็นสิ่งที่ออกกำลังกายให้ได้ทำการเลือกถึง 15 โหมด ไม่ว่าจะเป็น วิ่งบนลู่วิ่งอัตโนมัติ, วิ่งกลางแจ้ง, เดิน, โยคะ, ปั่นจักรยาน, เทนนิส, ฟุตบอล, แบดมินตัน ฯลฯ พร้อมตัวของเซ็นเซอร์ที่เป็นการตรวจจับในส่วนของอัตราการเต้นของทางด้านห้องหัวใจที่มันนั้นสามารถที่จะทำการแจ้งเตือนอาการหัวใจเต้นผิดปกติได้อย่างแม่นยำ 

นอกจากนี้Mibro Lite ยังมีเซ็นเซอร์ SpO2 สำหรับที่จะทำการตรวจของการวัดระดับที่เป็นอ็อกซิเจนในเลือด, ตรวจจับเกี่ยวกับความเครียด, ตรวจวัดเรื่องของคุณภาพในการนอนหลับ

ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกเอาไว้ให้เราดูได้อย่างละเอียดว่าควรปรับปรุงตรงจุดไหน เพื่อช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพให้ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น สมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ยังผ่านการรับรองมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที สามารถป้องกันน้ำฝน หรือใส่ล้างมือได้หายห่วง (แต่ไม่เหมาะกับการใส่ว่ายน้ำ)

สำหรับMibro Liteวางจำหน่ายแล้วใน AliExpress สนนราคาอยู่ที่ 2,xxx บาท โดยมีสายรัดข้อมือแบบต่าง ๆ ให้เลือกด้วยในราคา 2,xxx บาท และ Joker Slot แหล่งรวบรวมความสนุกสนาน เล่นง่าย เงินรางวัลสูง ปลอดภัย ไม่ควรพลาด 2021 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Xiaomi Watch Color 2 สมาร์ทวอทช์สายสุขภาพรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมฟีเจอร์การออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพครบครัน พร้อมอัพเกรดสเปคแบบจัดเต็มมากกว่ารุ่นก่อนหลายรายการ

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว แบตเตอรี่ขนาด 470 mAh ที่ทาง Xiaomi เคลมว่าสามารถใช้งานได้แบบต่อเนื่องนานสูงสุดถึง 12 วัน แถมยังรองรับคุณสมบัติที่เป็นส่วนของการกันน้ำ 5ATM อีกด้วย

Xiaomi Watch Color 2 มีระบบตรวจจับอ็อกซิเจนในเลือดและตรวจจับชีพจร 24 ชม.

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2020 ค่าย Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทวอทช์สำหรับสายสุขภาพอย่าง Watch Color รุ่นแรกออกสู่ตลาด ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับในทางบวก ทำให้ล่าสุด นาย “เหลย จุน” (Lei Jun) ซีอีโอของ Xiaomi ได้โพสต์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ผ่านบัญชี Weibo ส่วนตัว นั่นคือXiaomi Watch Color 2ที่มาพร้อมการอัพเกรดสเปคจากรุ่นก่อนหลายรายการ

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมจาก 1.39 นิ้ว เป็น 1.43 นิ้ว มีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลต่อตารางนิ้วอยู่ที่ 326 PPI ซึ่งถือว่าแสดงผลได้ละเอียดและเนียนตาพอสมควร

รองรับอัตรารีเฟรชเรท 60Hz ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 470 mAh ที่ Xiaomi เคลมว่าสามารถที่จะทำการใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุดถึง 12 วัน  รวมถึงรองรับของสิ่งที่เป็นมาตรฐานของการที่ได้กันน้ำระดับ 5ATM ซึ่งมากพอที่จะใส่ลงไปว่ายน้ำได้ลึกถึง 50 เมตรเลยทีเดียว

นอกจากนี้Xiaomi Watch Color 2 ยังได้มีการมาพร้อมกันตัวของโหมดที่จะทำการใช้งานสำหรับที่จะเป็นออกำลังกายกันที่มากถึง 117 โหมด เช่น เซ็นเซอร์ที่เป็นการตรวจจับของอ็อกซิเจนในระบบเลือด, เซ็นเซอร์ตรวจจับของทางด้านชีพจรแบบ 24 ชั่วโมง และเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพการนอนหลับ รองรับการคุยโทรศัพท์โดยเชื่อมกับมือถือผ่านบลูทูธ รวมถึงยังรองรับการใช้งานแบบ Third Party ได้ด้วย ทั้งนี้Xiaomi Watch Color 2 มีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศจีนวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้

โดยมีราคาเปิดตัวแพงกว่า Watch Color 1 อยู่ที่ 999 หยวน หรือประมาณ 5,200 บาท ขณะที่รุ่นแรกมีราคาเปิดตัวที่ 799 หยวน หรือประมาณ 4,160 บาท

ซึ่งตอนนี้ทาง Xiaomi ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าจะมีการส่งสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ออกมาทำตลาดนอกประเทศจีนหรือไม่ และ 356bet เว็บไซต์พนันออนไลน์ชั้นนำ ที่ทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ว่าดีที่สุดในตอนนี้ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ได้เงินจริง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

สมาร์ทวอทช์  Zepp E เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่เป็นแบรนด์ดังทั่วไประดับโลกที่มีคนรู้จักกันอย่างมาก ยอดขายในการสั่งซื้อถล่มทลายจำนวนมาก โดยติดอันดับที่ 4 ของโลกที่ยอดนิยมในขณะนี้ โดยเหมาะสำหรับการพกพาไปในสถานที่ต่างๆ ใช้งานได้จริง ที่ขายสินค้าได้เป็นล้านเครื่องในช่วงของไตรมาสแรก

โดยการเติบโตในยอดขายเกินครึ่ง เป็นสินค้าที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ตะให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ครอบคลุม โดยเป็นสำหรับของผู้ใหญ่ ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เป็นที่ชื่นชอบ สุดคุ้มแน่เมื่อซื้อมาใช้แล้ว ใครที่กำลังมองหาสินค้าในราคาไม่แพง ใช้งานได้ยาวนาน มีรีวิวในโลกออนไลน์จำนวนมากมาดูกันว่าจะดีจริงอย่างที่กล่าวกันไว้หรือไม่ มาสัมผัสได้จากรายละเอียดที่จะนำเสนอได้เลย

ความน่าสนใจก่อนการเลือกซื้อ สมาร์ทวอทช์ Zepp E

ความน่าสนใจที่อยากให้ได้ซื้อมาใช้งานกันคือตัวเครื่องมีการออกแบบสวย มีทั้งเป็นแบบหน้าปัดกลม และเป็นแบบสี่เหลี่ยม สามารถกันน้ำได้ด้วย ความละเอียดของจอสูง มีความหนาแน่นที่ดี แบตเตอรี่ใช้งานได้เป็นครึ่งเดือน มีสายแบบยาง โลหะ หนัง โดยตัวเรือนมีการทำด้วยสแตนเลสสตีลที่ทนทนมาก มีระบบเซนเซอร์ มีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ชาร์จเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น อุปกรณ์ที่มาในกล่องให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ ตัวเครื่อง สายชาร์จ 

สมาร์ทวอทช์ Zepp Eใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

การใช้งานง่ายที่รองรับทั้งไอโอเอสและแอนดรอยด์ ใครที่ดูแลสุขภาพตนเองต้องซื้อมาใช้งานแล้ว  มีการจับอัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือดได้ การนอน และอีกหลายฟังก์ชัน แต่ว่าจะไม่สามารถลงแอพพลิเคชั่นอื่นได้เพิ่มแล้ว 

สมาร์ทวอทช์ Zepp Eสินค้าที่มีคุณภาพเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการใช้งาน โดยมีประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องสูง ใช้งานได้อย่างครอบคลม น้ำหนักเบา การออกแบบดีไซน์สวยหรูหรา ใส่ทน มีฟังก์ชันลูกเล่นเยอะ ใช้ได้จริง อายุแบตเตอรี่ยาวนานเกิน 15 วัน เชื่อมข้อมูลได้ผ่านแอพพลิเคชั่นได้สะดวก ใครสนใจต้องซื้อมาใช้งานกันแล้ว และ ufabet88888 เว็บเดิมพันกีฬาที่ให้บริการโดยตรง ปลอดภัย 100% เดิมพันง่าย เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย มีเกมเดิมพันหลากหลาย ฝากถอนง่าย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

OnePlus Watch ถูกพูดถึงอย่างมากก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของค่ายOnePlus ทำให้มีข่าวลือต่าง ๆ หลุดออกมากมาย จนกระทังได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา

ภายในงานอีเวนท์ใหญ่ประจำปีOnePlus ซึ่งนอกจากตัวเอกของงานที่เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่างOnePlus 9 และOnePlus 9 Pro แล้วOnePlus Watch ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย

OnePlus Watch มาพร้อมหน้าจอ AMOLED และฟีเจอร์กันน้ำและฝุ่น

OnePlus Watchถือเป็นนาฬิกาอัจฉริยะหรือ “สมาร์ทวอทช์” รุ่นแรกของค่าย OnePlus โดยตัวเรือนผลิตจากวัสดุประเภทสแตนเลสสตีลทรงกลมขนาด 46 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว (326ppi) ครอบทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ มีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบริเวณด้านขวาสองปุ่ม

ในส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานนั้นOnePlus Watch สามารถรองรับกิจกรรมออกกำลังกายและการเล่นกีฬามากกว่า 110 ชนิด รวมถึงรองรับว่ายน้ำด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ 5ATM + IP68 ที่ป้องกันแรงดันน้ำในความลึกระดับ 50 เมตร

และสามารถป้องกันการแทรกซึมของฝุ่นและน้ำได้แบบถาวร พร้อมเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, ระยะเวลาการวิ่ง, ระยะทาง, การเผาผลาญแคลอรี่ และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายตามชนิดกีฬาที่เลือก รวมทั้งตรวจวัดการนอนหลับได้อีกด้วย   นอกจากนี้OnePlus Watchยังรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth และ GPS พร้อม RAM ขนาด 1GB และเมมโมรี่ภายในขนาด 4GB ซึ่งทาง OnePlus อ้างว่าสามารถเก็บเพลงในเมมโมรี่ได้มากถึง 500 เพลงเลยทีเดียว 

ขับเคลื่อนการทำงานโดยระบบปฏิบัติการOnePlus Watch OS สามารถควบคุม TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เหมือนกันได้ เช่น เมื่อเซนเซอร์ของนาฬิกาตรวจจับการนอนหลับของผู้ใช้งาน ตัวนาฬิกาก็จะสั่งปิด TV แบบอัตโนมัติ เป็นต้น  สำหรับเจ้าOnePlus Watchมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีเงิน และ สีดำ สนนราคาในต่างประเทศอยู่ที่ 159 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 5,000 บาท โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 14 เมษายนนี้  นอกจากนี้ทางOnePlus ยังมีแผนจะเปิดตัวรุ่น Cobalt Limited Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่มีสีทองในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่