Archives September 2022

Galaxy S23 Series ว่าที่มือถือเรือธงประจำปี 2023 ของ Samsung มีข่าวลือหลุดออกมาอีกรอบว่า ทางบริษัทมีแผนที่จะใช้ชิปเซ็ต Exynos 2300 ที่พัฒนาเองกับมือถือที่วางขายในต่างประเทศบางประเทศ (อีกแล้ว) ซึ่งจะทำให้Galaxy S23 มีด้วยกัน 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 และ Exynos 2300 เพียงแต่คราวดนี้รุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 จะมีสัดส่วนมากกว่ารุ่นที่ใช้ Exynos 2300 อยู่ประมาณหนึ่ง 

Galaxy S23 Series กำลังพัฒนาชิป Exynos 2300 ขนาด 4 นาโนเมตร ความเร็ว 3.05GHz 

Ice Universe แหล่งข่าวหลุดวงการสมาร์ทโฟนออกมาเปิดเผยว่าGalaxy S23 Series ที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2023 อาจใช้ชิปเซ็ต Exynos 2300 ที่พัฒนาเองกับมือถือที่วางขายในต่างประเทศบางประเทศ ซึ่งจะทำให้Galaxy S23 มีด้วยกัน 2 เวอร์ชั่น คือ เวอร์ชั่นที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 สถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ความเร็ว 3.5GHz และ Exynos 2300 ขนาด 4 นาโนเมตร ความเร็ว 3.05GHz โดยจะแบ่งรุ่นออกไปตามโซนประเทศว่าใครจะได้ชิปตัวไหน

เพียงแต่คราวดนี้รุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 จะมีสัดส่วนมากกว่ารุ่นที่ใช้ Exynos 2300 อยู่ประมาณหนึ่ง แต่สำหรับบ้านเราเชื่อว่าน่าจะมีโอกาสได้ใช้ชิป Exynos 2300 มากกว่า เพราะเพื่อพิจารณาจากมือถือตระกูล Galaxy S รุ่นก่อน ๆ ที่นำเข้ามาขายก็จะเห็นได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้ชิปตระกูล Exynos แทบทั้งสิ้น ยกตัวอย่าง Galayx S21 รุ่นขายไทยจะใช้ชิป Exynos 2100 แต่ต่างประเทศส่วนใหญ่จะใช้ชิป Snapdragon 888 

อย่างไรก็ตาม นักวเคราะห์ชื่อดัง “Ming-Chi Kuo” กลับออกมาแย้งข้อมูลของ Ice Universe โดยระบุว่า Samsung มีแผนจะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 กับGalaxy S23 Series ทุกเครื่องที่วางขายในตลาดทั่วโลก ไม่มีการแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น Snapdragon กับ Exynos อีกต่อไป  ซึ่งตอนนี้คงยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ว่าข่าวไหนจริงกันแน่ คงต้องรอจนกว่าทาง Samsung จะเปิดตัว S23 อย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2023 ถึงจะมีรายละเอียดออกมามากขึ้น และไม่ควรพลาด ufa99k ทุนน้อยก็เล่นได้ เล่นได้ไม่มีขั้นต่ำ เล่นมาก ได้มาก สมัครฟรีเครดิต ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

vivo Y32t 4G มือถือระดับมิดเรนจ์รุ่นล่าสุดของค่าย vivo ที่คราวนี้มาแปลกกว่าทุกครั้ง เนื่องจากมันมีชิปเซ็ตให้เลือกถึง 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ Helio G70 และ Snapdragon 680 แต่ในส่วนของสเปคอื่น ๆ ก็ยังคงเหมือนกันหมด

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีกล้องหลังแบบสองตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 18W 

vivo Y32t 4G มาพร้อมชิปประมวลผล Helio G70 และ Snapdragon 680 

vivo Y32t 4Gมาพร้อมชิปประมวลผลถึง 2 รุ่น จาก 2 ค่าย วางขายควบคู่กันไป ได้แก่ MediaTek Helio G70 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.0GHz และ Qualcomm Snapdragon 680 ขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz โดยรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Helio G70

จะมาพร้อมหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 2.1 ความจุ 128GB รองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.2

ส่วนรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 680 จะใช้หน่วยความจำ RAM LPDDR4X เหมือกนกัน แต่ในส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายในจะอัพเกรดเป็นแบบ UFS 2.2 ความจุ 256GB และรองรับ Bluetooth 5.0 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสเปคอื่น ๆ ก็เรียกได้ว่าเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ บนอัตราส่วน 20:9 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh

รองรับระบบชาร์จไวระดับ 18W ติดตั้งกล้องหลังแบบสอวตัว ความละเอียด 13MP+2MP รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps และมีกล้องหน้าขนาด 8MP

ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการเชื่อมต่อ Dual-band Wi-Fi, พอร์ต microUSB รวมถึงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องด้วย

สำหรับvivo Y32t 4G มีราคาเปิดตัวรุ่นที่ใช้ชิป Helio G70 อยู่ที่ 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,xxx บาท ส่วนรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 680 อยู่ที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 6,xxx บาท

ส่วนหลังจากนี้จะมีการส่งออกมาขายยังต่างประเทศด้วยหรือไม่นั้น คงติดตามข่าวจากทาง vivo กันอีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด uf99999  คาสิโนออนไลน์ ยูฟ่าเบท เล่นง่ายได้เงินจริง กับระบบ ฝากถอนออโต้ ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Blackview bv7100 มือถือสายพันธุ์อึดมาตรฐานความทนทานระดับ MIL-STD-810H สามารถป้องกันน้ำ กันฝุ่น ทนต่อการตกระแทก ติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12

ใช้ขุมพลัง Helio G85 ที่ให้ความเร็วสูงสุด 2.0GHz และมีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความคมชัดสูงสุดระดับ 12MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 13,000mAh ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถสแตนบายได้ยาวนานสูงสุดถึง 1,152 ชั่วโมง แถมยังรองรับระบบชาร์จไว 33W และฟีเจอร์ Reverse Charging ด้วย

Blackview bv7100 ใช้ประมวลผล Helio G85 และ RAM ขนาด 6GB

Blackview bv7100 ผ่านการรับรองมาตรฐาน MIL-STD-810H จากกองทัพสหรัฐฯ สามารถกันน้ำลึกถึง 1.5 เมตร นาน 30 นาที และป้องกันการตกกระแทกได้ที่ความสูงไม่เกิน 1.5 เมตร ติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว

ความละเอียด FHD+ บนอัตราส่วน 20:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 401ppi รีเฟรชเรท 90Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 480nits ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ทับด้วยอินเตอร์เฟส Doke-OS 3.0

ใช้ขุมพลัง Helio G85 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.0GHz เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 6GB ที่มีเทคโนโลยี RAM เสมือน สามารถเพิ่มพื้นที่ได้สูงสุดอีก 4GB เป็น 10 GB

และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 13,000mAh ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถสแตนบายได้ยาวนานสูงสุดถึง 1,152 ชั่วโมง รองรับระบบชาร์จไว 33W แถมยังมีฟีเจอร์ Reverse Charging สำหรับชาร์จแบตให้อุปกรณ์อื่นได้ด้วย 

Blackview bv7100ติดตั้งกล้องหลังแบบ 3 ตัว ความละเอียดระดับ 12MP+8MP+2MP รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างสูงสุด 117 องศา

สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 8MP ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ ก็รองรับทั้ง Bluetooth 5.0, USB Type-C, NFC รวมถึงรับคลื่นวิทยุ FM ได้ด้วย 

สำหรับBlackview bv7100 เปิดตัวในทวีปยุโรปไปแล้วเมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว, สีดำ และสีส้ม ราคาอยู่ที่ 220 ยูโร หรือประมาณ 8,xxx บาท

เบื้องต้นสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศเท่านั้น ยังไม่มีการนำเข้ามาวางขายในบ้านเรา และอย่าพลาด joker168 เว็บสำหรับคอเกมสล็อตออนไลน์ ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัยสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Redmi 6A มือถือระดับกลางที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่ปี 2018 กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์ของอินเดีย หลังหญิงชาวอินเดียรายหนึ่งถูกโทรศัพท์รุ่นดังกล่าวระเบิดใส่ขณะกำลังนอนอยู่บนเตียงจนเสียชีวิตคาที่ ทำให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตออกมาเรียกร้องให้ Xiaomi ที่เป็นบริษัทแม่ของRedmi เร่งสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ รวมถึงแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลดดังกล่าวด้วย 

Redmi 6A ติดตามครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อเริ่มสอบสวนหาสาเหตุแล้ว 

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้บัญชี ทวิตเตอร์ เป็นชายชาวอินเดียรายหนึ่งออกมาทวีตเล่าเหตุการณ์สุดสลดว่า คุณป้าของเขานอนอยู่บนเตียงโดยวางมือถือรุ่นRedmi 6A เอาไว้ข้างหมอน แต่จู่ ๆ มือถือเครื่องดังกล่าวก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ทำให้คุณป้าของเขาเสียชีวิตคาที่

โดยในทวีตดังกล่าวยังได้แนบรูปมือถือที่ตัวเครื่องบิดเบี้ยวและมีร่องรอยไหม้อย่างรุนแรงจนแทบจำสภาพเดิมไม่ได้ รวมถึงภาพร่างไร้วิญญาณของหญิงผู้โชคร้ายนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง ซึ่งเจ้าของทวีตดังกล่าวเรียกร้องให้ Xiaomi ที่เป็นบริษัทแม่ของRedmi เร่งสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ รวมถึงแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุสลดดังกล่าวด้วย 

ทางด้าน Xiaomi ก็ออกมาทวีตภายหลังว่า บริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นและกำลังติดต่อครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายเพื่อสอบสวนหาสาเหตุของการระเบิด แต่ในตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่าการสอบสวนคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว และการระเบิดเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ 

สำหรับRedmi 6A เปิดตัวเมื่อช่วงกลางปี 2018 โดยมันติดตั้งหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 5.45 นิ้ว ความละเอียด HD+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.1 ใช้ชิปเซ็ต MediaTek Helio A22 ขนาด 12 นาโนเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 2.0GHz มีหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 3GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุสูงสุด 32GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh ในส่วนของการถ่ายภาพก็ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 13MP และกล้องหน้าขนาด 5MP โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 110 ยูโร หรือประมาณ 4,xxx บาท และต้องขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตมา ณ ที่นี้ด้วย และอย่าพลาด ufa191 เว็บแทงบอลออนไลน์ใหม่มาแรง เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย สมัครสมาชิกวันนี้ รับโบนัสเงินสดทันที

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Mate50 Pro มือถือเรือธงจากตระกูล Mate50 Series ของ HUAWEI โดยคราวนี้มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ความละเอียด 2K รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0

ใช้ขุมพลังตัวแรงสุดของวงการอย่าง Snapdragon 8+ Gen1 ที่ให้ความแรงระดับ 3.2GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัดสูงสุด 64MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไว 66W

Mate50 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8+ Gen1 และ RAM ขนาด 8GB

Mate50 Proติดตั้งหน้าจอแบบ OLED ขนาดใหญ่ 6.74 นิ้ว ความละเอียด 2K บนอัตราส่วน 19:5:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลสูงถึง 428ppi รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ครอบด้วยกระจก Huawei Kunlun Glass ที่ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ HarmonyOS 3.0 ใช้ขุมพลังตัวแรงสุดของวงการในขณะนี้อย่าง Snapdragon 8+ Gen1 ขนาด 4 นาโนเมตร

ความเร็วสูงสุดถึง 3.2GHz ทำงานร่วมกับจีพียู Adreno 730 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,700mAh รองรับระบบชาร์จไว 66W และชาร์จไร้สาย 50W

Mate50 Proยังติดตั้งกล้องหลังมาให้ถึง 3 ตัว ความละเอียด 64MP+50MP+13MP พร้อมเทคโนโลยี XMAGE ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอทั้งในแง่ความคมชัด, สีสัน และรายละเอียดต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ

รองรับการถ่ายภาพมุมกว้างสูงสุด 120 องศา สามารถซูมดิจิทัลสูงสุด 200x และรองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด 4K ที่ 60fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 13MP ที่ติดตั้งอยู่บนแถบรอยบากตรงกลางด้านบนหน้าจอ

นอกจากนี้Mate50 Pro ยังมาพร้อมฟีเจอร์สุดล้ำอย่างการรับ-ส่งสัญญาณดาวเทียมได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้สัญญาณดาวเทียมส่งข้อความไปหามือถือเครื่องอื่นได้ แม้พื้นที่รอบ ๆ จะไม่มีสัญญาณมือถือเลยก็ตาม ซึ่งจะมีประโยชน์มากในกรณีฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือด่วนแต่ไม่มีสัญญาณ

สำหรับMate50 Pro เปิดตัวในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย โดยมีราคารุ่นเริ่มต้น (8GB/256GB) อยู่ที่ 6,799 หยวน หรือประมาณ 35,xxx บาท

ส่วนจะมีการส่งออกไปทำตลาดในประเทศไหนบ้าง และจะเข้ามาวางขายในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามข่าวจาก HUAWEI กันอีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด sa gaming 1688 คาสิโนออนไลน์ อันดับ 1 เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

OPPO A57e มือถือมิดเรนจ์รุ่นใหม่ที่มาพร้อมจุดเด่นเรื่องราคาประหยัด แต่สเปคจัดเต็มชนิดถอดแบบรุ่นพี่อย่าง A57 มาแทบทั้งดุ้น เปลี่ยนแปลงแค่บางส่วนเท่านั้น โดยมาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.56 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ รีเฟรชเรท 60Hz

ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่เปิดเครื่อง ใช้ขุมพลัง Helio G35 ที่ให้ความเร็วสูงสุด 2.3GHz และมีกล้องหลังแบบเลนส์คู่ ความคมชัดสูงสุด 13MP พ่วงระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพ พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W

OPPO A57e ใช้ขุมพลัง Helio G35 และ RAM ขนาด 4GB

หลังจากเปิดตัวรุ่นพี่อย่าง A57 ไปเมื่อช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ล่าสุดOPPO A57e ที่เป็นรุ่นปรับปรุงก็ถูกส่งออกสู่ตลาดตามมาบ้างแล้ว โดยมันมาพร้อมจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความคมชัด HD+

มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 269ppi รีเฟรชเรท 60Hz ดันความสว่างได้สูงสุดถึง 600nits ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ทับด้วยอินเตอร์เฟส ColorOS 12.1 ใช้ขุมพลัง Helio G35 ขนาด 12 นาโนเมตร

ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 2.3GHz ทำงานร่วมกับจีพียู PowerVR GE8320 ที่รองรับการใช้งานทั่วไปได้แบบสบาย ๆ เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ประสิทธิภาพสูงแบบ LPDDR4x ขนาด 4GB ที่มีเทคโนโลยี RAM เสมือน สามารถเพิ่มพื้นที่ชั่วคราวได้สูงสุดอีก 4GB เป็น 8GB และมีหน่วยความจำภายในความจุ 64GB สามารถเพิ่มไมโครเอสดี การ์ด ได้สูงสุด 1TB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W ที่ทางOPPO เคลมว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 50% ภายในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

OPPO A57eยังติดตั้งกล้องหลังสองตัว ความคมชัด 13MP+2MP พร้อมระบบ AI อัจฉริยะช่วยประมวลผลภาพ รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 8MP ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ นอกจากนี้ตัวมือถือยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB Type-C 2.0 อีกด้วย

สำหรับOPPO A57e เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วที่ประเทศอินเดีย โดยมีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีฟ้า และสีดำ สนนราคาอยู่ที่ 13,999 รูปี หรือประมาณ 6,xxx บาท ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางขายในเมืองไทยด้วยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามข่าวจากทางOPPO อีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด itp slot อันดับ 1 ของประเทศ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

แผ่นรองเมาส์ มีความเด่นในเรื่องของการเพิ่มเติมเรื่องของสีสันให้ดูน่าใช้งานมากขึ้นกว่าเดิมอย่างนั้นเอง และยังมีความพิเศษในเรื่องของการเพิ่มวัสดุแบบพิเศษที่จะช่วยให้สามารถรองรับน้ำหนักแขนได้ดีที่สุด พร้อมกับยังช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่มีการปวดเมื่อยในระหว่างที่ทำงานแต่อย่างใดอีกด้วย ดังนั้นแผ่นรองตัวเมาส์ที่น่าใช้งานก็มีดังนี้

แผ่นรองเมาส์ มีข้อดีอย่างไรบ้าง

แผ่นที่รองเมาส์ มีส่วนช่วยให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุดพร้อมกับยังช่วยลดอาการเกร็งในการทำงานได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ พร้อมกับยังช่วยให้เราสามารถทำงานเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างฉับไวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการออกแบบในเรื่องของสีสันที่มีความโดดเด่นที่ทำให้รู้สึกอยากทำงานที่มากขึ้นอีกด้วย

แผ่นรองเมาส์ มีรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้งานบ้าง

ในปัจจุบันมีการออกแบบรุ่นใหม่ ๆ อย่างมากมายนับไม่ถ้วนเพื่อให้มีตัวเลือกต่อการใช้งานให้มีความหลากหลายนั้นเอง พร้อมกับยังมีความเด่นในเรื่องของการเพิ่มเติมสีสันให้ดูน่าสนใจมากที่สุดอีกด้วย ดังนั้นเมาส์ที่น่าใช้งานก็มีดังนี้ 

Logitech G440 849 บาท มาพร้อมกับความเด่นในเรื่องของรูปทรงที่มีความสวยงามและมีความเด่นแบบไม่เหมือนใคร พร้อมกับยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยต่อการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย 

Razer Goliathus Chroma – Black 1,250 บาท มาพร้อมกับความเด่นในเรื่องของการเพิ่มปุ่มเล็ก ๆ เข้ามาร่วมด้วยเพื่อให้สามารถใช้งานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

Xiaomi  Xianger Cork 119 บาท มาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงมากนักที่จะช่วยให้เราประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายได้ในระดับหนึ่งนั้นเอง อีกทั้งยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพในการบดอาการปวดเมื่อยได้ดีที่สุดที่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นอีกด้วย 

Zowie  G-SR e-Sports Gaming Mouse Pad 1,390 บาท มีส่วนช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นมากที่สุดพร้อมกับยังมีความเด่นในเรื่องของการรองรับรูปมือได้อย่างดีมีประสิทธิภาพที่จะช่วยให้สามารถคลิกเมาส์ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

Bewell Ergonomic Mouse Pad 390 บาท มีส่วนช่วยในการลดอาการออฟฟิศซินโดรมได้อย่างดีที่สุดเลยก็ว่าได้ แถมยังมีความสวยงามที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพอีกด้วย 

และอย่าพลาด itp slot สล็อตออนไลน์ สล็อตไอทีพี อันดับ 1 เล่นง่าย รวยไว ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

 ในยุคสมัยนี้ใครหลายคนอาจคิดว่าทีวีไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกต่อไป เพราะเราทุกคนล้วนมีโทรศัพท์มือถือที่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตได้ แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้ทีวีได้พัฒนามาเป็น สมาร์ททีวี ที่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตหรือดูหนังและซีรี่ส์ต่างๆที่ตามใจชอบเพื่อตอบโจทย์สาวกคอหนังต่างๆ ที่สำคัญสมาร์ททีวียังมาพร้อมขนาดจอที่ใหญ่ที่ทำให้ดูเพลินสบายตาที่แทบจะเหมือนการไปดูหนังในโรงเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าในยุคสมัยนี้การพัฒนาต่างๆเพื่อบรรลุความสะดวกสบายของคนส่วนใหญ่ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะฉะนั้นใครที่เบื่อการดูหนังจอเล็กในมือถือหรือแท็บเลตและกำลังมองหาสมาร์ททีวีดีๆสักเครื่อง วันนี้ทางเราจึงขอมาแนะนำ 2 ยี่ห้อสมาร์ททีวีที่จะมาช่วยตอบโจทย์ให้ชีวิตการดูหนังหรือละครของคุณสะดวกสบายและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นค่ะ

2 ยี่ห้อ สมาร์ททีวี สุดปังที่จะสานฝันการดูหนังให้ฟินยิ่งขึ้น

          การดูหนังหรือละครของสาวก NETFLIX ถือเป็นอีกหนึ่งการพักผ่อนที่ช่วยให้วันธรรมดาของคุณพิเศษมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นเราไปดูยี่ห้อสมาร์ททีวีที่ควรมีติดบ้านกันค่ะ

1. PANASONIC UHD LED รุ่น TH-55HX720T ราคา 21,500 บาท

สมาร์ททีวีรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 55 นิ้ว 4K Color engine ที่มีระบบปรับแสงของตัวภาพให้สมจริงและสบายตามากยิ่งขึ้น เพิ่มความคมชัดแต่ยังคงความละมุน ดีไซน์ทันสมัยขอบบางเรียบหรู ให้ภาพที่ธรรมชาติรู้สึกสมจริงไม่หลอกตา แถมยังมาพร้อมกับฟังก์ชันต่างๆที่น่าลองใช้ เรียกได้ว่าสมราคาเลยจริงๆค่ะ

2. LG UHD 4K Smart TV รุ่น 43UP7750 ราคา 16,000 บาท

สมาร์ททีวีจากอีกหนึ่งยี่ห้อดังที่มาพร้อมกับหน้าจอ 43 นิ้ว มีระบบอัจฉริยะที่สามารถสั่งการด้วยเสียงได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ ที่สำคัญยังมาพร้อมกับหน้าจอคมชัดระดับ 4K ที่ช่วยให้การดูหนังเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังมีรีโมทแบบพิเศษที่เรียกว่า Magic remote ที่ช่วยให้ใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่ใครที่ชอบการดูหนัคนเดียวแต่ยังอยากได้อรรถรสในการดูทีวี และไม่ควรพลาด ufa slot 98 บริการเกมสล็อตอันดับ 1 ในไทย เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ฝากถอนรวดเร็ว 

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

สมาร์ทโฟน Moto X30 Pro ในรุ่นนี้ที่พร้อมแล้วมาเพื่อให้ทุกท่านได้ใช้งานกัน ในการเปิดตัวมาไม่นานนี้ ที่นับว่าเป็นรุ่นแรกของโลกเลยทีเดียว ที่มีกล้อง 200 เมกะพิกเซล ที่ถือว่าไม่มีรุ่นไหนทำมาก่อนเลยทีเดียว นับว่าเป็นการพัฒนามาเพื่อตอบสนองความต้องการในยุคปัจจุบันนี้ ที่จะทำให้ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณตอบโจทย์ได้ ในราคาหลักหมื่นเท่านั้น ยิ่งในปัจจุบันนี้ค่ายๆต่างๆได้มีการแข่งขันกันผลิตสมาร์ทโฟนที่เยอะมากขึ้น เนื่องจากเข้ามาในยุคเทคโนโลยีแล้ว มาแปลกที่จะพัฒนา ทำให้ทางค่ายนี้อัปเกรดมาให้ล้ำกว่าเดิม จนต้องสะกดทุกสายตามให้ตามมาใช้งานกันเมื่อได้วางจำหน่ายกันแล้ว ถ้าหากว่าสนใจมาติดตามรีวิวกันได้เลย 

ความน่าสนใจใน สมาร์ทโฟน Moto X30 Pro

ในรุ่นนี้ที่เรียกได้ว่าทางค่าย motorola  ที่ได้มีการผลิตรุ่นใหม่นี้มา เพื่อที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคุณเอง อย่างที่กล่าวไป โดดเด่นมากจะเป็นเรื่องของกล้องหลังความละเอียดสูงมาก โดยหน้าจอมีขนาดอยู่ที่ 6.7 นิ้ว ทำให้สะดวกต่อการพกพาสุดๆ ไม่ว่าจะไปในสถานที่ใดก็ตาม จอในการแสดงผลดีมาก มีรีเฟรชเรทที่สูงมากถึง 144 เฮิรตซ์ สามารถสัมผัสหน้าจอได้อย่างลื่นไหล เนื่องจากว่าชิปแรงขั้นสุด เครื่องไม่ค้างได้ง่าย มีระบบการชาร์จไวมากถึง 125 วัตต์ให้พร้อม การตอบสนองที่ไว ทำให้ผู้ที่เล่นเกมรู้สึกสนุกตาม และรวดเร็วด้วย การออกแบบจะมีความโค้งที่มนสวยงาม แล้วมีรูอยู่แถบบนของจอภาพ เป็นกล้องเซลฟี่

สมาร์ทโฟน Moto X30 Pro มีความคุ้มค่ามากแค่ไหน?

ในความโดดเด่นที่ไม่พูดซ้ำคงไม่ได้ มีกล้องที่มาในความละเอียดสูงมาก อยู่ที่ 200 เมกะพิกเซล มีทั้งกล้องหลัก กล้องอัลตร้าไวด์ กล้องเทเลโฟโต้ สเปคแรงจนยั้งใจไม่อยู่ เล่นเกมที่มีกราฟิกโหดได้ง่าย รอบรับการชาร์จไวถึง 125 วัตต์ แบตเตอรี่เต็ม 100% ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที และยังมีฟังก์ชั่นอีกมากให้ได้ใช้งาน 

สมาร์ทโฟน Moto X30 Pro ในรุ่นนี้ราคาเพียงแค่ 19,300 บาทเท่านั้น คุ้มค่าโดนใจ แต่ยังไม่ได้วางจำหน่ายในประเทศไทย ต้องติดตามกันต่อและอย่าพลาด ufa slot 98 สล็อตยูฟ่า เกมส์สล็อตสุดสนุก หนทางสู่ความรวย สมัครฟรีเครดิต ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ใกล้เข้าสู่ช่วงสอบน้องๆ นักเรียนนักศึกษาหลายๆคนก็คงจะยุ่งๆกับการอ่านหนังสือและติวสอบ บางคนถึงกับอ่านข้ามวันข้ามคืนแบบไม่หลับไม่นอนกันเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากมาแนะนำอีกหนึ่งไอเทมตัวช่วยสำหรับการอ่านหนังสือที่จะช่วยให้เราอ่านหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นและอ่านได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นแบบไม่ต้องเสียสายตาด้วย 3 โคมไฟตั้งโต๊ะ สำหรับอ่านหนังสือที่ราคาดีและลูกเล่นเยอะ เหมาะกับนักเรียนนักศึกษาที่งบไม่เยอะแต่อยากได้โคมไฟตั้งโต๊ะดีๆสักอัน ซึ่งจะมีตัวไหนกันบ้างเราไปดูกันได้เลยค่ะ

3 โคมไฟตั้งโต๊ะ สุดปังที่นักเรียนนักศึกษาต้องมี!!

1. IKEA: TERTIAL

โคมไฟตั้งโต๊ะตัวแรกที่เราอยากมาแนะนำจะเป็นโคมไฟจากอีเกียร์ที่มาพร้อมแสงสว่างอย่างเหมาะสมสำหรับการอ่านหนังสือ วัสดุทำจากเหล็กชั้นเยี่ยมแข็งแรงทนทานพร้อมดีไซน์สุดคลาสสิกผสมสานความเป็นมินิมอล ตัวโคมไฟสามารถปรับได้หลายระดับ สะดวกสบายมากๆ 

ราคา 349 บาท หาซื้อได้ตามอีเกียร์ ช้อปปี้ ลาซาด้า

2. ธิงค์คิน LP-9143D

ตัวต่อมาจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะจาก B2S ที่มาพร้อมระบบเปิดปิดแบบสัมผัส ใช้งานง่ายสะดวกสบายมากๆ ตัวนี้สามารถปรับความสว่างได้ถึง 3 ระดับและยังปรับองศาของแสงไฟได้ 180 องศา นอกจากนี้ยังเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะที่ใช้วัสดุเกรดพรีเมียม มีความแข็งแรงทนทานและที่สำคัญดีไซน์สวยเหมาะกับการแต่งห้องมากๆ 

ราคา 229 บาท หาซื้อได้ที่ B2S ลาซาด้า หรือ ช้อปปี้

3. Softkiss

โคมไฟตั้งโต๊ะตัวสุดท้ายนี้จะเป็นโคมไฟสำหรับใช้อ่านหนังสือเพื่อเป็นการถนอนเกี่ยวกับสายตารุ่นสัมผัสที่มาพร้อมไฟ LED ปรับความสว่างได้ 3 ระดับ เหมาะกับการอ่านหนังสือหรือใช้เปิดเพิ่มความสว่างในขณะทำงานบนโต๊ะ ตัวนี้หมุนงอได้ 360 องศา ใช้งานง่าย สามารถพับเก็บได้ นอกจากนี้ยังเป็นตัวที่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ น้ำหนักเบาและกะทัดรัดไม่กินที่ ดีไซน์สวยตกแต่งห้องได้อย่างสบายตา

ราคา 168 บาท หาซื้อได้ในช้อปปี้ หรือ ลาซาด้า

และไม่ควรพลาด ufasociety auto คาสิโนออนไลน์ UFABET ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่