Archives May 2022

OnePlus Nord 2T ว่าที่สมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่จากตระกูล Nord Series ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ โดยคาดกันว่ามันจะมาพร้อมสเปกจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลังรุ่นใหม่อย่าง Dimensity 1300 ของ MediaTek และชุดกล้องหลัง 3 ตัว ใช้เซนเซอร์รับภาพของ Sony IMX Series ความละเอียดสูงสุดถึง 50MP  พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 80W

OnePlus Nord 2T ใช้ชิป Dimensity 1300 และ RAM แบบ LPDDR4X

รายงานล่าสุดจากเว็บไซต์ Gizmochina แหล่งข่าวไอทีชื่อดังระบุว่าOnePlus Nord 2T จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความคมชัดระดับ FHD+ รันบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบด้วย OxygenOS 12  ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง MediaTek Dimensity 1300 ที่เป็นชิปเซ็ตขนาด 6 นาโนเมตร ซึ่งเป็นรุ่นภาคต่อจาก Dimensity 1200 ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 80W ที่ว่ากันว่าสามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ได้ภายในเวลาไม่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

ในส่วนของการถ่ายภาพOnePlus Nord 2T มาพร้อมชุดกล้องหลัง 3 ตัว ที่จัดเรียงอยู่ในโมดูลดีไซน์ใหม่ ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์รับภาพประสิทธิภาพสูงอย่าง Sony IMX766 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX355 ปิดท้ายด้วยกล้อง Monochrome ความละเอียด 2MP  ส่วนกล้องหน้าคาดว่าจะมีความละเอียด 32MP ใช้เซนเซอร์รับภาพ Sony IMX709 ติดตั้งอยู่บริเวณมุมซ้ายบนหน้าจอและใช้ดีไซน์แบบเจาะรู  นอกจากนี้ตัวมือถือยังติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอพร้อมระบบเสียง Dolby แต่คาดว่าจะไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร 

อย่างไรก็ตาม เจ้าOnePlus Nord 2T ยังไม่มีกำหนดการเปิดตัว รวมถึงราคาวางจำหน่ายที่แน่ชัด เพราะมันมีข่าวมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วว่าจะเปิดตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายจนถึงตอนนี้ก็ยังไร้วี่แววการเปิดตัว ซึ่งคงได้แต่ต้องติดตามกันต่อไปเท่านั้น และขอแนะนำ itp slot เกมสล็อตอันดับ 1 ของประเทศ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ฝากถอนสะดวก ให้บริการทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

realme 9 4G ว่าที่สมาร์ทโฟนระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่ที่ชูจุดเด่นด้านการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงสุดถึง 108MP ใช้เซนเซอร์รับภาพรุ่นล่าสุดของ Samsung อย่าง ISOCELL HM6 พร้อมเทคโนโลยี NonaPixel Plus ที่รวมพิกเซลแบบ 3×3 ช่วยให้การรับแสงดีขึ้นถึง 123%

เมื่อเทียบกับเซนเซอร์กล้องที่ใช้กับ realme 8 Pro และที่สำคัญคือใช้ชิปประมวลผลจากซีรีส์เกมมิ่งชอง MediaTek อย่าง Helio G96 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.05GHz  พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W 

realme 9 4G ใช้ชิปเซ็ต Helio G96 และ RAM ขนาด 8GB

realme 9 4Gมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD รองรับรีเฟรชเรท 120Hz  ขับเคลื่อนการทำงานด้วยชิปประมวลผลจากซีรีส์เกมมิ่งของ MediaTek อย่าง Helio G96 ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.05GHz ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Mali-G57 MC2 ผสานการทำงานกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W 

สำหรับจุดเด่นของrealme 9 4G ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ กล้องหลังที่มีความละเอียดสูงถึง 108MP ใช้เซนเซอร์รับภาพรุ่นล่าสุดของ Samsung อย่าง ISOCELL HM6 พร้อมเทคโนโลยี NonaPixel Plus

ที่รวมพิกเซลแบบ 3×3 ช่วยให้การรับแสงดีขึ้นถึง 123% เมื่อเทียบกับตัว ISOCELL HM2 ที่อยู่ในรุ่น realme 8 Pro เสริมด้วยกล้องอีก 2 ตัว ความละเอียด 2MP+2MP ส่วนกล้องหน้าคาดว่าจะให้มาที่ความละเอียด 16MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูด้านบนหน้าจอ

ทั้งนี้คาดกันว่าrealme 9 4G จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอินเดียเร็ว ๆ นี้ ส่วนราคาเปิดตัวคาดว่าจะเริ่มต้นที่ราว 14,999 รูปี หรือประมาณ 6,5xx บาท (ไม่รวมภาษี) และคาดว่าจะมีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีทอง (Sunburst Gold), สีดำ (Meteor Black) และสีขาว (Stargaze White) ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่ามือถือรุ่นนี้จะมีฟีเจอร์อะไรใหม่ ๆ บ้าง

โดยเฉพาะฟีเจอร์กล้องที่คาดว่าน่าจะให้มาแบบจัดเต็มสมศักดิ์ศรีความละเอียดระดับ 108MP แน่นอน และห้ามพลาด slot333 เว็บพนันคาสิโนออนไลน์อันดับ 1 ที่มีผู้เล่นที่เยอะที่สุดในตอนนี้ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เกมพกพา AYANEO Air มาแล้วกับเทคโนโลยีที่พร้อมนำเสนอให้กับทุกท่านได้ใช้งานกัน ยิ่งใครที่เป็นสายเล่นเกมจะต้องถูกใจสิ่งนี้ เครื่องเล่นเกมที่สามารถพกพาไปได้สะดวกอยู่ทุกที่ ในระบบวินโดว์ ที่ถือว่ามีกราฟฟิกที่อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ในค่ายนี้ได้มีการพัฒนามาอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ตอบสนองต่อความต้องการ เน้นเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีความก้าวหน้า ล้ำสมัย ที่พร้อมจะมารีวิวให้กับทุกท่านที่ได้ติดตามกันแล้ว 

ความน่าสนใจใน เกมพกพา AYANEO Air

ในเครื่องเล่นเกมนี้ ที่มีกราฟิกที่คมชัดมาก ขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย พกพาไปนอกสถานที่ได้ง่าย น้ำหนักไม่เยอะจนเกินไป โดยทางค่ายนี้ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ในความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดจะเป็นในด้านความแรง กราฟิกที่โหดเกินคาด ขนาดเพียงแค่ 5.5 นิ้ว ที่ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ในความละเอียดที่สูง สิ่งที่ให้ความสนนกันมาก จะเป็นการเล่นเกมได้ราบลื่น มีการปรับ Low ได้ ในความละเอียดที่พอดี มีชิปที่ดี แต่ยังไม่มีการประกาศมาเป็นทางการว่ารุ่นไหนกันแน่ แรมเยอะจุใจ ใช้งานได้ต่อเนื่องสบายๆ ที่สำคัญเลยมีปุ่มไม่เยอะมาก ทำให้เข้าใจในการเล่นได้ง่าย ไม่งง ยิ่งเป็นมือใหม่เล่นจะโดนใจยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยเป็นระบบกันสั่นให้พร้อม ทำให้ไม่สร้างความรำคาญขณะที่ได้เล่น มีช่องให้เสียบหูฟัง พอร์ตการเชื่อมต่อครบ สามารถที่จะเสียบไมโครเอสดีได้ แล้วยังมีไฟอาร์อีจีแสดงออกมาให้ได้เห็นกันสวยงาม 

เกมพกพา AYANEO Air วางจำหน่ายแล้วในประเทศจีน

เปิดพรีออร์เดอในประเทศจีน มาในราคาเพียงแค่ 22,500 บาทเท่านั้น ต้องมาลุ้นกันแล้วว่าจะมาวางขายสินค้าในประเทศไทยหรือไม่ 

เกมพกพา AYANEO Air ในรุ่นนี้ที่พร้อมแล้วให้ทุกท่านได้ใช้งานกัน ในราคาสุดคุ้มค่า คุณภาพเกินราคา ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวๆ แล้วยังเป็นรุ่นที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน เครื่องมีคุณภาพ ได้รับมาตรฐาน สายเกมต้องไม่พลาดเครื่องนี้กันแล้ว และอย่าพลาด Uf99999 เว็บพนันบอลออนไลน์ ดีที่สุด เดิมพันง่าย มั่นคง ฝากถอน ออโต้ รวดเร็ว 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

แท่นชาร์จไร้สาย เป็นสิ่งที่ต้องมีการพูดถึงกันอยู่แล้ว เทคโนโลยีที่เป็นส่วนช่วยในการอำนวยความสะดวกในชีวิต ในการที่จะชาร์จแบตเตอรี่ ในปัจจุบันนี้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นในแบรนด์ต่างๆ มีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ทำให้วันนี้จะมาแนะนำในแบรนด์ยอดฮิตออกใหม่มาแรง สามารถติดตามรีวิวกันได้เลย 

แนะนำ แท่นชาร์จไร้สาย ยอดนิยม

อันดับที่ 1 ZMI Wireless Charger 

รุ่นนี้ที่ได้มีการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้สูงมาก วัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความแข็งแรง ทนทาน มีโครงสร้างเป็นโลหะ ช่วยรักษาความปลอดภัยในการที่จะป้องกันกระแสไฟฟ้าส่วนเกินได้ แล้วยังมีผู้ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบมาช่วยคิด ทำให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น 

อันดับที่ 2 HOCO CW26 Powerful 15W

รุ่นนี้ที่มีการจ่ายไฟได้เยอะ สูงสุดอยู่ที่ 15 วัตต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบไอโอเอส และแอนดรอยด์ก็ตาม มีน้ำหนักที่เบา ในส่วนของวัสดุจะเป็นการออกแบบพลาสติก ซิลิโคน และยังมีการเชื่อมต่อกับอะแดปเตอร์ได้ง่าย นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ จนต้องไม่พลาดกันเลย 

อันดับที่ 3 Belkin WIA002DQBK Wireless Charger 

ในรุ่นนี้ที่มีการออกแบบพกพาได้สะดวก มีขนาดไม่ใหญ่ จ่ายไฟได้สูงถึง 15 วัตต์ ไม่ว่าสมาร์ทโฟนของคุณจะเป็นในรูปแบบไอโอเอสหรือจะเป็นแบบแอนดรอยด์สามารถใช้งานได้สบายๆ ที่สำคัญจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องจะมีติดไฟแอลอีดีไว้ เพื่อที่จะรู้ว่าสถานะไฟมีเท่าไหร่กันแน่ 

อันดับที่ 4 TECHPRO Wireless Charger 15W

รุ่นนี้ที่มีการจ่ายไฟได้สูง ตั้งแต่ 5 วัตต์ไปจนถึง 15 วัตต์กันเลย มีขนาดไม่ใหญ่ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทุกเครื่อง มีไฟที่แสดงการบอกสถานะให้ทราบว่ามีเท่าไหร่กันแล้ว 

แท่นชาร์จไร้สายสะดวกสบาย ราคาสุดคุ้ม

ในความสะดวกนี้ ที่ถือว่าคุ้มค่า เลือกให้ถูกใจตามความต้องการ มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน จากที่ได้แนะนำไป ได้มาตรฐาน การจ่ายไฟดี แถมยังมีการป้องกันความร้อนเกินได้ด้วย 
แท่นชาร์จไร้สายเป็นสิ่งที่มีมาตรฐาน มีการอำนวยความสะดวกได้ พกพาไปในสถานที่ต่างๆได้พร้อม จนต้องไม่พลาดที่แนะนำกันไปล้วนแล้วยอดฮิตแห่งปี 2022 และอย่าพลาด Slotbkk เกมส์เดิมพัน สล็อตออนไลน์ อันดับ 1 เพียงสมัคร สมาชิก รับโบนัสทันที ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

สมาร์ทวอทช์ Wena 3 Ultraman Edition  รุ่นนี้ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่น่าสนใจ อัดแน่นไปด้วยคุณภาพเกินคาด ที่พร้อมให้ทุกท่านได้รีบจับจองเป็นเจ้าของกันแล้ว มาในสไตล์ที่เน้นความหรูหรา ความดูดี เป็นความทันสมัยที่มาจากประเทศญี่ปุ่น นับว่าเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นพิเศษมาก ที่มาเอาใจทุกท่านกันเลย วันที่จะวางจำหน่ายคือวันที่ 7 พฤศจิกายน 2022 นี้ อีกไม่กี่เดือนเท่านั้น ถ้าหากว่าใครที่ต้องการรุ่นลิมิเต็ด มีจำนวนที่จำกัดต้องติดตามกัน 

ความโดดเด่นน่าสนใจ สมาร์ทวอทช์ Wena 3 Ultraman Edition

ในความน่าสนใจ ที่มีการดีไซน์ออกมาได้หรูหรา มีความเรียบหรูเหมาะกับทุกๆท่าน ที่ได้ออกแบบมาเป็นกรอบโลหะมีความเงา เป็นสีเทาเงิน ในส่วนของหน้าปัดจะมีเข็มมาให้ 3 เข็ม มีทั้งที่เป็นเข็มสั้น เข็มยาว และยังมีเข็มวินาทีด้วย ที่ถือว่าเป็นธีมอุลตร้าแมน รวมไปถึงเป็นกองกำลังที่พร้อมจะมีการป้องกันกับชิน อุลตร้าแมนให้ได้ เมื่อมาในส่วนของด้านหลังเครื่อง จะมีโลโกชัดเจน มีหมายเลขซีเรียลให้พร้อม ในรุ่นอื่นไม่มี เป็นการออกแบบได้เข้ากับสายมาก เป็นสายยางที่เน้นคุณภาพ ไม่มีรอยต่อให้เห็น ทำให้ทนทานต่อการใช้งาน โดยหน้าปัดจะเป็นเม็ดมะยม นับว่ารุ่นนี้มีกลไกในการใช้งานที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นมาก เน้นคุณสมบัติในการใช้งานหลายประการตามความต้องการ 

สมาร์ทวอทช์Wena 3 Ultraman Edition มีจำนวนจำกัด ต้องไม่พลาด

รุ่นนี้ที่ได้ออกมาวางจำหน่ายเพียงแค่ 1,000 เรือนเท่านั้นทั่วโลก ที่สามารถจองได้แล้วผ่านทางเว็บไซต์ญี่ปุ่น ในราคาประมาณ 18,000 บาทเท่านั้น ถือว่าลิมิเต็ดมาก ยังไม่พอความไฮเทคของรุ่นนี้ ที่มีการเชื่อมต่อกับระบบแอนดรอยด์ได้ และไอโอเอสได้ วัดชีพจร มีการตรวจจับความเครียด คุณภาพในการนอน นับได้ว่าเดินไปกี่ก้าวแล้ว กันน้ำได้ มีการแจ้งเตือนให้ไม่ว่าจะเป็นข้อความ นาฬิกา และอีกมากมาย

สมาร์ทวอทช์Wena 3 Ultraman Edition รุ่นนี้ที่พร้อมแล้วจะมาตอบสนองต่อความต้องการของทุกท่าน ในราคาเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความไฮเทค ทันสมัย อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีเกินคาด และอย่าพลาด สล็อตยูฟ่า777 สล็อตคุณภาพ เดิมพันง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

iQOO U5x สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ของแบรนด์ iQOO ที่เป็นแบรนด์ย่อยของ Vivo และเป็นรุ่นลดสเปกจากรุ่นพี่อย่าง iQOO U5 ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว โดยคราวนี้มันมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลัง Snapdragon 680 ของ Qualcomm และมีชุดกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 10W

iQOO U5x มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 680 และ RAM 4GB/8GB

หลังจากที่ได้เปิดตัว iQOO U5 ไปตั้งช่วงเดือนธันวาคม 2021 ที่ผ่านมา ล่าสุดทาง iQOO ก็ได้เปิดตัวรุ่นลดสเปกอย่าง iQOO U5x ซึ่งตัดคุณสมบัติการรองรับ 5G ออกไป แต่สเปกส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับเดียวกับรุ่นก่อนหน้า แถมยังมีราคาถูกลง โดยมันมาพร้อมหน้าจอแสดงผล LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ รองรับรีเฟรชเรท 60Hz  รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11

ครอบด้วยยูสเซอร์อินเทอร์เฟส OriginOS Ocean  ใช้ชิปประมวลผลรุ่นยอดฮิตของมือถือระดับมิดเรนจ์อย่าง Qualcomm Snapdragon 680 ที่เป็นชิปขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 2.4GHz จับคู่กับหน่วยประมวลผลกราฟฟิก Adreno 610 ที่สามารถรันเกมได้ลื่นไหลพอสมควร ใช้หน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB/8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่ทาง iQOO เคลมว่า สามารถเปิดโหมดสแตนบายได้ยางนานสุด 25 วัน และสามารถคุยโทรศัพท์ต่อเนื่องนานสุดถึง 10 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จเต็ม 100% เพียงครั้งเดียว และยังรองรับระบบชาร์จไว 10W ด้วย 

ในส่วนของคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพiQOO U5x ก็มาพร้อมชุดกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียด 13MP+2MP พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8MP ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำ และยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่อง รวมถึงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรด้วย  ทั้งนี้ ทาง Vivo ได้วางจำหน่ายเจ้าiQOO U5x อย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยมีราคาตามขนาด RAM ได้แก่ รุ่น 4GB/128GB ราคา 899 หยวน หรือประมาณ 4,700 บาท ส่วนรุ่น 8GB/128GB จะอยู่ที่ 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,800 บาท ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางขายในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามกันต่อไป และอย่าพลาด 123bet เว็บพนันออนไลน์ อันดับ 1 ในเอเชีย มั่นคง เชื่อถือได้ จ่ายจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Motorola Edge+ ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวในต่างประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยสเปกของมือถือรุ่นนี้ก็เรียกได้ว่าแรงระดับเรือธงเลยทีเดียว โดยมันจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผแบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+

รีเฟรชเรทถึง 144Hz  ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen1 และมีชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,800mAh

Motorola Edge+ ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen1 และ RAM 8GB/12GB

Motorola Edge+มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 144Hz รองรับการแสดลผลแบบ HDR10+ และมีอัตราส่วนหน้าจอตัวต่อเครื่องมากถึง 95.8% ครอบด้วยกระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5 ตัวหน้าจอด้านบนใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า

ติดตั้งลำโพงสเตอริโอและระบบเสียง Dolby Atmos ตัวมือถือทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen1 ของ Qualcomm ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร

ความเร็ว 3.0GHz ประกบคู่กับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 8GB/12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 3.1 ที่มีความจุถึง 3 ขนาด ได้แก่ 128GB/256GB/512GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,800 ที่มีเทคโนโลยีชาร์จไว 15W  

ด้ายการถ่ายภาพMotorola Edge+ มาพร้อมชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP+50MP+2MP รองรับการถ่ายภาพ HDR และรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 8K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที

ส่วนกล้องหน้าก็ให้มาที่ความละเอียดถึง 60MP  นอกจากนี้มือถือรุ่นนี้จะรองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G, Bluetooth 5.2 และ Wi-Fi 6E  รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB Type-C 3.1 ด้วย

สำหรับMotorola Edge+ ได้เปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา ไปตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 33,xxx บาท  ส่วนจะมีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่นั้น อาจจะต้องลุ้นหนักสักหน่อย

เพราะบ้านเราเพิ่งนำเจ้าMotorola Edge 30 Pro ที่มีสเปกใกล้เคียงกันเข้ามาวางขายได้ไม่นาน หากนำ Edge+ เข้ามาขายอีกรุ่นก็อาจจะทับไลน์กันได้นั่นเอง และห้ามพลาด ufabet xyz เว็บแทงบอลออนไลน์น้องใหม่ ให้บริการอย่างครบวงจร เว็บตรง เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

MSI Modern AM242P AIO เป็นรุ่นที่ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่า ในราคาที่เบาสบายประเป๋า พีซีรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ในรูปแบบใหม่ ยิ่งใครที่ได้ทำงานในออฟฟิศ บอกเลยว่าจะถูกใจแน่นอน ยิ่งในช่วงนี้จะมีการทำงานในรูปแบบของ Work from Home กันเยอะมาก การที่ได้ซื้อพีซีจะต้องบอกเลยว่าประหยัดเนื้อที่อยู่ไม่ใช่น้อย มีสเปคที่แรง จนต้องไม่พลาดที่จะซื้อมาใช้งานกันให้ได้สักครั้ง 

ความโดดเด่นที่น่าสนใจของ MSI Modern AM242P AIO

ในความโดดเด่นที่เรียกได้ว่า เป็นตัวที่แรง มีแรมเยอะ เครื่องมาในรูปแบบของความเร็วที่สูงมาก มาในระบบปฏิบัติการวินโดว์ 11 โฮม ที่พร้อมจะมาเป็นตัวช่วยสำหรับทุกคนได้ใช้งานสะดวก ใช้ได้ต่อเนื่องยาวๆ เครื่องไม่เกิดปัญหา มีระบบการระบายความร้อนได้สูงในตัวเครื่อง ทำให้ไม่เกิดปัญหาขณะที่ได้ใช้งาน ยิ่งใครที่มีพื้นที่ในบนโต๊ะทำงานน้อย จะต้องโดนใจ สามารถที่จะปรับระดับความสูงและต่ำได้ตามความต้องการ ทำให้สะดวกต่อการมองเห็น มีกล้อง IP ที่จะเป็นระบบการรักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะเป็นการปลดล็อคตัวเครื่องได้สะดวก มีช่องให้ไว้ร้อยสายไฟได้ด้วย สามารถต่อหน้าจอเสริมได้พร้อม ถ้าหากว่าใครอยากเป็นหน้าจอที่เสริมไว้ใช้งานกับโน๊ตบุ๊คทำได้ง่าย 

MSI Modern AM242P AIO ใช้งานได้มีประสิทธิภาพ

ในการใช้งานเมื่อได้ทดสอบแล้ว ไม่มีปัญหาที่เกิดขึ้นกับรุ่นนี้ มีลำโพงที่ใช้งานได้ดี เสียงดัง สามารถใช้ในการประชุมออนไลน์ได้ ขาตัวเครื่องเน้นการออกแบบได้ทนทาน แข็งแรง สามารถเชื่อมพอร์ตได้พร้อม ปรับก้มและเงยได้ง่าย เครื่องไม่ดังขณะที่ระบายความร้อนออก เก็บเสียงได้ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไป การออกแบบตัวเครื่องเน้นความเรียบง่าย ขอบบาง มีทั้งหมด 2 สีให้ได้เลือกคือ ดำและขาว มีโลโก้ที่เด่นชัดออกมาได้สวยงาม 

MSI Modern AM242P AIO รุ่นนี้ที่พร้อมให้ทุกท่านได้ใช้งานแล้ว ในราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 3 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น สุดคุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า รับรองว่าไม่ผิดหวัง ใช้งานได้หลายด้านโดนใจ และห้ามพลาด Sagame168th คาสิโนออนไลน์อันดับ 1 ระบบออโต้ ฝากถอน 30 วิ ดีที่สุดในไทย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

OPPO K10 ว่าที่สมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นใหม่ที่ข่าวลือว่าจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้  ล่าสุด ทางเว็บไซต์ทางการของOPPO ได้ออกมาเปิดเผยสเปกบางส่วนของมือถือรุ่นนี้แล้ว โดยมันจะมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 680 ของ Qualcomm ที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz รองรับหน่วยความจำเสริม (microSD Card) และชุดกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 33W SuperVOOC 

OPPO K10 อาจมาพร้อมหน้าจอ AMOLED Full HD+ รีเฟรชเรท 90Hz 

เว็บไซต์ OPPO Official ของประเทศอินเดีย ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าOPPO K10 มือถือระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่จะมาพร้อมชิปประมวลผลที่รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G อย่าง Qualcomm Snapdragon 680 ที่เป็นชิปเซ็ตขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็งสูงสุดถึง 2.4GHz รองรับถาดใส่ซิมแบบ Triple-Slot และรองรับหน่วยความจำเสริม (miscroSD Card) ที่ไม่ระบุความจุสูงสุด และชุดกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 50MP มีกล้องหน้าความละเอียด 16MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว 33W SuperVOOC 

นอกจากสเปกข้างต้นที่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีข่าวลือออกมาช่วงก่อนหน้านี้ว่าOPPO K10 อาจมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 6.5 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียดอยูที่ระดับ Full HD+ รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และมีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 339ppi หน้าจอด้านบนใช้ดีไซน์แบบเจาะรูสำหรับวางกล้องหน้า รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 ครอบด้วย ColorOS 11.1 และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB  ในส่วนของการเชื่อมต่อ คาดว่าจะรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 802.11, b/g/n 

สำหรับเจ้า เจ้าOPPO K10 จะวางจำหน่ายผ่านทางร้านค้าออนไลน์ยอดนิยมของอินเดียอย่าง Flipkart ส่วนราคาเปิดตัวคาดว่าจะอยู่ที่ 19,990 รูปี หรือประมาณ 8,8xx บาท ส่วนเรื่องการวางจำหน่ายแบบ Global นั้น คงต้องรอติดตามต่อไป แต่คาดว่าทางOPPO คงจะไม่นำมือถือรุ่นนี้ไปขายยังต่างประเทศ เนื่องจากตัวมือถือรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อบนเครือข่าย 5G เฉพาะที่อินเดียเท่านั้น หากมีการนำไปวางจำหน่ายต่างประเทศก็จะรองรับเฉพาะ 4G  และขอแนะนำ สล็อต666

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

OPPO A16k สมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมจุดเด่นดีไซน์ตัวเครื่องบางเฉียบเพียง 7.85 มิลลิเมตร มีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4

ติดตั้งหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ และมีฟีเจอร์ Eye-Care ช่วยปกป้องสายตาจากแสงสีฟ้า ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตรุ่นเล็กแต่ประสิทธิภาพสูงอย่าง Helio G35 ของ MediaTek พร้อมด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4,230mAh ที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันด้วยการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น

OPPO A16k มาพร้อมชิปเซ็ต Helio G35 และ RAM ขนาด 3GB

OPPO A16k ชูจุดเด่นด้านดีไซน์ตัวเครื่อง 3D มีความโค้งมน สอดรับกับฝ่ามือ และมีความบางเฉียบเพียง 7.85 มิลลิเมตร ใช้หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความคมชัดระดับ HD+ รีเฟรชเรท 60Hz

ครอบคลุมขอบเขตสี 71% ของ NTSC บนอัตราส่วน 20:9 และมีฟีเจอร์ Eye-Care ช่วยปกป้องสายตาจากแสงสีฟ้า ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11

ครอบด้วย ColorOS 11.1 ใช้ชิปประมวลผลรุ่นเล็กที่แต่ประสิทธิภาพสูงอย่าง Helio G35 ของ MediaTek ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.3GHz จับคู่กับหน่วยประมวลผลกราฟฟิก PowerVR GE8320

ผสานการทำงานกับหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4x ขนาด 3GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ eMMC 5.1 ความจุ 32GB (รองรับ microSD สูงสุด 1TB) พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,230mAh ที่ทางผู้ผลิตเคลมว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันด้วยการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น

ในส่วนของกล้องOPPO A16k มาพร้อมกล้องตัวหลังแบบเลนส์เดียว ความละเอียด 13MP รูรับแสง f/2.2 พร้อมด้วยระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพ รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD (1080p) ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 5MP รูรับแสง f/2.4 ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำ

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังรองรับคุณสมบัติป้องกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 อีกด้วย สำหรับเจ้าOPPO A16k วางจำหน่ายในบ้านเราแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยมีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีน้ำเงิน สนนราคาอยู่ที่ 4,9xx บาทเท่านั้น หาซื้อได้ที่ร้านOPPO Brand Shop หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และขอแนะนำ สล็อต joker888 เล่นง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย ฝากถอนง่าย ให้บริการทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่