Archives September 2021

การ์ดจอ RX 6600 XT ถูกพ่อค้าขายโก่งราคาในเว็บไซต์เกือบ 40,000 บาท

RX 6600 XT

RX 6600 XT การ์ดจอรุ่นเริ่มต้นสำหรับเล่นเกม Full HD 1080P ของ AMD ที่พัฒนามาเพื่อสู้กับการ์ดจอรุ่นเริ่มต้นของคู่แข่งอย่าง RTX 3060 ของ NVIDIA ได้ถูกพ่อค้าหัวใสกว้านซื้อแล้วนำไปขายแบบเก็งกำไรผ่านเว็บไซต์ขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ชื่อดัง

โดยมีราคาสูงสุดถึงเกือบ 40,000 บาท ซึ่งแพงกว่าราคาขายปกติที่ตั้งไว้กว่า 3 เท่าตัวเลยทีเดียว แถมตอนที่วางขายบนเว็บไซต์ดังกล่าว ก็ยังไม่ถึงวันเวลาที่ต้องมีการจำหน่ายออกอย่างเป็นทางการอีกด้วย 

RX 6600 XT วางขายบนเว็บ Newegg ราคา 1,099 เหรียญสหรัฐฯ 

 RX 6600 XT

บนเว็บไซต์ Newegg ที่เป็นเว็บขายพวกอุปกรณ์ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ได้มีพ่อค้าบางคนนำการ์ดจอRX 6600 XTจาก MSI ที่ประกอบด้วยพัดลมสองตัวมาวางขายแบบโก่งราคาถึง 1,099 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 37,000 บาท

ซึ่งแพงกว่าราคา MSRP ที่ตั้งไว้เพียง 379 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 12,600 บาท เกือบ 3 เท่าตัวเลยทีเดียว พูดง่าย ๆ ว่า แพงพอ ๆ กับการ์ดจอตัวแรงของค่ายคู่แข่งอย่าง RTX 3060 ของ NVIDIA ทั้ง ๆ ที่ประสิทธิภาพของมันเทียบเท่ากับ RTX 3060 ที่เป็นการ์ดจอเล่นเกม Full HD รุ่นเริ่มต้นเท่านั้น 

 RX 6600 XT

ทั้งนี้ ดูเหมือนว่าการ์ดจอRX 6600 XTที่ถูกนำมาโก่งราคาขายบนเว็บไซต์นี้ จะเป็นสินค้าจากประเทศจีน ซึ่งผู้สั่งซื้อต้องรอ 7 – 32 ในการจัดส่ง แถมตอนที่โพสต์ขายนั้น ก็ยังไม่ถึงวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกต่างหาก แต่กลับมีพ่อค้ามือไวนำมาวางขายกินกำไรกันซะแล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเมื่อถึงวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการจะมีราคาเพิ่มหรือลดลงมากแค่ไหน และราคาการ์ดจอในบ้านเราจะออกมาเป็นยังไงกันแน่ 

สำหรับการ์ดจอRX 6600 XTกินไฟอยู่ที่ 145W ให้ประสิทธิภาพความเร็วนาฬิกาสูงสุดที่ 2.9 GHz  โดยได้คะแนนการทดสอบใน OpenCL อยู่ที่ 76,661 ซึ่งพอ ๆ กับการ์ดจอรุ่นพี่อย่างRX 5700 XT แต่กินไฟน้อยกว่ามาก และ Boost Clock แรงกว่า โดยRX 5700 XT

 RX 6600 XT

กินไฟอยู่ที่ 225W แต่มีความเร็วนาฬิกาสูงสุดไม่เกิน 2 GHz เท่านั้น ซึ่งช้ากว่ามาก และ betclic88 เว็บไซต์คาสิโนที่มีผู้เล่นมากที่สุด เปิดเกมส์พนันให้เล่นเยอะที่สุดในไทย เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย ฝากถอนรวดเร็ว สมัครตอนนี้ฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว CyberDog หุ่นยนต์หมาประจำบ้านสุดฉลาดจาก Xiaomi

CyberDog

CyberDog หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงรุ่นแรกของ Xiaomi ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง Mi MIX 4 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แม้ว่ารูปร่างหน้าตามันช่างละหม้ายคล้ายกับหุ่นยนต์ Spot ของบริษัท Boston Dynamics ซะเหลือเกิน แต่ก็ต้องบอกว่าเจ้าหุ่นยนต์หมาตัวนี้ถือเป็นอีกหนึ่งไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Xiaomi ที่แสดงถึงความสามารถด้านเทคโนโลยีของบริษัทจริง ๆ 

CyberDog มาพร้อมสมอง NVIDIA® Jetson Xavier™ NX platform ถึง 384 แกน

 CyberDog

นอกจาก Xiaomi จะมีตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็นหลักนั้นตั้งแต่ตัวสมาร์ทโฟนไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ล่าสุดยังได้เปิดตัว CyberDogหุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงรุ่นแรกของ Xiaomi เป็นอีกหนึ่งไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองอีกด้วย โดยมันมาพร้อมรูปร่างหน้าตาคล้ายกับหุ่นยนต์ Spot ของบริษัท Boston Dynamics 

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยขุมพลังสมอง NVIDIA® Jetson Xavier™ NX platform ที่ประกอบด้วย CUDA ถึง 384 แกน, Tensor อีก 48 แกน และ CPU Carmel อีก 6 แกน และแกนประมวลผล Deep Learning อีก 2 แกน  โดยแกนประมวลผลเหล่านี้จะรับข้อมูลจากเซนเซอร์ที่อยู่รอบตัวของเจ้าCyberDog ถึง 11 ตัว เช่น กล้อง, เซ็นเซอร์สัมผัส, เซ็นเซอร์อัลตร้าโซนิก, GPS ฯลฯ ซึ่งจะคอยทำหน้าที่ประมวลผลเพื่อการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ 

 CyberDog

เจ้าCyberDog สามารถเคลื่อนไหวได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน 4 ขาแบบปกติ หรือแม้แต่การตีลังกากลับหลัง แถมมันยังสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 11.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีเซ็นเซอร์ Intel RealSense D450 ที่ไว้ตรวจจับความตื้น-ลึกของวัตถุต่าง ๆ

ทำให้หุ่นยนต์สามารถที่จะเคลื่อนที่ได้แบบไม่มีการชนวัตถุหรือแม้แต่สิ่งของต่าง ๆ และยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสั่งการหุ่นยนต์ตัวนี้ได้ด้วยคำสั่งเสียง รวมทั้งยังมีพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ ทั้ง USB-C จำนวน 3 ช่อง และพอร์ต HDMI ที่นักพัฒนาสามารถติดตั้งซอฟแวร์ต่าง ๆ ลงไปในตัวหุ่นยนต์ได้ 

 CyberDog

ทั้งนี้ทาง Xiaomi ยืนยันว่า CyberDog ไม่ได้เป็นเพียงหุ่นยนต์ต้นแบบที่พัฒนามาโชว์เล่น ๆ เท่านั้น แต่บริษัทมีเริ่มผลิตสำหรับจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะทำการผลิตเพียง 1,000 ตัวเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ตัวละ 9,999 หยวน หรือประมาณ 51,600 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้า) แต่ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการวางจำหน่าย และรายเอียดของประเทศที่จะวางจำหน่ายออกมาแต่อย่างใด และ Slotbkk  เกมส์เดิมพัน สล็อตออนไลน์ อันดับ 1 เพียงสมัคร สมาชิก รับโบนัสทันที เดิมพันง่าย รวยไว ได้เงินจริง ฝากถอนรวดเร็ว ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

หลุดข้อมูลเกม Halo Infinite ใช้พื้นที่เกือบ 100 GB

Halo Infinite

Halo Infinite หนึ่งในเกมแอคชั่นชูตติ้งที่เหล่าตัวเกมเมอร์ทั่วโลกนั้นต่างตั้งตาการรอมากที่สุด โดยแรกเริ่มเดิมทีมีแผนที่จะลงกับ Xbox Series X ในฐานะเกมเปิดตัว แต่น่าเสียดายที่ทาง Microsoft ตัดสินใจเลื่อนกำหนดของการที่จะมีวางจำหน่าย Xbox รุ่นนี้ออกไป

เป็นช่วงเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน ปีหน้าแทน แต่ล่าสุด ได้มีภาพหลุดข้อมูลของเกม Halo ที่แสดงให้เห็นว่าตัวเกมจัดอยู่ในเรต PEGI 16 และใช้พื้นที่ทั้งหมดเกือบ 100 GB เลยทีเดียว 

Halo Infinite จัดอยู่ในเรต PEGI 16 และใช้พื้นที่รวม 97.24GB 

Halo Infinite

ภาพข้อมูลของเกมHalo Infinite ที่พัฒนาโดย 343 Industries ได้ปรากฏอยู่บนหน้า  Microsoft Store โดยจากภาพแสดงให้เห็นถึงความละเอียดต่าง ๆ เช่น เป็นเกมแนวชูตเตอร์ จัดจำหน่ายโดย Xbox Game Studios จัดอยู่ในเรต PEGI 16 และตัวเกมใช้พื้นที่รวมถึง 97.24GB โดยในรูปไม่ได้เปิดเผยวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจากรูปจะดูเหมือน Microsoft Store มาก แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันจากทาง Microsoft ว่าข้อมูลที่หลุดออกมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการจัดเรตเกมให้อยู่ที่ PEGI 16 ซึ่งน่าสงสัยมาก

Halo Infinite

เพราะHalo Infinite ไม่เคยมีการจัดเรตแบบ PEGI อย่างเป็นทางการมาก่อนนั่นเอง โชคดีที่ทาง Microsoft ยังคงยืนยันว่า จะมีการเปิดเผยรายละเอียดของเกมHalo Infinite เพิ่มเติมในงาน Gamescom ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ โดยมีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากที่จะมีการเปิดเผยวันจัดจำหน่ายของเกมภายในงานนี้ด้วย

สำหรับเกมHalo Infinite คาดกันว่าจะมาพร้อมกับโหมดการเล่นใหม่ ๆ เช่น Weapon Drills ที่ผู้เล่นสามารถทดสอบทักษะการใช้อาวุธต่าง ๆ โดยมี Bot เคลื่อนที่ เพื่อให้ผู้เล่นได้ยิงเก็บคะแนนได้ โดยมีอาวุธประสิทธิภาพสูงในคลังอาวุธ Halo ทั้ง CQS48 Bulldog, MA40 AR, S7 Sniper ฯลฯ 

Halo Infinite

นอกจากนี้ยังมีการปรับระบบสภาพอากาศแบบไดนามิก โดยทางผู้พัฒนา 343 Industries ระบุว่า ผู้เล่นจะเจอทั้งลมและหมอก ไปจนถึงฝนและพายุหิมะที่คาดว่าจะเป็นเอฟเฟกต์สภาพอากาศเพิ่มเติมในอนาคต 

โดยคาดกันว่าตัวเกมจะมีราคาประมาณ 60 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2,000 บาท  และ ufalion168  เว็บพนันบอลออนไลน์ที่ดังที่สุด ในประเทศไทยและมีคนเล่นมากที่สุด เพราะ เดิมพันง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย สมัครง่ายฟรีเครดิต

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Samsung RAM Plus ฟีเจอร์ให้ Galaxy A52s ใช้ ROM เพิ่ม RAM ได้อีก 4GB!

Samsung RAM Plus

Samsung RAM Plus ฟีเจอร์ที่ถือว่าใหม่สุดล้ำที่ให้ผู้ใช้มือถือ Galaxy A52s 5G ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปยังไม่ถึง 1 เดือน สามารถที่จะทำการดึงเอาของพื้นที่ในบางส่วนนั้นของตัวหน่วยความจำ ROM ขนาดที่มี 128GB

มาทำการเพิ่มให้กับเจ้าตัว RAM นั้นได้เลยอีกถึง 4GB จากเดิมที่มีมาให้แล้ว 8GB กลายเป็น 12GB เลยทีเดียว ทั้งนี้ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกล้องและความไหลลื่นของระบบโดยรวมอีกด้วย 

Samsung RAM Plus มาพร้อมเฟิร์มแวร์หมายเลข A528BXXU1AUH9

Samsung RAM Plus

หลังจากที่ Samsung เพิ่งเปิดตัว Galaxy A52s 5G ไปยังไม่ทันครบ 1 เดือน แถมยังวางจำหน่ายในบ้านเราได้เพียงแค่ 3 สัปดาห์เท่านั้น แต่ล่าสุด Samsung ได้เริ่มปล่อยอัพเดตเฟิร์มแวร์ตัวใหม่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเฟิร์มแวร์หมายเลข “A528BXXU1AUH9”

ซึ่งในตัวอัพเดตนี้มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก ๆ ชื่อว่าSamsung RAM Plus โดยความพิเศษของมันก็คือผู้ใช้สามารถ “ยืม” พื้นที่ของหน่วยความจำ ROM ที่มีความจุ 128GB มาเพิ่มให้กับพื้นที่ RAM ได้เพิ่มอีกถึง 4GB จากเดิมที่มือถือรุ่นนี้มี RAM 8GB จะเพิ่มได้สูงสุดถึง 12GB (8GB + 4GB) ซึ่งถือว่าเยอะกว่า RAM ของสมาร์ทโฟนระดับที่เป็นเรือธงหลายรุ่นเลยก็ว่าได้

Samsung RAM Plus

นอกจากจะมาพร้อมกับฟีเจอร์Samsung RAM Plus แล้ว ตัวเฟิร์มแวร์หมายเลข A528BXXU1AUH9 ยังมาพร้อมการอัพเดตอีกหลายรายการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวกล้องและการใช้งานทั่วไป เช่น การแก้ปัญหาบั๊กภายในส่วนระบบที่ทำการปฏิบัติการ ช่วยให้ใช้งานได้อย่างไหลลื่นมากขึ้น, การเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์กล้อง รวมถึงแพตช์ความปลอดภัยประจำเดือนสิงหาคมที่พ่วงมาในตัวตัวเฟิร์มแวร์นี้ด้วย 

ทั้งนี้ Samsung ได้เริ่มทำการปล่อยอัพเดตในส่วนของเฟิร์มแวร์ A528BXXU1AUH9 ให้ผู้ใช้ในประเทศอินเดียเป็นที่แรก และคาดว่ากำลังทยอยปล่อยอัพเดตให้ผู้ใช้ Galaxy A52s 5G ในหลายประเทศทั่วโลกเร็ว ๆ นี้ ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีประกาศว่าจะปล่อยอัพเดตเมื่อไหร่

Samsung RAM Plus

แต่สำหรับใครที่ใช้ Galaxy A52s 5G สามารถเข้าไปตรวจสอบการอัพเดตได้โดยไปที่การตั้งค่า – อัพเดตในส่วนของซอฟต์แวร์ หากพบตัวอัพเดตให้แตะดาวน์โหลดและติดตั้ง โดยก่อนติดตั้งควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามือถือมีแบตเตอรี่มากพอสำหรับการอัพเดตเฟิร์มแวร์ และ sa gaming1688 คาสิโนออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย มีรางวัลใหญ่มากมาย ฝากถอนง่าย เล่นได้ทุกเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว OPPO A16 สมาร์ทโฟน RAM 3GB + ROM 32GB ในราคาไม่ถึงห้าพัน

OPPO A16

OPPO A16 สมาร์ทโฟนที่ถือกันได้ว่าเป็นน้องเล็กเลยจากตระกูลที่เป็น OPPO A ที่มาพร้อมกับราคาประหยัดแต่สเปคสุดคุ้ม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยของความจำ RAM ขนาด 3GB และ ROM ความจุถึง 32GB

แถมยังสามารถที่จะทำการใช้งานของมันนั้นได้อย่างยาวนานตลอดทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุถึ ง 5,000 mAh พร้อมฟีเจอร์ Optimized Night Charge ที่ช่วยในส่วนของการควบคุมของระดับอุณหภูมิของเจ้าตัวตัวเครื่องเมื่อได้ทำการชาร์จแบตเตอรี่นั้นไว้ในตอนของกลางคืน ในราคาไม่เกิน 5 พันบาทเท่านั้น

OPPO A16 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคาเพียง 4,7xx บาท

OPPO A16

OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาประหยัดรุ่นน้องเล็กจากตระกูล OPPO A อย่างOPPO A16 ที่มาพร้อมสเปคสุดคุ้มหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยความจำ RAM 3GB และ ROM 32GB หน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ขนาดของมัน 6.52 นิ้ว

ความที่มันนั้นละเอียด HD+ (720 x 1,600 พิกเซล) พร้อมฟีเจอร์ “Eye-care Display” ที่ช่วยในการถนอมของสายตาให้สามารถที่จะทำการใช้งานกันได้อย่างที่สบายตาในทุกสภาพแสง 

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11 ที่ครอบด้วย Color OS 11.1 ใช้ขุมพลังหน่วยประมวลผล Helio G35 Octa Core ของ Mediatek ความเร็ว 2.3GHz

ทำงานที่ได้ร่วมกับหน่วยของการประมวลสิ่งที่เป็นผลของกราฟฟิก IMG GE8320 แถมยังรองรับ microSD Card เพิ่มสูงสุดถึง 256GB ในส่วนของดีไซน์ของเจ้าตัวเครื่องนี้นั้นยังมีสไตล์ที่เป็นแบบบางเบาระดับของ 3 มิติ สามารถที่จะทำการกันน้ำที่เป็นการกันฝุ่นที่ดีได้ในระดับ IPX4

OPPO A16

นอกจากนี้OPPO A16 ยังมาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 12 MP รูรับของการแสงขนาด f/2.2, กล้อง Depth ความละเอียด 2MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2 MP

สามารถที่จะทำการบันทึกของวีดีโอที่มีส่วนของความละเอียดที่เป็นระดับ HD ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และโหมดถ่ายภาพช่วงการรับแสงสูง (HDR)  ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8MP  รองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 และ Type-C USB 2.0  ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 10W

พร้อมฟีเจอร์ “Optimized Night Charge” ที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของมือถือขณะชาร์จแบตเตอรี่ในตอนกลางคืน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ  ทั้งนี้OPPO A16 มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีดำ (Crystal Black) และ สีเงิน (Space Silver) สนนราคาเบา ๆ เพียง 4,7xx บาท

OPPO A16

ใครที่สนใจก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ OPPO Official Store บนเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์ที่น่าเชื่อถืออย่าง Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop และ i99bet เว็บแทงบอลชื่อดังระดับสากล ที่ทั่วโลกต่างให้การยอม เดิมพันง่าย ปลอดภัย มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เตรียมเปิดตัว Xiaomi Mi Pad 5 หน้าจอ 2K รองรับปากกา Smart Pen

Xiaomi Mi Pad 5

Xiaomi Mi Pad 5 แท็บเล็ตรุ่นใหม่ที่จะมาเป็นทายาทอสูรของ Mi Pad 4 หลังจากปล่อยให้สาวกต้องรอคอยกันมานานกว่า 3 ปี เลยทีเดียว จนมีข่าวที่ได้ลือว่า บริษัทอาจไม่มีแผนที่จะพัฒนาแท็บเล็ตรุ่นต่อไปแล้ว และหันไปทุ่มตลาดสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว โดยล่าสุดมีข่าวลือว่า

อาจจะเปิดตัวพร้อมกับ Mi MIX 4 ในวันที่ 10 สิงหาคม ที่จะถึงนี้  ซึ่งทางด้าน “เหลย จุน” (Lei Jun) กรรมการบริหารของ Xiaomi ก็ได้ออกมาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสเปคและฟีเจอร์บางส่วนของแท็บเล็ตรุ่นนี้ผ่านบัญชี Weibo ของเจ้าตัว ทำให้เราได้รู้ว่า เบื้องต้นมันจะรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Smart Pen แถมอาจจะมีรุ่นย่อยถึง 3 รุ่นเลยทีเดียว 

Xiaomi Mi Pad 5 รุ่นท็อปมาพร้อมหน้าจอ 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2K

Xiaomi Mi Pad 5

ภาพจากโปสเตอร์บางส่วนที่ “เหลย จุน” (Lei Jun) กรรมการบริหารของ Xiaomi ได้โพสต์ผ่านบัญชี Weibo ของเจ้าตัว แสดงให้เห็นว่าXiaomi Mi Pad 5จะมาพร้อมตัวบอดี้ที่ผลิตจากวัสดุตัวโลหะที่ได้ตัดขอบและมีการขัดเงาที่ดีของทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง ดูหรูหรา และอาจมาพร้อมรุ่นย่อยถึง 3 รุ่น

โดยรุ่นท็อปสุดจะมาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2K รองรับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz  หรืออาจจะสูงสุดถึง 120Hz เลยก็เป็นไปได้

และค่า Touch Sampling Rate 240Hz ใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง Snapdragon 870 จาก Qualcomm และใช้แบตเตอรี่ความจุ 8,720 mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 67W 

Xiaomi Mi Pad 5

ยิ่งไปกว่านั้น ภาพโปสเตอร์ยังแสดงให้เห็นว่าXiaomi Mi Pad 5 ยังมาพร้อมกับ Smart Pen ที่มีด้านหนึ่งแบนราบ ทำให้ลักษณะของการเก็บน่าจะเป็นแบบแม่เหล็กดูดติดกับส่วนใดส่วนหนึ่งของเครื่อง ไม่ใช่การเสียบเก็บในตัวเครื่องเหมือนฝั่ง Galaxy Note ของ Samsung (เคยมีภาพหลุดเคส Mi Pad 5 ที่ด้านในมีช่องสำหรับเก็บปากกาเหมือนกัน) 

Xiaomi Mi Pad 5

ทั้งนี้ ปากกา Smart Pen ของXiaomi Mi Pad 5 อาจมาพร้อมฟีเจอร์ที่เหนือเกินคาดกว่าปากกาสไตลัสทั่วไป เพราะก่อนหน้านี้มีเอกสารของทางคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐฯ หรือ “FCC” หลุดออกมาว่า

ปากกรุ่นนี้จะรองรับ Bluetooth 5 แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากกว่านี้ และ Slot888 สล็อต คาสิโน ออนไลน์เว็บอันดับ 1 ที่เล่นง่าย ได้เงินไว และยังฟรีเครดิต มีรางวัลมากมาย สมัครง่าย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ลือหนัก! Vivo iQOO 8 อาจเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรก ๆ ที่มาพร้อม Snapdragon 888+

Vivo iQOO 8

Vivo iQOO 8 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไปของVivo ที่คาดกันว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลางเดือนสิงหาคมนี้ โดยล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า มันอาจจะเป็นมือถือรุ่นแรก ๆ ของโลกที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Snapdragon 888+ ที่อัพเกรดมาจากชิปรุ่นเรือธงเดิมอย่าง Snapdragon 888  แถมยังลืออีกว่า มันอาจจะรองรับเทคโนโลยีชาร์จไวระดับมหากาฬถึง 120W หรืออาจสูงสุดถึง 160W เลยทีเดียว (โหดแท้)

Vivo iQOO 8 อาจมาพร้อมจอแสดงผล Samsung E5 LPTO AMOLED

Vivo iQOO 8

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทาง Vivo ได้ออกมาโพสต์โปสเตอร์และข้อความผ่านทางโซเชียงมีเดียยอดฮิตของจีนอย่าง Weibo ถึงกำหนดการเปิดตัวVivo iQOO 8สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไปที่มีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 19.30 น. ของจีน หรือประมาณ 18.30 ตามเวลาประเทศไทย

โดยคาดกันว่าตัวเครื่องนี้มันคือมือถือในรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปอย่าง Snapdragon 888+ ของ Qualcomm ซึ่งอัพเกรดมาจาก Snapdragon 888 อีกทีหนึ่ง ทำให้มีความเร็วสูงสุดถึง 3GHz ทำงานร่วมกับหน่วยของการประมวลผลของภาพกราฟิกตัวท็อปอย่าง Adreno 660  ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 11

Vivo iQOO 8

ที่ครอบทับด้วย OriginOS 1.0  พร้อมหน่วยความจำ RAM ขนาด 12GB และ ROM ความจุ 256GB  ยิ่งไปกว่านั้น แหล่งข่าวความน่าเชื่อถือสูงอย่าง DigitalChatStation ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าVivo iQOO 8อาจจะมาพร้อมกับหน้าจอ Samsung E5 LPTO AMOLED ที่มีความละเอียดถึง 1400 x 3200 พิกเซล และรองรับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz เลยทีเดียว

ทั้งนี้ทาง Vivo ได้เคยนำเอาVivo iQOO 8ตัวเป็น ๆ ไปวางโชว์ภายในงาน ChinaJoy เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในตอนนั้นตัวเครื่องส่วนใหญ่ถูกซ่อนไว้ภายใต้เคส โผล่มาให้เห็นเพียงหน้าจอขอบบางเฉียบ และรูกล้องตรงกลางด้านบนเท่านั้น ไม่มีการเปิดเผยของข้อมูลอื่น ๆ มากไปกว่านี้แต่อย่างใด 

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า ภายในงาน ChinaJoy ทาง Vivo ได้เอาเทคโนโลยีชาร์จไวระดับ 120W มาโชว์ด้วย ทำให้คาดกันว่าVivo iQOO 8อาจมาพร้อมเทคโนโลยีของความชาร์จไวระดับ 120W

Vivo iQOO 8

หรืออาจจะรองรับได้แบบสูงสุดถึง 160W เลยทีเดียว และห้ามพลาด viewbet24 เว็บใหม่ ที่เต็มไปด้วยทีมงานคุณภาพ เดิมพันง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย และโปรโมชั่นดีๆอีกเพียบ ฝากถอนรวดเร็ว ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

รีวิวสุดยอด คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins สินค้าที่ได้รับความสนใจมาก ที่พึ่งเปิดตัวสินค้ามาได้ไม่นานนี้ ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการใช้งานที่เกินคาด แล้วในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องปกติที่เราต่างจะต้องหาอุปกรณ์มาเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊กมาเพื่อใช้งานได้อย่างราบรื่นมากที่สุด ใช้งานได้นานในราคาที่ไม่แพงมาก โดยในวันนี้นั้นทางเราจะมารีวิวคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ออกแบบมาเพื่อที่จะใช้เล่นเกมได้หนักหน่วง ไม่เกิดปัญหาได้ง่ายขณะที่เราเองนั้นเล่นเกมไปแต่อย่างใด โดยเรารีวิวจุดเด่นและจุดด้อยของสินค้านี้ เพื่อเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกซื้อครั้งนี้ แล้วรุ่นนี้มาแรงมีการพัฒนาให้ความทันสมัยอยู่ตลอดมา เป็นที่ขึ้นชื่อของสายเกมเมอร์ที่ต้องรู้จักกันทั้งนั้น และมียอดขายในแต่ละครั้งถล่มทลายเลยทีเดียว ท่านใดที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้

จุดเด่นและจุดด้อยของ คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

จุดเด่นที่มาพร้อมกับการใช้งานที่สะดวกต่อการที่จะพกพาไปไหนมาไหน สามารถพกไปที่ไหนก็ได้ มีความสะดวก เนื่องจากว่ามีขนาดที่เล็ก กะทัดรัด การที่มีเนื้อที่น้อยแล้ววางใช้งานไม่เกิดปัญหาได้ มีสวิทซ์ที่กดใช้งานได้ทน แข็งแรง ปุ่มที่กดมีความไว ตอบสนองตรงต่อการสั่งงานได้ทันที สามารถที่จะถอดสายได้โดยการเปลี่ยนเป็นแบบยูเอชบี มีแสงที่ตัวคีย์บอร์ด ทำให้ดูสวยหรู ท่านใดที่มีความชื่นชอบในการปรับแต่งปุ่ม     ทำได้เลยตามใจชอบ กดแล้วเสียงไม่ดังมาก ในจุดด้อยคืออาจจะต้องใช้ความเข้าใจและคุ้นเคยกับคีย์บอร์ดนี้ก่อนบ้าง ถึงจะใช้งานได้รวดเร็ว 

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Originsใช้งานได้มีประสิทธิภาพ

รุ่นนี้มาในราคาอยู่ที่ 3,290 บาท โดยมีการใช้งานเล่นเกมได้อย่างสนุก ใช้งานได้ทนทาน แข็งแรงมาก โดยมีการออกแบบดีไซน์มาได้สวย มีคู่มือการใช้งานมาในกล่องให้ครบถ้วน

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Origins

คีย์บอร์ดเกมมิ่ง HyperX Alloy Originsสินค้าที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ในราคาที่ไม่แพงเกินไป คุ้มค่ากับการใช้งานได้ยาวนาน ทนทาน มีประสิทธิภาพการใช้งานได้สูง ออกแบบดีไซน์มามีไฟด้วย เพิ่มความโดดเด่นที่น่าสนใจมากขึ้น และห้ามพลาด 888slot เกมเดิมพันรูปแบบใหม่ เดิมพันง่าย สนุก ฝากถอนโอนไว ปลอดภัย 100% ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ไม่เหมือนที่คุยไว้! นักวิจัยเผย Dark mode ช่วยประหยัดพลังงานแค่ 3 – 9%

Dark mode

Dark mode หนึ่งในนวัตกรรมสุดล้ำที่มักพบได้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ OLED โดยเป็นการปรับโทนสีและความสว่างหน้าจอให้เม็ดพิกเซลแสดงสีดำได้สนิทกว่าหน้าจอ LCD ปกติ ซึ่งแบรนด์มือถือหลายเจ้าต่างเคลมว่า สามารถช่วยประหยัดพลังงานได้แบบเวอร์วังอลังการ  แต่ทว่าล่าสุด ได้มีนักวิจัยออกมาเปิดเผยผลการทดสอบเจ้านวัตกรรมนี้ ซึ่งผลปรากฏว่า มันช่วยประหยัดพลังงานแค่ 3 – 9% จากปกติเท่านั้น

 Dark mode ความสว่าง 50% กินแบตเท่า Light mode ความสว่าง 20%

 Dark mode

ย้อนกลับไปในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนหลายรุ่นจากหลายแบรนด์ที่มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ OLED มักจะมีฟีเจอร์Dark mode ติดมาด้วย ซึ่งหนึ่งในสรรพคุณสำคัญของมันก็คือ ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าหน้าจอ LCD

เนื่องจากเม็ดพิกเซลสีดำของจอ OELD จะไม่ทำงาน ต่างจากหน้าจอ LCD ยังคงมีแสงสีดำออกมาอยู่ จนหลายคนเข้าใจว่า การเปิดใช้ฟีเจอร์นี้จะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้แบบเวอร์วังอลังการ 

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย American Purdue University ได้ออกมาเปิดเผยว่า แม้ว่าDark mode จะช่วยการประหยัดของแบตเตอรี่ได้จริง แต่บางทีการโฆษณาก็ออกแนวเกินความเป็นจริงมากไป

 Dark mode

เพราะจากการทดสอบด้วยการเปิดแสงหน้าจอหลายระดับ ตั้งแต่ต่ำสุดไปจนถึง 100% พบว่า การเปิดใช้งานที่ระดับความสว่างเต็ม 100% ช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้เฉลี่ย 39 – 47% แต่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน แทบไม่มีใครเปิดความสว่างหน้าจอเต็ม 100%

นอกจากจะใช้งานในที่กลางแจ้งแสงแดดจัด ๆ เท่านั้น และชีวิตประจำวันของเราคงไม่มีใครไปเล่นมือถือกลางแจ้งเป็นชั่วโมงอย่างแน่นอน  นอกจากนี้ การเปิดของDark mode ในความสว่างส่วนของหน้าจอนั้นมาก ๆ กลับเป็นว่ากินแบตของเราเทียบเท่ากับการเปิด Light mode ในความสว่างแบบต่ำ ๆ อีกด้วย  ผู้วิจัยได้ทดลองเปิดแอปฯ Google Maps พร้อมกับเปิดDark mode ที่มีความสว่างแบบ 50% กลับกินแบตของเราเทียบเท่ากับ Light mode ที่ความสว่างแค่ 20%

 Dark mode

  โดยปกติแล้ว คนเรามักจะใช้มือถือที่ความสว่างเฉลี่ย 30 – 50% ซึ่งเป็นความสว่างระดับที่Dark mode ช่วยประหยัดพลังงานได้เพียง 3 – 9% เท่านั้น แม้จะพูดได้ว่า อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าปกติ

แต่ก็ไม่ได้ประหยัดพลังงานแบบเวอร์วังอลังการเหมือนที่โฆษณากันนั่นเอง และ 123bet แอพคาสิโนบนมือถือ ที่ใหญ่ที่สุด เล่นง่าย รวยไว มีรางวัลมากมาย ปลอดภัย 100%

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

อีลอน มัสก์ หนุน Epic Games ยื่นฟ้อง Apple เรื่องค่าธรรมเนียม

อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีสายปั่น เจ้าของอาณาจักร Tesla ได้ออกโรงสนับสนุนทางด้าน Epic Games ร้านค้าชื่อดังที่เพิ่งจะยื่นฟ้องบริษัท Apple

เกี่ยวกับค่าธรรมเนียมใน App Store โดยซีอีโอวัย 50 ปี ระบุว่า ค่าธรรมเนียม 30% ที่ Apple หักจากแอปฯ ต่าง ๆ ใน App Store เปรียบเหมือน “ภาษี” บนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่ง Apple ไม่ควรมีสิทธิ์เก็บค่าธรรมเนียมที่ว่านี้ และยืนยันว่า Epic คือฝ่ายที่ทำถูกต้องแล้ว

อีลอน มัสก์ จวก Apple และ Android กำลังผูกขาดตลาดแอปพลิเคชั่นบนมือถือ

อีลอน มัสก์

อีลอน มัสก์ผู้บริหารของ Tesla และ SpaceX ได้ทำการทวีตเพื่อแสดงความเห็นที่เกี่ยวกับเรื่องของกคดีฟ้องร้องระหว่าง Epic Games และ Apple เรื่องค่าธรรมเนียมใน Apple Store เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ที่ผ่านมา 

โดยเขาออกโรงสนับสนุนทางด้าน Epic ที่พยายามต่อต้านการเก็บค่าธรรมเนียมถึง 30% จากแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ บน App Store โดยเจ้าตัวระบุว่า “ค่าธรรมเนียมใน App Store ของ Apple ก็เหมือนกับการเก็บภาษีบนโลกอินเตอร์เน็ต และ Epic เป็นฝ่ายถูก”

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2020 Epic Games พยายามผลักดันระบบจ่ายเงินในแอปฯ บน Apple Store ให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินให้กับเจ้าของแอปฯ ได้โดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายผ่านคนกลางอย่าง Apple Store ซึ่งแปลว่า Apple จะไม่ได้รับค่าธรรมเนียม 30%

อีลอน มัสก์

ถือเป็นการละเมิดกฎของ Apple จนทำให้แอปฯ บางส่วนถูกถอดออกจาก App Store  จากนั้นทาง Epic Games ก็ได้ยื่นฟ้อง Apple โดยกล่าวหาว่า

แพลตฟอร์ม iOS ไม่มีช่องทางอื่นให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกลงแอปฯ จาก Store แห่งอื่นได้เลย ทำให้ผู้พัฒนาหรือเจ้าของแอปฯ ทุกคน ต้องยอมจ่ายค่าธรรมเนียม 30% ซึ่งเป็นการทำธุรกิจแบบผูกขา

  ทั้งนี้อีลอน มัสก์ ยังเสริมว่า ปัจจุบัน Apple (iOS) และ Android เป็นเพียงผู้เล่นแค่สองรายที่เป็นเจ้าตลาดมือถือ ซึ่งถือเป็นการผูกขาด ฉะนั้น การหักค่าธรรมเนียมจากแอปฯ ที่อยู่ใน Store ของตัวเอง จึงเหมือนกับการเก็บภาษีนั่นเอง  อย่างไรก็ตาม การแสดงท่าทีว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม Apple

อีลอน มัสก์

ของอีลอน มัสก์ ในครั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากการที่ Apple จะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าของตัวเองในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งถือเป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวที่อาจจะก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของเขาในอนาคตนั่นเอง และอย่าพลาด ufabet เว็บตรง เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์ ปลอดภัย และคุ้มค่า แน่นอน เล่นง่าย ได้เงินจริง มีรางวัลมากมาย ให้บริการ 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่