Archives March 2021

Intel Core Gen 11 รหัส Rocket Lake-s ถือเป็นโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อปเจนเนอเรชั่นล่าสุดของค่ายIntel ที่มาพร้อมการอัพเกรดประสิทธิภาพแทบทุกด้าน โดยการผนวกรวมคุณสมบัติ

การโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถประมวลผลการทำงานเร็วขึ้น 19% และประมวลผลกราฟฟิกดีขึ้น 50% พร้อมฟีเจอร์ Intel Deep Learning Boost ให้ความเร็วสูงสุดถึง 4GHz 

Intel Core Gen 11 แรงกว่า AMD Ryzen 5950X ถึง 12%

Intel Core Gen 11ชื่อรหัส Rocket Lake-s ถือเป็นการออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรมใหม่พร้อมกับ IPC ใหม่ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 4GHz ทำงานร่วมกับการ์ดจอ Intel UHD Graphics

รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์รุ่นใหม่หลายรายการ ทั้ง USB 3.2, PCI-e, HDMI 2.0, Wi-Fi 6E รวมถึงการเชื่อมต่อจอภาพผ่าน Thunderbolt 4 นอกจากนี้ แ ยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ ๆ สำหรับการโอเวอร์คล็อกที่ให้ทั้งความเร็วและประสิทธิภาพเหนือกว่าโปรเซสเซอร์เจอเนอเรชั่นก่อน

โดยเป็นการผนวกคุณสมบัติการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถใช้การเปลี่ยนแปลงความถี่ DDR4 แบบเรียลไทม์ พร้อมกับฟีเจอร์ Intel Deep Learning Boost ประมวลผลการทำงานเร็วขึ้น 19% และประมวลผลกราฟฟิกดีขึ้น 50%  

ทั้งนี้ เมื่อนำIntel Core Gen 11 รหัส Rocket Lake-s มาทดสอบประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งการ Render, กราฟฟิก, การตัดต่อวิดีโอ รวมถึงการทำงานเกี่ยวกับ Microsoft Excel ปรากฏว่าIntel Core 11 มีประสิทธิภาพเร็วกว่าคู่แข่งอย่าง AMD Ryzen 5950X ถือว่าเป็น CPU รุ่นล่าสุดของ AMD อยู่ถึง 12%

  ส่วนในเรื่องการทำโอเวอร์คล็อกก็มีโปรแกรมพิเศษที่ชื่อ Intel Extreme Tuning Utility GUI ซึ่งจะช่วยปรับความเร็ว และยังสามมารถทำงานร่วมกับชิปเซ็ต Intel H570, B560 พร้อมฟีเจอร์ประหยัดพลังงานคอยควบคุมเรื่องการใช้พลังงานให้เหมาะสมผ่านระบบ AI ที่จะคอยตอบสนองความต้องการพลังงานในส่วนต่าง ๆ แบบอัตโนมัติ 

สำหรับชิปเซ็ตที่ถือเป็นรุ่นเรือธงของเจ้าIntel Core Gen 11 ก็คือรุ่น i9-11900K ที่ให้ขุมพลังเหนือชั้นถึง 5.3 GHz พร้อมคอร์ถึง 8 คอร์ 16 เธรด และ Intel® Smart Cache ถึง 16 MB 

นอกจากนี้ Core Gen 11 ยังสามารถรองรับหน่วยความจำความเร็วสูงอย่าง DDR4-3200 ที่รองรับการทำงานได้หลายอย่างพร้อมกันแบบไม่มีสะดุดตั้งแต่การเล่น เกมระดับเทพ Joker888 เป็นที่น่าเชื่อถือในโลกออนไลน์ ไปจนถึงการสตรีมมิ่งวิดีโอความละเอียดสูงแบบไม่มีสะดุด

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ในวันที่ 13 มีนาคม 2564 นักวิเคราะห์เผย iPhone 13 มีสแกนนิ้วที่หน้าจอ ซึ่งเป็น iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะทำการเปิดตัวในปี 2021 ที่ทุกท่านทราบกันดีซึ่งถือได้ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่มาแรงและมีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากสำหรับ iPhone 13 ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอดูดีไซน์การออกแบบที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร พร้อมกับรอดูการเปลี่ยนแปลงว่าจะมีดีไซน์การออกแบบที่พัฒนาไปจาก iPhone รูปแบบเดิมอย่างไรบ้างจากที่มีการเปิดตัวไอโฟนหลายๆรุ่นที่ผ่านมาในปี 2020 แล้วในปี 2021 นี้ผู้คนจึงลุ้นกันว่าจะมี iPhone รูปแบบไหนบ้างที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของ iPhone 8 ใหม่และแตกต่างไปจากเดิมนั่นเอง

นักวิเคราะห์เผย iPhone 13 มีสแกนนิ้วที่หน้าจอ ความไฮเทคที่มาแบบใหม่

เป็นข่าวที่น่ายินดีเพราะนักวิเคราะห์เผย iPhone 13 มีสแกนนิ้วที่หน้าจอ เป็นความไฮเทคแปลกใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและมีระบบการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งแตกต่างจาก iPhone รูปแบบเดิมๆเพราะมีข่าวลือออกมาว่าเขาจะมีดีไซน์การออกแบบและรูปลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิมพร้อมกับเปิดตัวในปี 2021 ในเร็วๆนี้ซึ่งอยากให้ทุกท่านติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดสำหรับใครที่ชอบใช้งาน Apple หรือ iPhone นั่นเองเพราะบอกเลยว่าการรอคอยของทุกท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

นักวิเคราะห์เผย iPhone 13 มีสแกนนิ้วที่หน้าจอ ให้ความสะดวกสบายกับผู้ใช้งานนักวิเคราะห์เผย iPhone 13 มีสแกนนิ้วที่หน้าจอ อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมเพราะการสแกนนิ้วนั้นจะทำให้ปลดล็อคได้อย่างง่ายๆถึงจะไม่มีปุ่มโฮมบริเวณหน้าจอแต่จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นสูงมากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นการสแกนนิ้วการสแกนหน้าจอที่มีดีไซน์การออกแบบแปลกใหม่และไม่เหมือนใครทุกท่านจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเขาจะมีการเปิดตัวในเร็วๆนี้เป็นอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงและต้องยอมรับได้เลยว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียวและราคาก็คงจะแรงไม่เบาเช่นเดียวกัน และนอกจากเทคโนโลยีใหม่ๆเรายังมี เว็บ 356bet เดิมพันง่าย จ่ายเงินจริงให้ท่านได้ร่วมทดสอบสกิล

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ในสังคมปัจจุบันนั้นการสัญจรไปมาถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้รถใช้ถนนจะต้องระมัดระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นตามการจราจรถ้าหากเรามีอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพเกี่ยวกับการขับรถหรือการจราจรในแต่ละวันได้จะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยเก็บบันทึกเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับตัวผู้ใช้รถใช้ถนน วันนี้เราจะมีอุปกรณ์มาแนะนำให้ทุกท่านรู้จักกันนั่นก็คือ Transcend DrivePro 230  เป็นกล้องติดรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีราคาย่อมเยาโดยเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทเท่านั้นเป็นกล้องติดรถยนต์ที่มีขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบาและมีหน้าจอกว้างถึง 2.4 นิ้วกันเลยทีเดียวมีความละเอียดสูงเราจึงอยากจะแนะนำให้ทุกท่านรู้จักเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานรวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับ ทุกท่านเลือกใช้กล้องติดรถยนต์รุ่นดังกล่าวว่าท่านจะได้รับอะไรบ้างไปดูกันเลย

ประสิทธิภาพของกล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro 230

สำหรับประสิทธิภาพของกล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro 230 มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงเป็นอย่างมากเพราะมีความละเอียดสูงสุดและมีรูรับแสงถึง f 2.0 ให้มุมกว้างมากถึง 130 องศากันเลยทีเดียวมีหน้าจอ LCD ที่มีขนาดกว้าง 2.4 นิ้วถือได้ว่าไม่ธรรมดาสำหรับกล้องติดรถยนต์ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 4,000 บาทแต่ประสิทธิภาพที่ได้รับตอบแทนกลับมานั้นเกินคุ้มค่าอย่างแน่นอน

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นยังเป็นกล้องที่มีดีไซน์การออกแบบที่เรียบหรูแปลกใหม่และไม่เหมือนใครเหมาะสำหรับติดรถยนต์ของทุกท่านเพราะจะให้ความรู้สึกหรูหราและเขายังมีระบบการเชื่อมต่อ WiFi ที่สามารถดูภาพการบันทึกต่างๆผ่าน Application ที่เชื่อมต่อกับ Smart Phone โทรศัพท์มือถือหรือ iPad ของทุกท่านที่สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้เป็นอย่างดีซึ่งเป็นจุดเด่นของรุ่นดังกล่าวยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เขายังมีระบบการติดตั้ง gps ที่สามารถบอกตำแหน่งได้ภายในตัวหรือตำแหน่งของการเกิดวีดีโอคลิปต่างๆแม้กระทั่งภาพนิ่งที่เราต้องการอีกด้วยถือได้ว่าเป็นกล้องติดรถยนต์ที่มีราคาประหยัดงบประมาณแต่คุณภาพนั้นเกินคุ้มอย่างแน่นอน

ประโยชน์ของการใช้กล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro 230สำหรับประโยชน์ของการใช้กล้องติดรถยนต์ Transcend DrivePro 230 เป็นอุปกรณ์ที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะจะช่วยบันทึกวีดีโอในแต่ละวันของการใช้รถใช้ถนนของทุกท่านได้อย่างยอดเยี่ยมรวมถึงสามารถถ่ายภาพได้ตามความพึงพอใจของทุกท่านอีกด้วยช่วยสอดส่องดูแลการจราจรหากเกิดอุบัติเหตุถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถบันทึกภาพไว้ได้เพื่อใช้ในการพิจารณาหากถึงขั้นระบบศาลหรือว่ามีอุบัติเหตุที่รุนแรง นอกจากนี้เขายังมีระบบการแจ้งเตือนระยะห่างของรถคันข้างหน้าหากมีความใกล้ชิดกันเกินไปจะแจ้งเตือนให้ทุกท่านระมัดระวังความเร็วและเตือนการเปิดไฟหน้ารถอีกด้วยเหมาะสำหรับทุกท่านที่ใช้รถใช้ถนนเป็นระยะเวลานานหรือขับรถเป็นประจำเพราะเขาจะเป็นอุปกรณ์ที่สอดส่องดูแลความปลอดภัยรวมถึงบอกตำแหน่งที่ตั้งของการขับขี่รถท่านได้เป็นอย่างดี

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Sebo Maru เป็นระบบที่ในเป็นกล้องวงจรปิดที่มีความล้ำหน้าและสมัยมาก ใครต่างก็ต้องการอุปกรณ์ที่มีความครบครันและมีความคุ้มค่าแบบนี้กันทั้งสิ้น แล้วความปลอดภัยในปัจจุบันนี้ถือว่ามีความเสี่ยงอย่างมาก ที่อันตรายของคุณอยู่รอบตัว ที่ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรมที่ทำให้ทรัพย์สินเกิดความเสียหาย ที่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต ที่เราต้องหาอุปกรณ์ที่มันสามารถช่วยชีวิตของเราได้ หรือจะเป็นหูเป็นตาให้กับเราได้แบบรอบด้านอย่าง 360 องศา ที่ทำให้คุณหายห่วงได้อย่างปลอดภัยในชีวิต ที่มีความพร้อมที่จะตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตของคุณเองได้ ใครที่กำลังสนใจอย่าพลาดรุ่นนี้ ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงปัจจุบันนี้ ที่ราคาย่อมเยาไม่แพง เราสามารถหาซื้อตามท้องตลาดที่เป็นตัวแทนทั่วไป หรือตามห้ามสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทยได้เลย เรามาดูรีวิวแบบจัดเต็มกันเลยว่าถูกใจทุกคนแค่ไหนกัน จะได้ไปหาซื้อติดบ้านกันเอาไว้

หายห่วงเมื่อมีกล้องวงจรปิด Sebo Maru

เป็นอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ที่พร้อมตอบโจทย์ในการทำงานอย่างมาก ที่เราไม่ต้องมาติดตั้งให้มันยุ่งยากในแบบเมื่อก่อนกันแล้ว ที่ไม่ต้องติดตั้งสายให้มันยุ่งยาก ในตอนนี้มีการพัฒนาที่เราสามรรถเชื่อมกับโทรศัพท์ที่สามารถโหลดแอพลิเคชันได้ตลอดเวลา เพื่อดูความเคลื่อนไหวภายในบางตลอดทั้งวัน ยิ่งฝบ้านไหนที่มีทรัพย์สินที่มีค่าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งยังรองรับระบบที่เป็นไวไฟให้ใช้งานกัน

Sebo Maruคุ้มค่ามากแค่ไหนกัน

คุ้มค่ามากต่อการซื้อมาในราคาเพียงแค่หลักพันเท่านั้น ที่แสงไม่มีมากจนเกินไปในช่วงของกลางสันและกลางคืน สามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน กล้องสามารถที่จะหมุนได้ทั้งรอบทิศ บันทึกการใช้งานได้เป็นระยะยาว รองรับระบบทุกรุ่น ตั้งเวลาที่เราต้องการได้อย่างต่อเนื่อง

Sebo Maruเป็นอุปกรณ์ที่เราเชื่อว่ามันสามารถที่จะตอบโจทย์ให้กับทุกคนได้แบบไม่อั้น ที่รับรองว่าซื้อมาใช้งานแล้วไม่มีผิดหวัง อีกทั้งคุ้มค่าเกินราคา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ในสังคมปัจจุบันนี้หูฟังมีหลากหลายรูปแบบและหลากหลายสไตล์ให้ทุกท่านได้เลือกใช้งานและใช้บริการกันซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับหูฟังไร้สายที่กำลังยอดนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่านัก Gaming ที่ต้องการหูฟังเพื่อเป็นตัวช่วยในการเล่นเกม ซึ่งหูฟังที่เราจะแนะนำทุกท่านนั่นก็คือ หูฟังไร้สายSteelSeries Arctis Pro Wireless Headphone เป็นหูฟังที่กำลังโด่งดังและมีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากเพราะสิทธิภาพในการทำงานของเขานั้นบอกได้เลยว่าแปลกใหม่และไม่เหมือนใครเราจะเลือกที่จะมาอธิบายเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานรวมถึงประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อทุกท่านเลือกใช้หูฟังดังกล่าวว่าจะมีคุณสมบัติอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

ประสิทธิภาพในการใช้งานของ หูฟังไร้สายSteelSeries Arctis Pro Wireless Headphone

สำหรับประสิทธิภาพในการใช้งานของหูฟังไร้สาย SteelSeries Arctis Pro Wireless Headphone นั้นบอกได้เลยว่าแปลกใหม่และไม่เหมือนใครโดยเขามาพร้อมกับฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางที่สามารถฟังเสียงได้อย่างก้องกังวานเพิ่มมากยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังเหมาะกับการเล่นเกมต่างๆที่ท่านจะสามารถได้ยินเสียงของการเล่นเกมไม่ว่าจะเป็นเสียงเดินเสียงวิ่งของเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ผู้คนซึ่งนิยมซื้อมาใช้งานกันโดยเฉพาะเรานะ Gaming

อย่างที่เราอธิบายไว้ข้างต้นแล้วทั้งนี้ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 12,990 บาท ราคาค่อนข้างสูงแต่บอกได้เลยว่าประสิทธิภาพและการใช้งานนั้นเกินคุ้มค่ากับราคาอย่างแน่นอน โดยเป็นหูฟังแบบไร้สายที่สะดวกสบายมีระบบการเชื่อมต่อแบบ USB คนจึงนิยมใช้งานการเพาะสะดวกสบายและมีเสถียรภาพในการใช้งานอย่างยอดเยี่ยมพร้อมทั้งมากับน้ำหนักที่มีขนาดเบาพกพาได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ประโยชน์ที่จะได้รับเมื่อเลือกใช้หูฟังไร้สาย SteelSeries Arctis Pro Wireless Headphoneประโยชน์ที่ทุกท่านจะได้รับเมื่อเลือกใช้หูฟังไร้สาย SteelSeries Arctis Pro Wireless Headphone  บอกได้เลยว่ามากคุณนะประโยชน์อย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเสียงไมโครโฟนที่คมชัดและมีการปรับเสียงได้ตามความชื่นชอบและความเหมาะสมของผู้ใช้งานยังไม่หมดเพียงเท่านั้นเขามาพร้อมกับไฟแอลอีดีภายในตัวที่จะให้ความเพลิดเพลินกับทุกท่าน ซึ่งหูฟังแนวราคานี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในการทำงานที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 13 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวทุกท่านสามารถเล่นเกมได้อย่างน้ำตาและสามารถใช้ฟังเพลงดูหนังดู YouTube ได้ตามความชื่นชอบอีกด้วย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Huawei buds 3 นั้นเป็นหูฟังที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบปฏิบัติการไร้สายนั่นเองซึ่งเป็นอะไรที่ถูกออกแบบมาได้อย่างสวยงามดูแล้วล้ำเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมความเป็นอัจฉริยะอย่างมากเรื่องการตัดเสียงที่เข้ามารบกวนด้วยนั่นเองอีกทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่ทำให้เรียบหรูและมีวัสดุมีคงทนก็เป็นอะไรที่ดีมากขึ้นจากตัวเก่าๆมาจริงๆ และสามารถทำให้เราเห็นข้อแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยนั่นเอง

รีวิวการใช้งาน Huawei buds 3 ว่ามีอะไรที่ดีกันบ้าง

การใช้งานจหูฟังไร้สายเครื่องนี้นั้นเป็นไปได้อย่างน่าประทับเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดีไซน์ ที่มีสีที่เงางามน่าใช้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีตัวเก็บมาให้อย่างมิดชิด โดยการใช้งานของเจ้าเครื่องนี้นั่นจะต้องโหลดแอพพลิเคชั่นของทางค่ายมาเสียก่อน ซึ่งการเชื่อมต่อของเจ้าเครื่องนี้ทำออกได้ง่ายมากจริงๆ และยังมีประสิทธิภาพในทุกๆด้านอย่างครอบคลุมอีกด้วยนั่นเอง บอกได้เลยว่าหากซื้อมาใช้แล้วนั้นก็ไม่เสียดายเงินเลยนั่นเอง

Huawei buds 3ความคุ้มค่าที่สามารถหาได้ง่ายๆ
ใช่แล้วว่าการที่เราจะต้องการได้อะไรบ้างอย่างมาใช้งานนั้นเราก็ต้องคำนึงในหลายๆส่วนแต่ที่สำคัญมากที่สุดนั้นก็คือความคุ้มค่าในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาที่มีความสำควร ก็ต้องบอกเลยว่าหูฟังเครื่องนี้มีคราคาไม่ถึง ห้าพันบาทเลยนั่นเอง แต่สิ่งที่ได้กลับมาจากการใช้งานแล้วนั้นเป็นอะไรที่ได้มาเกินราคาไปอย่างมาก ซึ่งสามารถบอกได้คำเดียงเลยว่าคุ้มสุดๆไปเลยทุกคน

Huawei buds 3นั้นได้ออกแบบและได้มีการพัฒนาระบบต่างๆให้มีความเสถียรมากขึ้นกว่าตัวก่อนหน้ามากค่อนข้างมาก ซึ่งการได้ใช้สิ่งที่ดีแล้วมีความคุ้มแบบนี้ไม่ได้จะมีกับมาบ่อยๆ อีกทั้งยังเป็นหูฟังที่สามารถทำให้เราฟังเพลง ดูหนัง ได้อย่างมี อรรถรสมกสุดๆไปเลยนั่นเอง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

OnePlus Watch ถูกพูดถึงอย่างมากก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของค่ายOnePlus ทำให้มีข่าวลือต่าง ๆ หลุดออกมากมาย จนกระทังได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อคืนวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมา

ภายในงานอีเวนท์ใหญ่ประจำปีOnePlus ซึ่งนอกจากตัวเอกของงานที่เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่อย่างOnePlus 9 และOnePlus 9 Pro แล้วOnePlus Watch ก็ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย

OnePlus Watch มาพร้อมหน้าจอ AMOLED และฟีเจอร์กันน้ำและฝุ่น

OnePlus Watchถือเป็นนาฬิกาอัจฉริยะหรือ “สมาร์ทวอทช์” รุ่นแรกของค่าย OnePlus โดยตัวเรือนผลิตจากวัสดุประเภทสแตนเลสสตีลทรงกลมขนาด 46 มิลลิเมตร พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว (326ppi) ครอบทับด้วยกระจกแซฟไฟร์ มีปุ่มควบคุมแบบสัมผัสบริเวณด้านขวาสองปุ่ม

ในส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานนั้นOnePlus Watch สามารถรองรับกิจกรรมออกกำลังกายและการเล่นกีฬามากกว่า 110 ชนิด รวมถึงรองรับว่ายน้ำด้วยคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นระดับ 5ATM + IP68 ที่ป้องกันแรงดันน้ำในความลึกระดับ 50 เมตร

และสามารถป้องกันการแทรกซึมของฝุ่นและน้ำได้แบบถาวร พร้อมเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจและความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด, ระยะเวลาการวิ่ง, ระยะทาง, การเผาผลาญแคลอรี่ และข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายตามชนิดกีฬาที่เลือก รวมทั้งตรวจวัดการนอนหลับได้อีกด้วย   นอกจากนี้OnePlus Watchยังรองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Wi-Fi, Bluetooth และ GPS พร้อม RAM ขนาด 1GB และเมมโมรี่ภายในขนาด 4GB ซึ่งทาง OnePlus อ้างว่าสามารถเก็บเพลงในเมมโมรี่ได้มากถึง 500 เพลงเลยทีเดียว 

ขับเคลื่อนการทำงานโดยระบบปฏิบัติการOnePlus Watch OS สามารถควบคุม TV ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เหมือนกันได้ เช่น เมื่อเซนเซอร์ของนาฬิกาตรวจจับการนอนหลับของผู้ใช้งาน ตัวนาฬิกาก็จะสั่งปิด TV แบบอัตโนมัติ เป็นต้น  สำหรับเจ้าOnePlus Watchมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ สีเงิน และ สีดำ สนนราคาในต่างประเทศอยู่ที่ 159 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 5,000 บาท โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 14 เมษายนนี้  นอกจากนี้ทางOnePlus ยังมีแผนจะเปิดตัวรุ่น Cobalt Limited Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่มีสีทองในช่วงปลายปีนี้อีกด้วย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

Intel Gen 11 ถือเป็นโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นล่าสุดของทางIntel ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมือช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งก็รุ่นสำหรับแล็ปท็อปอย่างGen 11 Tiger Lake ที่ให้ประสิทธิภาพกกว่ารุ่นGen 10 Ice Lake อยู่พอสมควร

รวมทั้งรุ่นสำหรับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปอย่างGen11 Rocket Lake ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ดูเหมือนว่าทางIntel จะดูภูมิใจกับโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นใหม่นี้มาก ออกมาเปรียบเทียบประสิทธิภาพแบบหมัดต่อหมัดระหว่างIntel Gen 11กับApple M1 ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่ Apple เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ 

Intel Gen 11 ใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ Chrome เร็วกว่า Apple M1 ถึง 41%

Intel Gen 11ถือเป็นโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นล่าสุดของทาง Intelที่มาพร้อมกับ DL Boost และชิปกราฟฟิก Intel Xe ทำให้มันแทบจะกลายเป็น “Laptop Thin & Light” ที่สามารถเล่นเกมตัวแรงได้เกือบเท่า Gaming Laptop ในขนาดที่เบาบางกว่า แถมยังประหยัดพลังงานกว่า

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนำมาเทียบกับ Apple M1 ก็จะพบว่าเจ้าIntel Gen 11ทำงานได้ดีกว่าพอสมควร เริ่มตั้งแต่ผลทดสอบการใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์ Chrome ที่ชิปGen11 ของ Intel ทำงานได้รวดเร็วกว่า Apple M1 ถึง 41%  ส่วนของอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้น เมื่อนำเอา MacBook Air M1 กับ Acer Swift 5 ที่ใช้ชิป Intel Core i7 มาทดสอบด้วยความสว่างหน้าจอเท่ากันที่ 250nits พร้อมทั้งเปิด Netflix ไปด้วยก็จะพบวาทั้งสองรุ่นนี้มีผลทดสอบที่ใกล้เคียงกันมาก โดย MacBook อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง 12 นาที ส่วน Acer Swift 5 อยู่ได้ 10 ชั่วโมง 6 นาที 

อย่างไรก็ตาม ข้อได้เปรียบของIntel Gen 11ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ มันสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้มากกว่า Apple M1 เนื่องจากเจ้า M1 นั้นออกแบบโดยใช้สถาปัตยกรรม ARM ที่ไม่ใช่แบบ X86 เหมือนของ Intel ซึ่งซอฟแวร์คอมพิวเตอร์แทบทั้งโลกถูกพัฒนาเพื่อให้ทำงานร่วมกับสถาปัตยกรรม X86 เป็นส่วนใหญ่ 

ดังนั้น การที่ Apple แหวกแนวไปใช้ ARM มันจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่เหล่านักพัฒนาซอฟแวร์ต้องปรับผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อรองรับ Apple M1 ถึงแม้ว่าสถาปัตยกรรม ARM ขนาด 5nm ของเจ้า M1 จะให้พลังการประมวลผลที่เร็วแรงกว่าและประหยัดพลังงานกว่าก็ตาม 

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

PS5 VR Controllers ถือเป็นอุปกรณ์เล่นเกมรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง Sony เพิ่งทำการปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเป็นการผสมผสานรูปแบบการใช้งานของจอยสติ๊กทั่วไปแบบ Adaptive Triggers

เข้ากับเทคโนโลยี VR พร้อมกับดีไซน์สุดแหวกที่จะช่วยเปิดประสบการณ์เล่นเกมให้ล้ำจินตนาการยิ่งขึ้น

PS5 VR Controllers มาพร้อมระบบเซ็นเซอร์นิ้วมือและ Inside-out Tracking

PS5 VR Controllersถือเป็นอุปกรณ์ควบคุมการเล่นเกมรุ่นใหม่ล่าสุดของ Sony ซึ่งแยกการควบคุมมือขวาและมื้อซ้ายออกจากกัน โดยในตัวควบคุมแต่ละข้างจะยังมีลักษณะคล้ายกับการทำงานของ Adaptive Triggers คล้ายกับจอยสติ๊กของเครื่อง PS5 (PS5 DualSense controller)

ที่แต่ละข้างจะมีปุ่มสำคัญ ๆ อย่าง Analog Stick, Adaptive Triggers ที่อยู่ในรูป L2 และ R2 แต่ในส่วนของ L1 และ R1 จะถูกแทนที่ด้วยปุ่ม Grip ซึ่งเป็นสำหรับจับหรือถือวัตถุในเกม ส่วนตัวควบคุมมือซ้ายจะมีปุ่ม สามเหลี่ยม, สี่เหลี่ยม และปุ่ม Create ส่วนคันบังคับมือขวาจะมีปุ่ม วงกลม, กากบาท และปุ่ม Option 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้PS5 VR Controllersพิเศษกว่าจอยสติ๊ก PS5 ธรรมดาก็คือ การเพิ่มระบบเซ็นเซตอร์ตรวจจับนิ้วมือของผู้เล่น ทั้ง นิ้วโป้ง, นิ้วชี้ และนิ้วกลาง เพื่อเลียนแบบท่าทางนิ้วของผู้เล่นในเกม

ส่วนลูกกลมตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ถูกแทนที่ด้วย Inside-out Tracking ซึ่งมีลักษณะเป็นวงแหวนที่อยู่ท้ายคันบังคับ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข่าวลือว่าPS5 VR Controllers อาจมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่างกล้องตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นอีกด้วย  

นอกจากนี้ “Hideaki Nishino” ผู้อำนวยการอาวุโสวางแผนกลยุทธ์ทางการเงินของ Sony ยังได้กล่าวในวันเปิดตัวPS5 VR Controllersว่า ต้นแบบของคันบังคับรุ่นใหม่นี้จะถูกส่งให้นักพัฒนาเกมทำการทดสอบในเร็ว ๆ นี้ อีกด้วย  แต่ก็เชื่อกันว่าคงต้องรอกันอีกพักใหญ่กว่าจะมีการวางจำหน่ายและใช้งานได้จริงกับเกมในท้องตลาด เพราะก่อนหน้านี้ ทาง Sony ได้ยืนยันแล้วว่า เทคโนโลยี VR สำหรับเครื่อง PS5 จะยังไม่มาภายในปีนี้อย่างแน่นอน 

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เครื่องพิมพ์พกพาCanon Mini Photo Printer เป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่ามีความทันสมัยอย่างมาก ที่ในปัจจุบันนี้เราต่างต้องการอุปกรณ์ที่พกพาไปไหนก็สะดวกไปทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ ที่ในบางครั้งต้องการรูปออกมาเลย อยากที่จะเอาออกมาเป็นรูปภาพเพื่อที่ระลึกกันให้ได้ แน่นอนว่าเครื่องพิมพ์พกพารุ่นนี้ จะสามารถตอบโจทย์ทุกคนที่ต้องการได้ โดยมีความสะดวกและทันสมัย ไม่มีความล้าหลังแม้สักนิดเดียว ที่คุณเองจะรู้สึกถึงความประทับใจที่ไม่มีวันลืม โดยมีขายตามร้านกล้องทั่วไป และรวมไปถึงห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ ที่ต่างได้รับการยอมรับมากในปัจจุบันนี้ และมียอดขายที่พุ่งขึ้นสูงมากในแต่ละปี ซึ่งถือว่าใครที่กำลังสนใจหรือลังเล สามารถศึกษาข้อมูลเพื่อที่จะนำไปเป็นตัวตัดสินใจให้กับทุกคนได้

ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ เครื่องพิมพ์พกพาCanon Mini Photo Printer

เครื่องพิมพ์สุดทันสมัยรุ่นนี้ ที่เป็นลักษณะในกล่องที่เป็นแบบสี่เหลี่ยม โดยมีสีเขียวมิ้นท์ ชมพูโรสโกล สีเทา ให้เราได้เลือกซื้อตามใจชอบ แน่นอนว่าคุณสมบัตรช่วยในการปริ้นรูปที่เราถ่ายออกมาได้ไม่กี่นาที ที่น้ำหนักก็มีความเบา ใช้งานและพกพาไปไหนก็สะดวกมาก มีระบบการใช้งานไม่ยุ่งยาก มีคู่มือให้อ่านอย่างละเอียด มีฟ สามารถที่จะชาร์จได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น 

เครื่องพิมพ์พกพา Canon Mini Photo Printerคุ้มค่าเกินราคาจนต้องสั่งซื้อ

คุ้มค่าที่สุดที่เคยมีมา โดยมีตัวหมึกที่อยู่ในเครื่องเอาไว้ทั้งหมดสามสีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำเงิน แดงและเหลือง เราต้องมีการติดตั้งแอพในเครื่องโทรศัพท์เพื่อที่จะปริ้นรูปออกมา เพียงแค่กดในการเชื่อมต่อการใช้งานเท่านั้นเอง ถ้ากระดาษที่ใช้ปริ้นหมดสามารถหาซื้อได้ในราคาหลักร้อย

เครื่องพิมพ์พกพา Canon Mini Photo Printerเป็นอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยที่สุด โดยเป็นยี่ห้อชั้นนำของประเทศ ที่เราต่างเคยเห็นและรู้จักกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าใครที่ซื้อไปไม่มีผิดหวังสักคน เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการถ่ายรูปและปริ้นรูปออกมาเลยทันที แถมยังมีราคาไม่แพงที่คุ้มค่าเกินราคา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่