เผยเครื่องจริง Redmi 11A มาพร้อมจอ 6.7 นิ้ว แบตอึด 5,000mAh ขุมพลัง Dimensity 700

Redmi 11A

Redmi 11A ว่าที่มือถือรุ่นเริ่มต้นตัวใหม่ที่ล่าสุดได้มีภาพตัวเครื่องจริงหลุดออกมาแบบชัดเจน เบื้องต้นคาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ รีเฟรชเรท 90Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 700 ที่ให้ความเร็วสูงสุด 2.2GHz และมีกล้องหลังแบบเลนส์คู่ ความละเอียด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 2.0

Redmi 11A อาจมากับชิป Dimensity 700 และ RAM ขนาดสูงสุด 8GB

Redmi 11A

Redmi 11Aได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงาน TENAA ของประเทศจีนแล้ว โดยภาพหลุดตัวเครื่องแสดงให้เห็นว่ามีความคลายกับรุ่นก่อนอย่าง Redmi 10A และ Redmi 10C พอสมควร มาพร้อมหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.7 ความละเอียด HD+ ใช้สัดส่วนแบบ 20:9 รีเฟรชเรท 90Hz ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13 ใช้ชิปประมวลผล Dimensity 700 ขนาด 7 นาโนเมตร

ให้ความเร็วสูงสุด 2.2GHz (แรงกว่าชิปเซ็ต Helio G25 ที่อยู่ใน Redmi 10A) ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ที่มีให้เลือกทั้ง 2GB/4GB/6GB/8GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 32GB/64GB/128GB/256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W ผ่านพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 2.0 

Redmi 11A

ในด้านการถ่ายภาพคาดว่าRedmi 11A จะมากับกล้องหลัง 2 ตัว ความะเอียด 50MP+2MP ติดตั้งอยู่ในกรอบทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 5MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูด้านบนหน้าจอ

สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัดระดับ FHD ที่ 30fps เช่นกัน รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth 5.1, USB Type-C 2.0, NFC, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และวิทยุ FM ในตัว นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องด้วย 

Redmi 11A

สำหรับRedmi 11A คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ โดยมีราคาราว 177 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6,xxx บาท ส่วนหลังจากเปิดตัวแล้วจะมีการนำเข้ามาทำตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่

คงต้องรอติดตามข่าวจากทางค่าย Xiaomi กันอีกทีหนึ่ง และขอแนะนำ สล็อต โจ๊กเกอร์  เว็บคาสิโนออนไลน์ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ฝากถอนง่าย ให้กำไรสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว Nokia T10 แท็บเล็ตไซส์เล็กจอ 8 นิ้ว กล้องหลัง 8MP ชิปเซ็ต Unisoc T606

Nokia T10

Nokia T10 แท็บเล็ตรุ่นภาคต่อของNokia T20 ที่คราวนี้มาพร้อมดีไซน์ขนาดกะทัดรัด เน้นพกพาสะดวกด้วยหน้าจอแบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด HD+ ปรับความสว่างได้สูงสุด 450 nits

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่การันตีการอัพเดตระบบปฏิบัติการถึง 2 ปีเต็ม ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 ที่ให้ความเร็วสูงสุด 1.6GHz และมีกล้องหลังความละเอียด 8MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,250mAh รองรับระบบชาร์จไว 10W 

Nokia T10 มากับชิปเซ็ต Unisoc T606 และ RAM ขนาด 4GB

Nokia T10

Nokia T10มาในดีไซน์ค่อนข้างเล็ดกะทัดรัด เน้นพกพาสะดวก มาพร้อมหน้าจอแบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด HD+ บนอัตราส่วน 16:10

มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 189 ppi ปรับความสว่างได้สูงสุด 450 nits ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ที่การันตีการอัพเดตระบบปฏิบัติการถึง 2 ปีเต็ม

หรือจนถึง Android 14 ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 ขนาด 12 นาโนเมตร ให้ความเร็วสูงสุด 1.6GHz ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MP1 ประสิทธิภาพโดยรวมเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 64GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,250mAh รองรับระบบชาร์จไว 10W 

Nokia T10

  Nokia T10ยังมากับกล้องหลังขนาด 8MP พ่วงระบบ Auto Focus สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 2MP รองรับระบบปลดล็อคแบบสแกนใบหน้าแม้ใส่หน้ากากอนามัย รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0 USB Type-C 2.0 และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX2 ที่สามารถป้องกันละอองน้ำและเหงื่อได้ด้วย ในส่วนของฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ได้แก่ Google Kids Space ที่ทำงานร่วมกับ Family Link ทำให้ผู้ปกครองสามารถควบคุมเวลาและจำกัดเนื้อคอนเทนต์ที่เข้าถึงให้เหมาะกับช่วงวัยของเด็ก ๆ ได้อย่างเหมาะสม 

Nokia T10

สำหรับNokia T10 มีกำหนดวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเราตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยมีเพียงสีเดียวคือ สีน้ำเงิน (Ocean Blue) มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 5,9xx บาท

สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์อย่าง Shopee และ Lazada รวมถึงร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศและไม่ควรพลาด ufabet147  เว็บไซต์คาสิโนออนไลน์คุณภาพ เล่นง่าย รวยไว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดภาพจริง HUAWEI Pocket S มาพร้อมจอ OLED 120Hz กล้องหลัง 40MP ขุมพลัง SD778G

HUAWEI Pocket S

HUAWEI Pocket S ว่าที่มือถือจอพับสไตล์รุ่นใหม่ที่ล่าสุดได้มีการปล่อยภาพตัวเครื่องจริงออกมาให้เห็นกันแล้ว โดยมากับหน้าจอหลักแบบ OLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2780 x 1180 พิกเซล รีเฟรชเรท 120Hz มีหน้าจอรองด้านนอกขนาด 1.04 นิ้ว

ความละเอียด 340 x 340 พิกเซล ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Harmony OS 3 ใช้ชิปประมวลผลระดับมิดเรนจ์อย่าง Snapdragon 778G พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 40W 

HUAWEI Pocket S มากับชิปเซ็ต Snapdragon 778G และ RAM ขนาด 8GB

HUAWEI Pocket S

HUAWEI Pocket S มากับหน้าจอหลักแบบ OLED ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด 2780 x 1180 พิกเซล มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลสูงถึง 439 ppi รีเฟรชรท 120Hz

ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus มีหน้าจอรองด้านนอกขนาด 1.04 นิ้ว ความละเอียด 340 x 340 พิกเซล ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Harmony OS 3 ที่ไม่รองรับ GMS ใช้ชิปประมวลผลระดับมิดเรนจ์อย่าง Snapdragon 778G ขนาด 6 นาโนเมตร

ให้ความเร็วสูงสุด 2.4GHz ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 8GB

HUAWEI Pocket S

และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุสูงสุด 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 40W ที่ว่ากันว่าสามารถชาร์จแบตจาก 0 – 100% ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง 

ในด้านการถ่ายภาพคาดว่าHUAWEI Pocket S จะมากับกล้องหลัง 2 ตัว ความละเอียดอยู่ที่ 40MP+13MP รองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง 120 องศา และสามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด 4K ที่ 30fps

พร้อมกล้องหน้าขนาด 10.7MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูด้านบนหน้าจอ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 4G, Bluetooth 5.2, USB Type-C 2.0 และ NFC นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องมาให้ด้วย

สำหรับHUAWEI Pocket S คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยมีด้วยกัน 6 สี ได้แก่ สีฟ้า, สีชมพู, สีเขียว, สีเงิน, สีทอง และสีดำ ส่วนราคาคาดว่าจะเริ่มต้นที่ 4,999 หยวน หรือประมาณ 25,xxx บาท

HUAWEI Pocket S

ส่วนหลังจากเปิดตัวแล้วจะมีการส่งมาวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยหรือไม่นั้น คงต้องติดตามข่าวกันอีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด Uf99999 เว็บพนันบอลออนไลน์ ดีที่สุด มั่นคง ฝากถอน ออโต้ รวดเร็ว 24 ชั่วโมง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว METAVERTU สมาร์ทโฟนสุดหรู รองรับ WEB3 รุ่นแรกของโลก ชิปเซ็ต SD 8 Gen 1

METAVERTU

METAVERTU มือถือสุดหรูจากแบรนด์ VERTU ที่คราวนี้มาพร้อมระบบ WEB3 เจาะฐานลูกค้านักเทรดเหรียญดิจิทัลโดยเฉพาะ ติดตั้งหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz

ใช้ชิปประมวลผลระดับท็อปอย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ที่ให้ขุมพลังแรงสูงสุดถึง 3.0GHz เมื่อเปิดระบบ WEB3 จะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ IPFS Decentralize Storage สูงถึง 10TB และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุดถึง 64MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,600mAh รองรับระบบชาร์จไว 55W 

METAVERTU มากับชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 และ RAM ขนาดสูงสุด 18GB

สมาร์ทโฟนสุดหรู รองรับ WEB3 รุ่นแรกของโลก

METAVERTUเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่รองรับระบบ WEB3 มาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว คมชัดระดับ FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 1,000 nits ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงของ Qualcomm อย่าง Snapdragon 8 Gen 1 ขนาด 4 นาโนเมตร

ให้ความเร็วสูงสุดถึง 3.0GHz ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 730 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 18GB

และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุสูงสุด 1TB เมื่อเปิดระบบ WEB3 จะมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ IPFS Decentralize Storage สูงถึง 10TB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด4,600mAh รองรับระบบชาร์จไว 55W และระบบชาร์จไร้สาย 15W 

สมาร์ทโฟนสุดหรู รองรับ WEB3 รุ่นแรกของโลก

METAVERTUยังมากับกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64MP+50MP+8MP ใช้เซนเซอร์หลักเป็น IMX787 ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ขนาด 16MP ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ มีโหมดถ่ายรูปพิเศษ Vshot Blockchain Camera ที่สามารถสร้างภาพถ่ายของตัวเองให้กลายเป็นสินทรัพย์ประเภท NFT ได้

นอกจากนี้ ตัวสมาร์ทโฟนยังมีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถท่องเว็บ หรือเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางผ่านระบบ WEB3 และเซ็นเซอร์สัญญาณเตือนภัยเพื่อปกป้องสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนบุคคล แถมยังมีฟีเจอร์ VTALK ที่เข้ารหัสทุกการสนทนาผ่านเทคโนโลยี Instant messaging ช่วยให้ทุกการสนทนาเป็นความลับ

METAVERTU

สำหรับMETAVERTU สามารถเลือกวัสดุตัวเครื่องและดีไซน์วัสดุฝาหลังตัวเครื่องได้มากถึง 8 แบบ มีตั้งแต่คาร์บอนไฟเบอร์, ทอง 18K ไปจนถึงหนังจระเข้หิมาลายัน

ซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับวัสดุและดีไซส์ที่เลือกใช้ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,800 หยวน หรือประมาณ 135,xxx บาท และขอเสนอ aegaming1688 คาสิโนออนไลน์ เล่นได้ทุกที่ สะดวกสบาย เล่นง่าย ได้เงินไวมาก ให้กำไรสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว iPad Pro 2022 มาพร้อมชิปเซ็ต Apple M2 ซีพียูแรงขึ้น 15% และจีพียูแรงขึ้น 35% 

iPad Pro 2022

iPad Pro 2022 แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ของ Apple ที่คราวนี้มีการอัปเกรดชิปประมวลผลมาใช้ Apple M2 ที่มีขุมพลังซีพียู (CPU) แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 15%

พร้อมจีพียู (GPU) ที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 35% แถมยังมี Neural Engine ที่เพิ่มความสามารถด้านการประมวลผลของระบบ Machine Learning อีกถึง 40% เรียกได้ว่าแรงเหลือ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือการทำงานกราฟิก 3D 

iPad Pro 2022 มีหน้าจอให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว

iPad Pro 2022

iPad Pro 2022มาพร้อมกับหน้าจอ 2 ขนาด ได้แก่ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว โดยในรุ่น 11 นิ้ว จะใช้หน้าจอแบบ Liquid Retina ความละเอียด 2388 x 1668 พิกเซล ที่มีเทคโนโลยี ProMotion รีเฟรชเรท 120Hz รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision ส่วนรุ่น 12.9 นิ้ว

จะใช้หน้าจอแบบ Liquid Retina XDR ความละเอียด 2732 x 2048 พิกเซล รีเฟรชเรท 120Hz ปรับความสว่างได้สูงสุดถึง 1,600 nits เอาไปใช้งานกลางแจ้งได้แบบสบาย ๆ

รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision และเช่นเคยทั้ง 2 ขนาด รองรับการใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2 และ Magic Keyboard 

iPad Pro 2022

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 16 ใช้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Apple M2 ที่ทาง Apple เคลมว่า มีขุมพลังซีพียู (CPU) ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 15%

พร้อมจีพียู (GPU) ที่ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 35% แถมยังมี Neural Engine ที่เพิ่มความแรงการประมวลผลของระบบ Machine Learning อีก 40% เรียกได้ว่าแรงเหลือ ๆ

สำหรับการใช้งานทั่วไปหรือการทำงานกราฟิก 3D หนัก ๆ ในส่วนของหน่วยความจำ RAM มีให้เลือกตั้งแต่ 128GB/256GB/512GB/1TB/2TB 

นอกจากนี้ ยังคงมากับชุดกล้องหลัง 2 ตัว เหมือกับรุ่นปี 2021 ความละเอียด 12MP+10MP+LiDAR พร้อมกล้องหน้าขนาด 12MP รองรับการถ่ายเซลฟี่มุมกว้าง 122 องศา รองรับการเชื่อมต่อ 5G และ Wi-Fi6E 

iPad Pro 2022

สำหรับiPad Pro 2022 มีราคาวางจำหน่ายสำหรับรุ่น Wi-Fi ขนาด 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 32,9xx บาท และขนาด 12.9 เริ่มต้นที่ 44,9xx บาท ส่วนรุ่น 5G ขนาด 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 38,9xx บาท และขนาด 12.9 นิ้ว เริ่มต้นที่ 50,900 บาท

แต่วันวางจำหน่ายในประเทศยังต้องรอ Apple ประกาศอีกทีหนึ่ง และขอแนะนำ สล็อต เว็บใหญ่ pg เกมสล็อต ที่ดีที่สุด ฟรีเครดิต ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ให้กำไรสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว TECNO Spark 9 Pro Sport Edition มือถือรุ่นลิมิเต็ดออกแบบโดยแบรนด์ BMW

TECNO

 TECNO Spark 9 Pro Sport Edition เป็นมือถือรุ่นพิเศษที่ได้แบรนด์รถหรูจากเยอรมันอย่าง BMW เป็นผู้ออกแบบโดยใช้ธีม “ฟ้า-ขาว” ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ BMW พร้อมฝาหลังลวดลายเหลี่ยมเพชร เพิ่มความโฉบเฉี่ยวสไตล์รถสปอร์ต

ส่วนสเปคต่าง ๆ ยังคงใช้แบบเดียวกับ Spark 9 Pro รุ่นธรมดา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ใช้ชิปประมวลผล Helio G85 ให้ความเร็วสูงสุด 2.0GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W 

TECNO Spark 9 Pro Sport Edition มากับชิปเซ็ต Helio G85 ขนาด 12 นาโนเมตร  

TECNO

TECNO Spark 9 Pro Sport Edition มาในธีม “ฟ้า-ขาว” ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์ BMW ฝาหลังตกแต่งด้วยลวดลายเหลี่ยมเพชรให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ส่วนสเปคต่าง ๆ ยังคงใช้แบบเดียวกับ Spark 9 Pro รุ่นธรมดา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส HiOS 8.6 ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio G85 ขนาด 12 นาโนเมตร

ให้ขุมพลังแรงสูงสุด 2.0GHz ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G52 MC2 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาด 4GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W

TECNO

TECNO Spark 9 Pro ยังมากับกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดระดับ 50MP+2MP+2MP รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 32MP ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ

รองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB Type-C 2.0, Bluetooth 5.1, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รวมถึงรองรับคลื่นวิทยุ FM ในตัว นอกจากนี้ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องด้วย 

TECNO

สำหรับ TECNO Spark 9 Pro Sport Edition เปิดราคาวางขายอยู่ที่ 265 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 10,xxx บาท โดยจะวางขายในประเทศกลุ่มลาตินอเมริกา, แอฟริกา และตะวันออกกลาง

ส่วนของประเทศไทยนั้นยังไม่มีข้อมูลว่าจะมีการนำเข้ามาวางขายด้วยหรือไม่ เพราะจนถึงตอนนี้ Spark 9 Pro รุ่นธรรมดาก็ยังไม่ได้เข้ามาขายเหมือนกัน และขอแนะนำ เกมจรวดวัดใจ เล่นง่าย อัตราจ่ายรางวัลสูง ปลอดภัย ให้บริการตลอดเวลา

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ส่องภาพ Moto G72 คาดมาพร้อมจอ AMOLED กล้องหลัง 108MP ชาร์จไว 33W

Moto G72

Moto G72 มือถือระดับมิดเรนจ์รุ่นใหม่ที่มีการปล่อยภาพตัวอย่างออกมาแล้ว เบื้องต้นคาดว่ามันจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 120Hz ติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ใช้ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงอย่าง Snapdragon 695 5G ที่ให้ขุมพลังแรงระดับ 2.2GHz และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัดสูงสุดถึง 108MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W 

Moto G72 อาจใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 695 และ RAM ขนาดสูงสุด 8GB

Moto G72

Moto G72มาพร้อมบอดี้ที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำระดับ IP52 ที่สามารถป้องกันละอองน้ำที่เข้ามาในมุมไม่เกิน 15 องศาในแนวตั้งได้

ติดตั้งหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ บนอัตราส่วน 20:9 มีค่าความหนาแน่นเม็ดพิกเซลอยู่ที่ 398ppi รีเฟรชเรท 120Hz และติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ใช้ชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงอย่าง Snapdragon 695 5G ขนาด 6 นาโนเมตร ให้ขุมพลังแรงสูงสุด 2.2GHz

ทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิกแบบ Adreno 619 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 8GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 33W 

Moto G72ยังมากับกล้องหลังแบบ 3 ตัว ความละเอียด 108MP+8MP+2MP รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps

Moto G72

พร้อมทั้งฟีเจอร์ถ่ายภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Dual Capture, Spot Color, Night Vision, Macro Vision, Cinemagraph, Portrait ฯลฯ และมีกล้องหน้าขนาด 16MP

ที่ใช้ดีไซน์แบบเจาะรูตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps เช่นเดียวกัน  ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ

คาดว่าจะรองรับทั้ง USB Type-C 2.0, Bluetooth 5.2, NFC, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รวมถึงรองรับคลื่นวิทยุ FM ได้ด้วย 

สำหรับMoto G72 ยังไม่มีข้อมูลเรื่องกำหนดการเปิดตัวและวางขาย แต่แหล่งข่าวจากอินเดียระบุว่า มันจะเคาะราคาวางจำหน่ายในอินเดียอยู่ที่ 19,990 รูปี หรือประมาณ 9,xxx บาท

Moto G72

แต่หลังจากเปิดตัวแล้วจะมีการส่งไปทำตลาดยังประเทศไหนบ้างนั้น คงต้องข่าวความเคลื่อนไหวจากข่าวจากทาง Motorola กันอีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด uf99999 คาสิโนออนไลน์ ยูฟ่าเบท เล่นง่ายได้เงินจริง กับระบบ ฝากถอนออโต้ ให้รางวัลมากมาย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

ลือสนั่น! Galaxy S24 Series อาจรองรับ Wi-Fi 7 เปิดตัวครึ่งหลังของปี 2024

Galaxy S24 Series

Galaxy S24 Series มือถือเรือธงรุ่นประจำปี 2024 ได้มีข่าวลือหลุดออกมาว่า มันอาจเป็นมือถือรุ่นแรก ๆ ของโลกที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 ซึ่งสามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้สูงสุดถึง 30Gbps หรือสูงกว่า Wi-Fi6 ที่ใช้งานกันในปัจจุบันหลายเท่า

สามารถใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สตรีมวิดีโอความคมชัดระดับ 8K, cloud computing, AR/VR, ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น Wi-Fi 7 ยังรองรับย่านความถี่เก่า ๆ อย่าง 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz ได้ด้วย 

 Galaxy S24 Series อาจเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2024

Galaxy S24 Series

ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวต่างประเทศระบุว่าGalaxy S24 Series อาจเป็นมือถือรุ่นแรก ๆ ของโลกที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 ซึ่งสามารถทำความเร็วในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้สูงสุดถึง 30Gbps หรือสูงกว่า Wi-Fi6 ที่ใช้งานกันในปัจจุบันมากกว่า 2 เท่า

สามารถใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สตรีมวิดีโอความคมชัดระดับ 8K, cloud computing, AR/VR, ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้น Wi-Fi 7 ยังรองรับย่านความถี่เก่า ๆ อย่าง 2.4GHz, 5GHz และ 6GHz ได้ด้วย ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงกว่า Wi-Fi เวอร์ชั่นเก่า

Galaxy S24 Series

ทั้งนี้ บริษัทผู้ผลิตชิปประมวลผลรายใหญ่ทั้ง MediaTek และ Qualcomm ต่างก็กำลังเร่งพัฒนาชิปที่รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7 กันอย่างเต็มที่ ทำให้คาดกันว่ามาตรฐาน Wi-Fi 7 น่าจะเริ่มใช้งานกันอย่างแพร่หลายในช่วง 1 – 2 ปีต่อจากนี้อย่างแน่นอน 

Galaxy S24 Series

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของGalaxy S24 Series เพราะกว่าที่มันจะเปิดตัวก็ต้องรออีกเกือบ 2 ปี แต่ในช่วงต้นปี 2023

จะมีการเปิดตัวGalaxy S23 Series ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 6.1, 6.6 และ 6.8 นิ้ว เท่ากับ S22 Series ใช้ขุมพลังรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8 Gen 2

ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ พร้อมจีพียู Adreno 740 และยังมีข่าวว่ามันจะมาพร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงสุดถึง 200MP และกล้องหน้าความละเอียดสูงสุดถึง 40MP ส่วนสเปคอื่น ๆ

คงต้องติดติดตามในวันเปิดตัวอีกทีหนึ่ง  และอย่าพลาด สล็อต ยู ฟ่า 777 เล่นง่าย ได้เงินจริง ระบบฝากถอนมาตรฐานสากล รวดเร็ว ปลอดภัย ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เตรียมเปิดตัว OnePlus 11 Pro มือถือเรือธงมาพร้อมจอ AMOLED ชาร์จไว 100W ขุมพลัง SD8 Gen 2

OnePlus 11 Pro

OnePlus 11 Pro ว่าที่มือถือเรือธงรุ่นใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เคยมีภาพเรนเดอร์หลุดออกมา ล่าสุดก็มีข้อมูลสเปคส่วนใหญ่หลุดตามออกมาเพิ่ม โดยจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ รีเฟรชเรท 120Hz

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ใช้ขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 ที่คาดว่าจะให้ความเร็วสูงสุดถึง 3.5GHz

และมีกล้องหลัง 3 ตัว ความคมชัดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 100W ชาร์จไร้สายที่ 50W 

OnePlus 11 Pro มาพร้อมชิป Snapdragon 8 Gen 2 และ RAM ขนาดสูงสุด 16GB

OnePlus 11 Pro

OnePlus 11 Proคาดว่าจะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด QHD+ บนอัตาส่วน 20:9 มีค่าความหนาแน่นพิกเซลที่ 526ppi รีเฟรชเรท 120Hz

และติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass Victus ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี

ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 13 ตั้งแต่แกะกล่อง ครอบด้วยอินเตอร์เฟส OxygenOS 13 ใช้ขุมพลังตัวแรงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2

ที่คาดว่าจะให้ความเร็วสูงสุดถึง 3.5GHz ทำงานร่วมกับหน่วยความจำ RAM ขนาดสูงสุด 16GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 3.1 ความจุสูงสุด 256GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไว 100W ชาร์จไร้สายที่ 50W 

OnePlus 11 Pro

OnePlus 11 Proยังมีกล้องหลัง 3 ตัว ที่พัฒนาโดยแบรนด์ Hasselblad ติดตั้งอยู่บนโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่แปะโลโก้ Hasselblad ความละเอียดระดับ 50MP+48MP+32MP รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด 8K ที่ 24Fps / 4K ที่ 120fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 16MP

รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps  ในส่วนของการเชื่อมต่อต่าง ๆ คาดว่าจะรองรังทั้ง Wi-Fi6E, Bluetooth 5.3, USB Type-C 3.1 และ NFC  นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่สามารถกันน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาทีด้วย 

OnePlus 11 Pro

สำหรับOnePlus 11 Pro คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2023 ส่วนเรื่องราคาวางจำหน่ายและประเทศที่จะวางขายนั้นยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งคงต้องรอติดตามข่าวจากทางOnePlus อีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด vip ufa คาสิโนออนไลน์ UFABET ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย รวยไว ให้รางวัลมากมาย

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่

เปิดตัว vivo Y32t 4G มาพร้อมจอ IPS 6.51 นิ้ว แบตอึด 5,000mAh ชิปเซ็ตสองเวอร์ชั่น

vivo Y32t 4G

vivo Y32t 4G มือถือระดับมิดเรนจ์รุ่นล่าสุดของค่าย vivo ที่คราวนี้มาแปลกกว่าทุกครั้ง เนื่องจากมันมีชิปเซ็ตให้เลือกถึง 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ Helio G70 และ Snapdragon 680 แต่ในส่วนของสเปคอื่น ๆ ก็ยังคงเหมือนกันหมด

ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดผลแบบ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD+ ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 และมีกล้องหลังแบบสองตัว ความละเอียดสูงสุด 13MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับระบบชาร์จไวระดับ 18W 

vivo Y32t 4G มาพร้อมชิปประมวลผล Helio G70 และ Snapdragon 680 

vivo Y32t 4G

vivo Y32t 4Gมาพร้อมชิปประมวลผลถึง 2 รุ่น จาก 2 ค่าย วางขายควบคู่กันไป ได้แก่ MediaTek Helio G70 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็ว 2.0GHz และ Qualcomm Snapdragon 680 ขนาด 6 นาโนเมตร ความเร็ว 2.4GHz โดยรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Helio G70

จะมาพร้อมหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ UFS 2.1 ความจุ 128GB รองรับ Bluetooth เวอร์ชั่น 4.2

ส่วนรุ่นที่ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 680 จะใช้หน่วยความจำ RAM LPDDR4X เหมือกนกัน แต่ในส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลภายในจะอัพเกรดเป็นแบบ UFS 2.2 ความจุ 256GB และรองรับ Bluetooth 5.0 

vivo Y32t 4G

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสเปคอื่น ๆ ก็เรียกได้ว่าเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ บนอัตราส่วน 20:9 ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh

รองรับระบบชาร์จไวระดับ 18W ติดตั้งกล้องหลังแบบสอวตัว ความละเอียด 13MP+2MP รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps และมีกล้องหน้าขนาด 8MP

ที่ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการเชื่อมต่อ Dual-band Wi-Fi, พอร์ต microUSB รวมถึงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างตัวเครื่องด้วย

สำหรับvivo Y32t 4G มีราคาเปิดตัวรุ่นที่ใช้ชิป Helio G70 อยู่ที่ 1,099 หยวน หรือประมาณ 5,xxx บาท ส่วนรุ่นที่ใช้ชิป Snapdragon 680 อยู่ที่ 1,299 หยวน หรือประมาณ 6,xxx บาท

vivo Y32t 4G

ส่วนหลังจากนี้จะมีการส่งออกมาขายยังต่างประเทศด้วยหรือไม่นั้น คงติดตามข่าวจากทาง vivo กันอีกทีหนึ่ง และอย่าพลาด uf99999  คาสิโนออนไลน์ ยูฟ่าเบท เล่นง่ายได้เงินจริง กับระบบ ฝากถอนออโต้ ให้รางวัลสูง

ติดตาม ข่าวสารวงการไอที และ อัพเดทได้ก่อนใครที่นี่